X

จนท.เร่งแก้ปัญหาช้างป่ารุกพื้นที่ชุมชนและทำลายพืชผลทางการเกษตรใน จ.ปราจีนบุรี

ปราจีนบุรี – ช้างป่า 7 ตัว ลุยไร่มันชาวบ้าน พบฝูงช้างบุกป่ากล้วยได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ป่าไม้สนธิกำลังฝ่ายปกครองติดตามช้างป่าได้รับบาดเจ็บ

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.63 ภายหลังได้รับแจ้งว่า ที่บ้านหว้าเอน ม.8 ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านพบเห็นช้างป่า 6-7 ตัว อยู่บริเวณป่าไร่มันท้ายหมู่บ้าน จึงลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน พบฝูงช้างป่าตัวใหญ่ 6-7 ตัว เดินอยู่ริมป่าไร่มันเชิงเขาเขาหว้าเอน ช้างฝูงดังกล่าวคาดว่า แตกฝูงมาจากเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤไน โดยมีกลุ่มชาวบ้านมาดูช้างป่าฝูงดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งทุกคนไม่มีท่าทีกลัวช้างป่าแต่อย่างใด ชาวบ้านบอกว่า เห็นช้างป่าอ่างฤาไนแตกฝูงมาหลายวันแล้วไม่ยอมกลับป่าฯ ซึ่งจากการสอบถาม นายป๋อง ด่านมี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า เห็นช้างป่าบ่อยมากแต่ละครั้งมี 5-10 ตัวหรือมากกว่านี้แล้ว แต่จะรวมฝูงกันมาหากินในพื้นที่นี้ โดยผู้ใหญ่บ้านประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบแล้วให้ระวังช้างป่า เพราะครั้งที่แล้วช้างป่ากระทืบสัปเหร่อวัดหว้าเอน สาหัสมาแล้วครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า มีการเผยคลิปภาพช้างป่าอ่างฤาไน ขาเจ็บ 1 ตัว อยู่ข้างสวนแตงโม บ้านหว้าเอน ม.8 ต.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ไม่ทราบว่าช้างป่าตัวดังกล่าวที่พบเห็นนั้นได้รับบาดเจ็บเกิดจากสาเหตุใด ขณะนี้ยังไม่มีใครพบตัวช้างป่า โดยนายสมชาย ธรรมมะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผสร.สุกรี ดวงโดด ม.10 เปิดเผยว่า พบเห็นช้างป่าได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาหน้า วนเวียนอยู่ข้างสวนแตงโมช่วงเช้า และได้รายงานให้ผู้ใหญ่บ้านทราบแล้ว ต่อมา ชาวบ้านหว้าเอนและชาวบ้านมาบเหียง ม.10 ต.หนองโพลง พบเห็นฝูงช้างป่ามากกว่า 10 ตัว บุกเข้ากัดกินกล้วยของชาวบ้านเสียหายหนัก

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ นางสาวเกตกมล จำลอย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.10 ต.ศรีมหาโพธิ พร้อมชาวบ้านไปดูสวนข้างบ้านพบรอยช้างกัดกินและเหยียบย่ำกล้วยในสวนเสียหายยับเยิน และหักกินไม้ไผ่ในสวนอีกด้วย นางสาวเกตกมล กล่าวอีกว่า กรณีที่ช้างป่าอ่างฤาไนแตกฝูงมาหากินในพื้นที่เขตรอยต่อ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน ดูแลและมีมาตรการป้องกันช้างป่าที่เป็นจ่าฝูงมาหากินในพื้นที่นี้ให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ การที่ช้างป่าบุกเข้ามาทำลายข้าวของของประชาชนในพื้นที่เสียหาย ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบทรัพย์สินที่เสียหาย ขณะนี้ชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้าน เห็นช้างมาหากินในไร่สวนเริ่มหวาดกลัวช้างป่าฝูงนี้มากขึ้นทุกวัน ยิ่งรู้ว่า ช้างป่าตัวใหญ่ตัวหนึ่ง ทำร้ายสัปเหร่อวัดหว้าเอน อาการสาหัสรอดตายหวุดหวิดยิ่งกลัวมากขึ้น

นอกจากนั้น ได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชอ่างฤาไน จำนวน 6 นาย สนธิกำลังฝ่ายปกครอง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยนายชัยวัน นิยม นายอำเภอศรีมหาโพธิ สั่งการให้ นายเกรียงไกร อังศุโภไคย์ ปลัดอำเภอ นำกำลัง อส. 6 นาย และนายณัฐวุฒิ ผาสุขเจริญไพบูลย์ กำนันตำบลศรีมหาโพธิ นายมนตรี ชาญกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ้านหว้าเอน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฯ ชาวบ้านออกติดตามค้นหาช้างป่าที่มีคนพบเห็นในหมู่บ้านหลายสิบตัว หนึ่งในนั้นเป็นช้างที่ได้รับบาดเจ็บขาขวาหลัง มีลักษณะเดินลากขาตลอดเวลา ขณะพบเห็นช้างตัวดังกล่าวมีอาการเครียด หักกิ่งไม้โยนใส่ผู้พบเห็น ผู้พบเห็นช้างตัวดังกล่าวรีบหนีออกมา เกรงว่า จะได้รับอันตรายและแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ เพื่อรายงานให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ

ขณะเดียวกัน มีประชาชนเห็นฝูงช้างป่าอยู่ในป่ายูคาลิปตัสอีกฝูงหนึ่ง ช้างฝูงดังกล่าวได้แตกฝูงออกจากกันเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 10-30 ตัว ทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความหวาดกลัวช้างป่าที่พบเห็นที่อยู่ในป่ายูคาลิปตัส จะทำร้ายเพราะว่าช้างป่าตัวหนึ่งได้ทำร้ายคนในหมู่บ้านรอดตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ฝ่ายปกครองประสานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้มาตรวจสอบบริเวณป่ายูคาลิปตัสตามที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ได้วางแผนที่จะผลักดันช้างป่ากับถิ่นฐานเดิม โดยขอกำลังสนับสนุนจากหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูจำนวนหนึ่ง ปลัดอำเภอได้สอบถามเจ้าหน้าที่ชุดติดตามช้างป่า ถึงเรื่องที่มีประชาชนพบเห็นช้างตัวหนึ่งมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณขา ได้รับรับคำตอบว่า กรณีที่มีคนพบเห็นช้างป่าที่เดินขาลากคล้ายอาการบาดเจ็บนั้น คาดว่า น่าจะเป็นช้างป่าที่พิการอยู่แล้ว ซึ่งมีอยู่ 1 ตัว และมีช้างป่าที่บาดเจ็บอีก 1 ตัว ยังไม่ทราบว่า เป็นตัวใดแน่ชัดทางหน่วยได้ติดตามเฝ้าดูมาประจำหากว่ามีการพบเห็นช้างป่าเข้ามาในพื้นที่ ให้รีบแจ้งให้ทราบทันที จะได้มาทำการผลักดันช้างออกจากชุมชนโดยเร็ว

ทางด้าน นายมนตรี ชาญกิจ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 กล่าวว่า ชาวบ้านแจ้งว่า พบเห็นช้างในหมู่บ้านนับเดือนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่มาผลักดันช้างกลับป่า เพราะชาวบ้านไม่กล้าที่จะออกไปทำงานในไร่ในสวนแล้ว กลัวช้างป่า และเห็นช้างป่ามีอาการเจ็บที่ขา ไม่ทราบว่า เกิดจากอะไร อยากให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ติดตามดูให้แน่ชัดว่า เป็นเพราะอะไรแน่ จะได้หาทางรักษาให้ช้าง ทุกคนรู้ว่าช้างเดินขาลากเกิดความสงสารช้างป่าตัวดังกล่าว

————————–
ข่าว-ภาพโดย/ลักขณา สีนายกอง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"