ชาวบ้านแห่ร้องอุตสาหกรรม โรงงานขยะพิษ จ.สระแก้ว ปล่อยน้ำเสียขยะพิษ

สระแก้ว – ชาวบ้านในพื้นที่โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานนคร จ.สระแก้ว บุกศาลากลางจังหวัดแห่ร้องอุตสาหกรรม โรงงานขยะพิษ ประเภท 101 จ.สระแก้ว ปล่อยน้ำเสียขยะพิษออกสู่ชุมชน

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ศูนย์ราชการและศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายชาลี อินทะโสภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบประมาณ 50 คน เดินเข้าร้องเรียนต่อ นายสมพร ทองคำ รักษาการอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม และหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน กรณีที่บริษัทโปรเฟสชั่นแนล เวสต์ (1999) จำกัด (มหาชน) ทำผิดเงื่อนไขรายงาน EIA โดย นายชาลี ระบุว่า ตัวแทนชาวบ้านต้องการร้องเรียนการปฏิบัติที่ผิดเงื่อนไขในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ของบริษัท เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ทางบริษัทฯดังกล่าวประกอบกิจการไม่ถูกต้อง

นายชาลี กล่าวอีกว่า ชาวบ้านพบว่า มีการปล่อยให้น้ำชะกากจากหลุมขยะไม่อันตราย L8 ออกนอกพื้นที่ของบริษัทฯ ทำให้ในช่วงเวลา 14.30 น.ของวันที่ 25 กันยายน 2563 ตนพร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลโนนหมากเค็ง จึงได้ลงพื้นที่ไปยังบริษัทเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้พบการดำเนินการประกอบกิจการโดยไม่ถูกต้อง ผิดเงื่อนไขในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ประกอบด้วย บริเวณด้านทิศเหนือของบ่อฝังกลบกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย L8 ทางบริษัทได้มีการปล่อยน้ำชะกากให้ล้นบ่อฝังกลบกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย L8 ออกนอกมายังพื้นที่ของชาวบ้าน

“ลักษณะของน้ำชะกากที่ไหลออกนอกพื้นที่บริษัทฯ มีลักษณะสีดำเข้ม มีกลิ่นเหม็นสารเคมี ซึ่งเป็นการประกอบกิจการกิจการโดยไม่ถูกต้อง ผิดเงื่อนไขในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผมและตัวแทนชาวบ้านเกรงว่า หากน้ำชะกากดังกล่าว มีสารอันตรายหรือสารโลหะหนักปนเปื้อน ไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติที่ประชาชนใช้อุปโภค บริโภค จะเกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนโดยรวม รวมทั้งยังพบว่า มีรถขนส่งกากอุตสาหกรรมอันตราย เข้าเทกากอุตสาหกรรมอันตราย โดยตรง ลงในบ่อฝังกลบกากอุตสาหกรรมอันตราย L3 โดยมิได้มีการผ่านกระบวนการปรับเสถียรกาก ซึ่งไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ด้วย

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กล่าวอีกว่า ชาวบ้านเกรงว่า หากกากอุตสาหกรรมอันตราย มิได้ผ่านกระบวนการบำบัดโดยการปรับเสถียรเพื่อลดพิษ และให้อยู่ในสภาพเสถียรแล้ว หากเกิดน้ำชะกากขึ้น น้ำชะกากนั้นจะเป็นอันตรายร้ายแรงกับประชาชน ซึ่งหากมีการรั่วไหลออกนอกพื้นที่ หรือรั่วซึมลงสู่น้ำใต้ดินจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้ ซึ่งหลังจากทางบริษัทฯรับทราบว่า ตัวแทนชาวบ้านกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจึงได้รีบดำเนินการนำดินมาปิดคลุมการกระทำความผิดในทันที

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านระบุว่า มีหลักฐานปรากฏตามรูปถ่าย ซึ่งได้ส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อทำการตรวจสอบ รวมทั้งยังต้องการให้มีการตรวจสอบแนวทางการไหลของน้ำชะกากจากบ่อกากอุตสาหกรรมไม่อันตราย L8 และการดำเนินการปรับเสถียรขยะอันตราย เพื่อลงบ่อบำบัด L3 เป็นไปตามสูตรการบำบัดที่ได้รับการอนุมัติหรือไม่ โดยขอให้การตรวจสอบใบเสร็จการสั่งซื้อปูนจากร้านค้า ห้างร้านจากบุคคลภายนอก ซึ่งไม่ใช่เป็นการตรวจสอบเอกสารที่ทางบริษัท เป็นผู้จัดทำขึ้นมาเพื่อแสดงแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด ในเรื่องดังกล่าว

ทางด้าน นางโควิน สุริหะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.5 ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ชาวบ้านหมู่ 4 และ หมู่ 5 ต.โนนหมากเค็ง ได้รับผลกระทบมานานแล้วเป็น 10 ปี ทางผู้ประกอบการขยะทำแบบเอาแต่รายได้ และไม่ดูแลชุมชนเลย พอถึงฤดูฝนมา เค้าจะทำอย่างนี้ทุกปี ทำไมทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องให้ชาวบ้านมาเรียกร้อง ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลต้องมาดำเนินการ ทำไมเค้าทำอย่างนี้ ทำทุกปีให้ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องมาเดินเรื่องมาร้องเรียน จึงอยากให้บริษัททำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย ตอนนี้ชาวบ้านเดือนร้อนค่ะ จึงได้มาร้องเรียนร้องเรียน อยากให้บริษัทดูแลชุมชนบ้าน ไม่ใช่เอาแต่รายได้และทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน

ขณะที่ นายสมพร ทองคำ รักษาการอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมลภาวะสารพิษปนเปื้อนในแหล่งน้ำใต้ดิน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้โรงงานฯว่า ได้กลิ่นเหม็นของสารเคมีอย่างมาก และได้รับร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้านที่เข้าไปสังเกตการณ์ รอบ ๆ บริเวณโรงงาน ซึ่งสามารถมองเห็นภาพในโรงงานได้อย่างชัดเจน และได้มีการบันทึกภาพการกระทำผิดของโรงงานไว้ จึงได้รายงานให้เจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบ โดยทางอุตสาหกรรมได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบตามระบบ พร้อมทั้งลงพื้นที่ด้วย โดยในส่วนของด้านสภาวะด้านต่าง ๆ จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาและบำบัดฟื้นฟูและหยุดการแพร่กระจายของสารพิษในระบบน้ำใต้ดินที่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน

“เราจะมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของเราเข้าไปตรวจสอบให้เป็นไปตามข้อกฎหมายทุกอย่าง ทั้งอีไอเอและอื่น ๆ ขณะเดียวกัน เราก็จะบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์ดำรงธรรม, ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กอ.รมน.จังหวัดไปตรวจสอบร่วมกัน และเชิญภาคประชาชนไปด้วยเพื่อความสบายใจ ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านแจ้งมาจะเป็นความผิดอย่างไรหรือไม่ ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อน” รักษาการอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าว

———————————-