X

รวบ 3 ผู้ต้องหาขโมยยกตู้เติมเงิน 5 จุดพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น ตำรวจแกะรอยรวบได้ยกแก๊ง

สระแก้ว – ชาวบ้านร้องเรียนโจรเต็มเมือง ออกตระเวนขโมยยกตู้เติมเงิน 5 จุดพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ตำรวจส่งทีมแกะรอยรวบ 3 ผู้ต้องหาได้ยกแก๊ง สารภาพนำเงินไปเสพยาบ้า

เมื่อวันที่ 25 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ร้องเรียนว่า มีโจรชุกชุมออกตระเวนโจรกรรมขโมยยกตู้เติมเงินตามร้านค้าต่าง ๆ ในพื้นที่ ต.ตาหลังใน และ ต.ทุ่งมหาเจริญ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันถึง 5 จุด ส่งผลให้ผู้นำท้องถิ่นและฝ่ายปกครองอำเภอวังน้ำเย็น ต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้าตรวจสอบ ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น ,พ.ต.ท.สัณห์ชัย เชื้อช่าง รอง ผกก.สภ.วังน้ำเย็น มอบหมายให้ พ.ต.ท.วรวุฒิ งามวัน สารวัตรสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน งานป้องกันปราบปราม สภ.วังน้ำเย็น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายสามารถ หรือมารถ มั่งมี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.1 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ,นายณัฐพร รักด่านกลาง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ม.3 ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา และนายสมชาย โยทุม อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.5 ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ.หนองบัวลำภู

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป, ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งยึดของกลาง เช่น แบตเตอรี่ ยี่ห้อ LEOCH 12 V.7.6.A. จำนวน 1 ลูก ,แบตเตอรี่ ยี่ห้อ GLOBA POWER 12 V.7.2 A จำนวน 1 ลูก วางอยู่ท้ายรถกระบะ ,ชะแลงเหล็ก จำนวน 1 อัน ,ประแจ 10 ตัว ,คีมตัดสายไฟ จำนวน 1 ตัว ,อีเตอร์ จำนวน 1 ตัว , ยาบ้า ลักษณะเม็ดสีแดงกลมแบน จำนวน ครึ่งเม็ด และรถยนต์ ยี่ห้อ อีซุซุ รุ่นดีแม็ก สีน้ำตาล ทะเบียน บต-8031 สระแก้ว พร้อมทั้ง ตู้เติมเงินออนไลน์ บุญเติม อีกจำนวน 4 ตู้ที่ถูกขโมยไป ส่งให้ ร.ต.อ.ยศ ชาสมบัติ และ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่เก็บหลักฐานจากของกลางที่ยึดได้ด้วย

พ.ต.ท.สัณห์ชัย เชื้อช่าง รอง ผกก.สภ.วังน้ำเย็น และ พ.ต.ท.วรวุฒิ งามวัน สารวัตรสืบสวน เปิดเผยว่า แก๊งคนร้ายกลุ่มนี้ได้ร่วมกันขโมยยกตู้เติมเงินติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 21-23 ต.ค.61 รวมจำนวน 5 ตู้ ทาง สภ.วังน้ำเย็น จึงได้ประชุมจัดชุดออกไล่ล่าจนชุดสอบสวนได้เบาะแสภาพกล้องวงจรปิด และซุ่มโป่งจนถึงเวลา 02.30 น.จึงพบกลุ่มคนร้ายขับรถยนต์กระบะต้องสงสัย ไฟท้ายติดข้างเดียวตามภาพจากกล้องวงจรปิด จึงเข้าจับกุมขณะคนร้ายลงมือใช้ไขควงไขตู้เติมเงินเพื่องัดเอาเงินออกจากตู้ด้วย

พ.ต.ท.วรวุฒิ ระบุด้วยว่า กลุ่มคนร้ายรับสารภาพว่า เสพยาเสพติด พร้อมให้การสอดคล้องกันว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์จริงในเขตพื้นที่ ต.ตาหลังใน และ ต.ทุ่งมหาเจริญ โดยที่มือของผู้ต้องหา 1 ใน 3 ราย มีบาดแผลและรอยเลือดติดอยู่กับตู้เติมเงิน ระหว่างทำการงัดตู้ด้วย ซึ่งหลังสอบสวนหาข้อมูลก็สามารถเข้าจับกุมได้ทันที โดยผู้ต้องหาได้เงินสดจากตู้เติมเงินไปตู้ละ 3,000 บาท , 2,000 บาท , 1,000 กว่าบาท และบางตู้มีไม่ถึง 100 บาท

ทางด้าน น.ส.ปานชญา โชรัมย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.1 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เจ้าของร้านเสนาะเซ็นเตอร์ ซึ่งถูกแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้โจรกรรมลักตู้เติมเงินไปจากบริเวณหน้าร้าน กล่าวว่า ตู้หายไปช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.ของวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา มาทราบว่าตู้หายไปตอนมาเปิดร้านช่วงเช้า หลังจากก่อนหน้านี้มีตู้เติมเงินของร้านอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงก็หายไปหลายร้าน ซึ่งโชคดีที่มีเงินอยู่ในตู้เพียงแค่ 57 บาทเท่านั้น โดยเสียค่าตู้แฟรนไชส์ประมาณ 7,000 บาท

“ดีใจที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ เพราะไม่งั้นคงไปทำกับรายอื่น ๆ อีก ก่อนหน้าที่ยังไม่มีเหตุการณ์ขโมยตู้เติมเงิน ทางร้านก็ไม่ได้เอาเงินในตู้เติมเงินออก มักจะปล่อยไว้นานๆ จนกว่าตู้จะเต็มมีเงินอยู่ 10,000-20,000 บาท แต่พอได้ยินข่าวว่ามีการขโมยตู้เติมเงิน ก่อนปิดร้านก็จะเปิดตู้เอาเงินออกทุกวัน ติดต่อกันเพียงแค่ 2 วัน เช้ามาอีกวันก็ถูกขโมยยกตู้เติมเงินหายไป” น.ส.ปานชญา กล่าว

น.ส.ปานชญา โชรัมย์ เจ้าของร้านเสนาะเซ็นเตอร์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"