เปิดใจ “เจมส์ อาทิตย์” นักร้องลูกทุ่ง ถูกสาวใหญ่โพสต์แฉประจานโซเชียล ปฏิเสธยืนยันไม่เคยได้รับเงินล้าน

สระแก้ว – เปิดใจ “เจมส์ อาทิตย์” นักร้องลูกทุ่งดัง ถูกสาวใหญ่โพสต์แฉประจานโซเชียล ปฏิเสธยืนยันไม่เคยได้รับเงินล้านใด ๆ พบข้อมูลสาวใหญ่เป็นเคยถูกดำเนินคดีและติดคุกมาแล้ว หลังเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.คลองหาด จ.สระแก้ว

เมื่อวันที่ 28 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่นักร้องลูกทุ่ง “เจมส์ อาทิตย์” โดนแฟนคลับสาวใหญ่แฉแหลกหลอกเงินหลายล้านบาทไปเปิดร้านกาแฟบ้านย่าและรีสอร์ทที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นคาเฟ่กลางทุ่งนาและได้ขยายกิจการเปิดให้บริการบ้านพักด้วย โดยสาวใหญ่ได้นำภาพเด็ดขณะหอมแก้มใกล้ชิดกัน เป็นหลักฐานอ้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งไปโพสต์ จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวไปนั้น ซึ่งล่าสุด นายอาทิตย์ ดวงรัตน์ หรือ “เจมส์ อาทิตย์” อายุ 29 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เอกพัฒน์ สิทธิศักดิ สว.(สอบสวน) สภ.คลองหาด เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า การกล่าวอ้างนั้นไม่มีมูลความจริง เพราะเขาเคยเป็นเเค่เเฟนคลับ เป็นการจงใจทำละเมิดทำให้ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ จึงได้เข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ร้านกาแฟบ้านย่าและรีสอร์ทดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 36 ม.5 ต.เบญจขร อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งร้านกาแฟยังคงเปิดให้บริการตามปกติ มีญาติพี่น้องของเจมส์ อาทิตย์ คอยดูแล มีทุ่งนา ต้นตาลและสะพานไม้เดินทอดลงไปในทุ่งนา และรีสอร์ทห้องพักที่เพิ่งสร้างเสร็จเปิดให้บริการได้ระยะหนึ่ง โดยนายอาทิตย์ เปิดใจกับทีมข่าวว่า การที่หญิงคนดังกล่าวมาสร้างความเสียหายให้กับเรา เหมือนทำชื่อเสียงในทางลบ ทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นเรื่องจริง ตอนแรกกะว่าจะแค่ลงบันทึกประจำวัน แต่ปรากฏว่า พี่คนนี้มีคดีความอยู่แล้ว ตำรวจจึงยังไม่ดำเนินคดีอะไร แค่แอบอ้างในทิศทางเสียหาย ปรากฏว่าเค้าเคยมีคดีมาก่อนเกี่ยวกับการฉ้อโกง และเคยติดคุกมาก่อน ซึ่งหลังออกจากคุกมาได้ประมาณ 5-6 เดือน ก็มาก่อเหตุ อยู่ดี ๆ ก็มาใส่ร้ายตนว่า เอาเงินเค้ามา โกงเงินเค้าหลายล้าน และว่าเราเป็นสามีของเค้า ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เคยมีสัมพันธ์อะไร เคยเข้ามาในฐานะแฟนคลับเท่านั้น

“สำหรับเหตุการณ์ นำรูปที่มีการนำมาเผยแพร่ และเค้าเอามาแปะตามเพจและเฟซบุ๊ก หลังจากที่ได้มีโอกาสรู้จักกันกลุ่มแม่ ๆ แฟนคลับได้แนะนำเค้าให้รู้จักเพราะเขาชื่นชอบในผลงานเรา เคยเจอกันที่งานใน จ.นครราชสีมา ไปกินข้าวกันกับหลาย ๆ คน ก็มีการถ่ายรูปเก็บไว้ ภาพที่เกี่ยวกับการหอมแก้มคือภาพนั้นทุกคนอยู่ด้วยกันหมด วันนี้พี่เค้าให้ของขวัญ พวกแม่ ๆ ก็บอกให้หอมแก้มเค้าหน่อย ให้กำลังใจพี่เค้าหน่อย พอเราหอมไปก็มีการถ่ายรูปเก็บไว้ โดยตัวผมเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดผลเสียในอนาคต เพราะช่วงนั้นผมเองก็เพิ่งเข้าวงการใหม่ ๆ กลายเป็นว่ามาทำร้ายเราในอนาคต” เจมส์ อาทิตย์ กล่าวและว่า

สำหรับการดำเนินคดีนั้น ตอนนี้ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ ถ้าพี่คนนี้เขายังใส่ร้ายและยังทำให้ตนเองต้องเสียชื่อเสียงหรือทำลายชื่อเสียง ตนก็ต้องดำเนินคดีในขั้นต่อไป ซึ่งที่บอกว่า ตนโกงเงินมาหลายล้านบาท ตนฟันธง 100% ว่า เราทำมาหากินโดยสุจริต เพราะทุกครั้งที่ตนจะทำอะไรจะโพสต์ลงเฟซบุ๊กหรือเพจตลอดว่า ได้สร้างอะไรขึ้นมา เพราะทุกอย่างต้องใช้ทุนในการก่อสร้าง แล้วทุกอย่างที่สร้างไม่ใช่จะเนรมิตได้ทุกอย่าง เราค่อย ๆ สร้าง ค่อย ๆ เก็บ เสียเหงื่อเสียน้ำตา มีครอบครัวทุก ๆ คนช่วยกัน ประหยัดที่สุด สร้างร้านครั้งแรกก็ใช้ไม้เก่าที่บ้าน เครื่องกาแฟหลักไม่กี่หมื่นบาท ใช้เงินประมาณแค่ 2 แสนบาท มาต่อยอดมาพัฒนาให้มีรายได้ให้ครอบครัว แต่ถ้าตนนำเงินเค้ามาหลายล้านคงไปซื้อเครื่องและกาแฟราคาหลักแสนได้แน่ ๆ ไม่ต้องให้ลูกค้าติว่า เปิดร้านทั้งทีทำไมไม่ทำให้ดี ๆ ทำไมไม่ทำให้ครบวงจร มีที่นั่งเยอะ ๆ

เจมส์ อาทิตย์ กล่าวอีกว่า หากทำขนาดนั้นผมคงต้องละอายใจบ้าง ผมอยู่อย่างนี้เป็นธรรมชาติ สร้างมากับมือมีความภูมิใจ แล้วคุณกลับมาบอกว่า ผมโกง สร้างความเสียหายให้กับผมเอง ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ไปทำอะไรเค้าเลย หลังจากเกิดเหตุการณ์หญิงคนนี้ออกมาทำลายชื่อเสียง ทำให้มีพี่ ๆ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาและครอบครัวเองก็ให้กำลังใจ มั่นใจอยู่แล้วว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ทำมาพ่อรับรู้ ปรึกษาพ่อมาตลอดว่า เงินก้อนไหนจะทำอะไร พ่อเห็นด้วยมั้ย หากมีปัญหาด้านการเงินเราก็จะหยุดโครงการนั้นก่อน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนว่า การจะใกล้ชิดกับใคร หรือการจะสนิทกับใคร ต้องรู้นิสัยเค้าให้ดีก่อนและวางตัวให้เหมาะสมกว่านี้

ขณะที่ญาติซึ่งเป็นทำงานร่วมกับเจมส์ฯที่ร้านกาแฟบ้านย่า กล่าวว่า ร้านนี้ตอนแรกมีแค่ซุ้มเดียวกลางนา จึงมาขยายเพิ่ม เพราะค่อย ๆ ทำไม่ได้มีทุน ใช้เก็บเล็กผสมน้อย เปิดมาได้ 2 ปีกว่า การที่มีคนมากล่าวหาเจมส์ ไม่น่าจะกระทบกับร้าน เพราะน้องทำร้านเอง ไม่ได้เอาเงินของใครมาทำ หากเอามาคงทำใหญ่กว่านี้แน่ ส่วนใหญ่พนักงานก็มีแค่พี่ ๆ น้อง ๆ ไม่ได้จ้างคนนอก จะทำงานเพื่อรวมญาติกันเพื่อนึกถึงคุณย่าที่เสียไป ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้าน กาแฟบ้านย่า

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของหญิงสาวใหญ่ที่ออกมาแฉกรณีดังกล่าว ทราบชื่อว่า น.ส.สรินยาภรณ์ สรินตาธนานนท์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 ม.20 ต.โนนทอง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่ง เจมส์ อาทิตย์ นักร้องลูกทุ่ง ได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.คลองหาด ซึ่ง พ.ต.อ.สิทธิโชค ลือโลก ผกก.สภ.คลองหาด แจ้งว่า อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อมูลของพนักงานสอบสวนในขณะนี้ และยังไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้ในปัจจุบัน

——————————