สระแก้ว – ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ระบุคดียิงเจ้าของปั๊มน้ำมัน ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและพยานแล้วกว่า 20 ปาก ส่วนการออกหมายจับคาดมีชื่ออดีตนายตำรวจด้วย ขณะที่ลูกสาวคนตายไม่กล้าเข้าพื้นที่สระแก้ว หวั่นความไม่ปลอดภัย และยืนยันยังไม่เผาศพพ่อจนกว่าตำรวจจะจับตัวคนร้ายได้
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 4 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดียิงนักธุรกิจสองสามีภรรยาเจ้าของปั๊มน้ำมันกลางเมืองสระแก้ว เมื่อวันที่ 30 ก.ย.61 ที่ผ่านมา จนทำให้สามีเสียชีวิต ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สอบพยานในที่เกิดเหตุและบุคคลที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 20 กว่าปาก ได้พยานหลักฐานพอสมควร ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็ต้องขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยทีมตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วและทีมสืบสวน ภาค 2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างมืออาชีพ ด้วยความเที่ยงธรรม ตรงไปตรงมาว่ากันไปด้วยหลักฐาน และจะให้ความเป็นธรรมกับทุก ๆ ฝ่าย
“ขณะนี้ได้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ต่าง ๆ ในเรื่องของทรัพย์สินและเส้นทางการเงินของการทำธุรกิจปั๊มน้ำมัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการและพนักงานสอบสวนได้รวบรวมวัตถุพยานทั้งหมด อาทิ ปลอกกระสุนปืน หัวกระสุน เขม่าดินปืน รอยนิ้วมือ รอยเท้า ของเหลวที่พบในสถานที่เกิดเหตุ นำส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อเปรียบเทียบยืนยันแล้ว” พล.ต.ต.สุรจิต กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมสอบสวนได้เตรียมยื่นขออนุมัติหมายจับทีมฆ่าต่อศาลจังหวัดสระแก้ว โดยหนึ่งในบุคคลที่มีส่วนพัวพันอย่างน้อย 4 คน มีหลักฐานเชื่อมโยงบุคคลและพยานหลักฐานไปถึงอดีตนายตำรวจด้วย โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่คาดว่าจะใช้ก่อเหตุ รถเบนซ์ของอดีตนายตำรวจที่พัวพันหลายคดีก่อนหน้านี้ด้วย
ทางด้าน น.ส.ปัทมาภรณ์ วรทัด อายุ 30 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนนี้ไม่กล้าเข้าพื้นที่ จ.สระแก้ว และไม่ต้องการเปิดเผยสถานที่อยู่ของตนเองในปัจจุบัน เพราะเกรงกลัวในเรื่องของความไม่ปลอดภัย ส่วนปั๊มน้ำมันกิจการของครอบครัวตอนนี้ต้องปิดไว้ชั่วคราว และยืนยันว่า จะยังไม่เผาศพ นายประชา วรทัด อายุ 52 ปี ผู้เป็นพ่อ จนกว่าตำรวจจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ โดยขณะนี้ศพของพ่อฝากไว้ที่ห้องเย็นเก็บศพที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
