X

เปิดสวนอินทผลัมกินสด ขายได้ กก.ละ 500 บาท

ปราจีนบุรี – เปิดสวนอินทผลัมกินสดที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ขายได้รายคาสูงถึง กก.500 บาท รสหวานกรอบอร่อย

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนอินทผลัมรัตนากร (แม่เอียด) ริมถนนสาย 359 บ้านวังท่าช้าง ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทดลองปลูกอินทผลัมสายพันธ์สยามเอ็กวัน-บาซี บนเนื้อที่ 8 ไร่ 500-600 ต้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปีนี้ออกผลเก็บขายได้แล้ว สร้างความดีใจให้แก่เจ้าของเป็นอย่างมาก โดยมีลูกค้าที่ชอบกินอินทผลัมมาหาซื้อถึงสวน และมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงในสวนไปขายต่อที่ตลาดสี่มุมเมืองและอื่น ๆ วันละ 1-2 คันรถ ขาย กก.ละ 500 บาท มีรายได้วันละ 5,000-10,000 บาท สร้างรายได้ให้กับเจ้าของสวนเป็นกอบเป็นกำด้วยรอยยิ้ม

นายลี ชาธรรม ลูกชายของแม่เอียด กล่าวว่า คุณแม่เป็นข้าราชการได้หันมาทดลองปลูกอินทผลัมในไร่ โดยทำแบบเกษตรอินทรีย์ ห้ามเด็ดขาดในเรื่องใช้สารเคมีใด ๆ ในสวน ใช้ปุ๋ยคอกตัดหญ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การปลูกอินทผลัมไม่ยุ่งยากโดยซื้อต้นพันธุ์มาจากตลาด เว้นระยะปลูกห่าง 4×4 ม.เดินท่อสปริงเกอร์ ให้น้ำวันละ 1 ครั้ง 20 นาที โดยประมาณในช่วงหน้าแล้ง ถ้าช่วงหน้าฝนแทบจะไม่ต้องรดน้ำเลย

ส่วนการดูแลอินทผลัมช่วงออกลูก จะนำถุงหรือสแลนด์มาห่อไว้เพื่อป้องกันแมลงมากัดกิน ผลหรือลูกอินทผลัม จะโตเท่าหัวแม่มือหรือเท่าลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ รสชาติหอมหวานกรอบ เมล็ดเล็กมาก เป็นที่นิยมในหมู่คนที่ชอบกินอินทผลัม

อย่างไรก็ตาม อินทผลัมสองสายพันธ์นี้ สามารถทานสด ๆ ได้เลยไม่ต้องนำไปเชื่อมเหมือนสายพันธ์ที่ขายตามท้องตลาดที่ลูกเล็ก ๆ อินทผลัม จะออกผลผลิตปีละครั้ง ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. เดือนกว่าก็จะหมดฤดูแล้ว ติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 081-890-4404 ทา(แม่เอียด) 087-145-0267(ลี)ลูกชาย

—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"