จ.สระแก้ว กระทบแล้วจากฝนตกหนัก ถนนหลายสายถูกน้ำป่ากัดเซาะ

สระแก้ว – ฝนตกหนักติดต่อกันระยะ 2 วันที่ผ่านมา ทางตอนบนเทือกเขาเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาไหลลงที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้ถนนทางหลวงหมายเลข 3259 เส้นทางเชื่อมต่อจังหวัดฉะเชิงเทรากับจังหวัดสระแก้ว ถูกตัดขาดจากน้ำป่าที่ไหลแรงและเชี่ยวกราก ขณะที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสระแก้ว เร่งสำรวจความเสียหายหลังเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุน้ำป่าไหลหลาก ตัดถนนขาด และท่วมบ้านเรือนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในท้องที่อำเภอวังน้ำเย็น พร้อมอุปกรณ์ส่องสว่าง ไปยังบ้านหนองเรือ ตามทางหลวงหมายเลข 3259 เส้นทางเชื่อมต่อบ้านไพรจิตร่ ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พื้นที่ติดต่อกับสวนพฤกษศาสตร์วังน้ำเย็นเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก กระจายกำลังตลอดเส้นทาง และพร้อมกับสำรวจความเสียหาย และประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ หลังจากน้ำป่าไหลหลากจากบริเวณเทือกเขาเขตป่ารอยต่อลงที่ลุ่มต่ำ ท่วมถนนสาย 3259 เส้นทางไปอำเภอคลองหาด และอำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา  ชาวบ้านในพื้นที่ และใกล้เคียงเร่งขนย้ายสิ่งของภายในบ้านไปไว้บริเวณที่น้ำยังท่วมไม่ถึง

ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น อ.เมือง จังหวัดสระแก้ว โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว เกิดน้ำท่วมฉับพลันบางจุดมีน้ำท่วมสะสมสูงกว่า 30 เซนติเมตร ถนนหลายจุด ได้รับความเสียหายจากน้ำป่าไหลกัดเซาะ ส่วนพื้นที่ปลูกอ้อย และนาข้าวของเกษตรกรในพื้นที่มีน้ำล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมได้รับความเสียหายแล้วกว่า 1,600 ไร่ า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสระแก้ว อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายต่างๆ และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วมสะสม  ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลันหลายจุด ทั้งเขตเมืองและพื้นที่โดยรอบ ด้าน ปภ.จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงและรายงานสถานการณ์ พบหลายพื้นที่ถนนถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมไร่อ้อยและนาข้าวกว่า 1,600 ไร่

วันเดียวกันนี้ นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น เปิดเผยสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากตั้งแต่ช่วงค่ำ คืนที่ผ่านมา (1 ต.ค. 56)  จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ขังกระจายกันออกตรวจสอบความเสียหาย และยืนยันพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในพื้นที่ และน้ำท่วมขังสะสม ขณะเดียวกันได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนแต่ละแห่งในอำเภอวังเย็น ให้สำรวจและรายงานผลกระทบต่างๆ จากน้ำป่าไหลหลากกลับเข้ามาให้อำเภอวังเย็นรวบรวมรายงานสถานการณ์ถึงผู้ว่าราขการจังหวัดทราบอย่างเร่งด่วน เพื่อประเมินแนวทางการช่วยเหลือ และมาตรการป้องกัน่ ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและประชาชน

มีรายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ล่าสุดในเขตอำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ขณะนี้น้ำที่ท่วมสะสมเริ่มทรงตัว และไหลลงที่ลุ่มต่ำ บริเวณ่ตลาดทุ่งมหาเจริญ ซึ่งอยู่ทางตอนล่างของแนวลำคลองในพื้นที่ลงไป  ตามพื้นที่การเกษตรแล้วบางพื้นที่แล้ว ส่วนปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาเริ่มเบาบาง ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง อปพร.ในพื้นที่ ยังคงเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

วันเดียวกันนี้ ทางด้านนายภราดล  รุ่งโรจน์ธีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเกษม ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่่น้ำท่วมสะสม เบื้องต้นระดับน้ำทรงตัว และเริ่มไหลลงไปตามที่ลุ่ต่ำ ส่วนความเสียหายครั้งนี้ พบว่า ถนนทางหลวงหมายเลข 33 บริเวณหน้าตลอดนัดเมืองแก้ว ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน ยังมีชาวบ้าน ในพื้น ที่ หมู่ 11 , ม. 2-5 ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมชุมชนอยู่อาศัย และถนนทางหลวงได้รับความเสียหาย

เบื้อนต้น หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสระแก้ว ระบุสาเหตุเกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้ เกิดจากฝนที่ตกในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองนางชิง ซึ่งเป็นลุ่มน้ำสาขาของลุ่มน้ำพระสะทึง  วัดปริมาณได้ 56 มิลลิเมตร ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเกินกว่ากำลังในการกักเก็บน้ำ ทำห้น้ำล้นตลิ่ง และไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ บ้านเรือนอาศัย และพื้่นที่การเกษตรทำไร่อ้อย และนาข้าวรวมกว่า 1,60่0 ไร่ ก่อนจะไหลข้ามถนนสุวรรณศร

เช้าวันนี้ ( 2 ต.ค. 61) ด้านหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สระแก้ว ประเมินสถานณ์ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มในพื้นที่อีก คาดว่าระดับน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง จนแห้งเป็นปกติภายใน 2 วันนี้  ส่วนความเสียหายเบื้องต้น ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 และชาวบ้าน บอกว่า สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ปกติ แต่สภาพผิวจราจรได้รับความเสียหายถูกน้ำกัดเซาะหลายจุด เป็นระยะทาง 300-500 เมตร เส้นทางระหว่าง ม.4 ถึงหมู่ 11 หมู่ 5 และหมู่ 2 เพราะระดับน้ำท่วมถนนไม่สูงมาก และไม่ยาวนาน ส่วนพื้นท่ี่การเกษตรคาดว่าจะ่ไม่เสียหายมาก

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 16 ลงวันที่ 1 ต.ค.61 เรื่องฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรงบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้มีหลายจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ได้รับผลกระทบ ซึ่ง จ.สระแก้ว เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับแจ้งเตือนว่า มีโอกาสได้รับผลกระทบจากฝนฟ้าคะนอง ลมกรรโชกแรง และฝนตกหนักด้วย

—————————–
ขอบคุณภาพ/มูลนิธิสว่างสระแก้ว