X

เตรียมออกหมายจับ!! มือฆ่าแทงครูสอนภาษาชาวเยอรมัน

ปราจีนบุรี – ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรีระบุ เตรียมออกหมายจับคดีฆ่าครูสอนภาษาชาวเยอรมัน สถาบันแคมบริด สาขาปราจีนบุรี หลังพบหลักฐานเพิ่ม

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี มร.เฮาท์ อายุ 60 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษ สัญชาติเยอรมัน สถาบันแคมบริด สาขาปราจีนบุรี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธเป็นมีดปลอกผลไม้ปลายแหลมขนาดยาว 5 นิ้ว จ้วงแทงเข้าบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ตัดขั้วหัวใจ นอนเสียชีวิต อยู่บนที่นอนในบ้านเช่าชั้นเดียว พบกระเป๋าเงินเปล่าตกอยู่ 1 ใบ ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเช่าตามลำพังหลังได้โทรศัพท์ไปหาอดีตภรรยาชวนไปรับประทานอาหารด้วยกัน ภายหลังมารดาของผู้เสียชีวิตแจ้งมาว่า จะโอนเงินจำนวน 40,000 บาท ส่งมาจากประเทศเยอรมันและมาพบอีกครั้ง ถูกแทงด้วยอาวุธมีดเสียชีวิตคาที่นอน คาดเหตุคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์และชู้สาว นั้น

ล่าสุด พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี เปิดเผยความคืบหน้าที่ห้องประชุมชั้น 2 กอง บก.ภ.จว.ปราจีนบุรี โดยได้เรียกประชุมทีมสืบสวนเพื่อเร่งสรุปประเด็น ในการติดตามหาตัวคนร้ายให้กระชับรัดกุมยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ชาวต่างประเทศใน จ.ปราจีนบุรี เคยสอนภาษาอังกฤษในหลายโรงเรียนก่อนหน้าและที่สถาบันสอนภาษาแคมบริด สาขาปราจีนบุรี ในปัจจุบัน จึงเป็นที่จับตามมองของตำรวจท่องเที่ยว เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งผู้เสียชีวิตโดยปกติเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี เป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ไม่มีศัตรู เมื่อช่วงค่อนรุ่ง ประมาณเวลา 03.00 น.ได้ทดลองนำชุดสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพโดยรอบบริเวณบ้านเช่า ปรากฏว่า เงียบสงบไม่มีสุนัขหรือความพลุกพล่าน และจากการติดตามกล้องวงจรปิดในบริเวณบ้านเช่า ไม่มีกล้องวงจรปิด จึงได้ติดตามขยายวงออกมาหลายแห่งก็ใช้การไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้สรุปเพื่อกระชับประเด็นการสังหารให้แคบเข้ามาแต่ยังไม่ตัดประเด็นใดออก ยังให้ความสำคัญทุกประเด็น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการประชุมชุดสืบสวนนานกว่า 1 ชั่วโมงเศษ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าฟัง จากนั้นชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหารายละเอียด พยานแวดล้อมเพิ่มเติม

ทางด้าน นายปรีชา สีพุ่ม อายุ 82 ปี เลขที่ 73 ซอยโรมันอุทิศ 3 ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ตนเองเป็นเพื่อนบ้านกับผู้เสียชีวิต มร.เคาท์ ครูสอบภาษาอังกฤษ บ้านตนเองอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ สำหรับผู้เสียชีวิต มาเช่าบ้านพักอยู่นานแล้ว ภายหลังเลิกกับเมีย หรือนางโม เนื่องจากภรรยาชอบดื่มเหล้า นาน ๆ เมียเขาจะมาสักครั้งหนึ่ง ผู้เสียชีวิตลักษณะนิสัยเป็นคนชอบทักทายคน นิสัยดี เป็นคนประหยัด ก่อนเกิดเหตุไม่มีเสียงอะไรจากที่เกิดเหตุและกลางคืนไม่มีคนพลุกพล่านหรือหมาเห่า เนื่องจากตนเองไม่นิยมให้ใครเลี้ยงเพราะรักความสะอาด กระทั่งในช่วงสาย ๆ ตนนอนที่เปลใต้ต้นไม้พบอดีตภรรยาหรือนางโม มาหาผู้เสียชีวิตแต่เช้า จากนั้นได้ร้องเรียกและปีนกำแพงบ้านด้านหลังเข้าไป สักพักหนึ่งกลับออกมาและร้องบอกผู้คนว่า ฝรั่งถูกแทงตายแล้ว

ส่วน นางพิมพ์พิศา ขำเนื่องกายสิทธิ์ อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกำแพง ฝั่งหลังบ้านเช่าที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนเองเป็นกู้ภัยฯด้วย บ้านอยู่ด้านหลังห้องเช่าของฝรั่งที่ตาย แถวนี้อยู่ใกล้กับบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีต รมช.สาธารณสุขและบิดาของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ชุมชนจะสงบไม่เคยของหาย บ้านลืมปิดของก็ไม่เคยหาย ไม่มีหมา ตนเคยคุยกับฝรั่งอยู่ครั้งเดียว ฝรั่งนิสัยดี ตอนที่แฟนเขารถล้มแล้วตนไปบอกขอให้ไปส่ง เขาบอกว่า ไม่มีตังค์ก็เลยไปส่งเขาถึงโรงพยาบาล ส่วนภรรยาตอนหลังเลิกกันเพราะชอบดื่มสุรา

ขณะที่ นางอ้อแอ้ การุณี อายุ 56 ปี กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุครูสอนภาษาชาวฝรั่งถูกแทงตาย อดีตเมียเขามาเรียกให้ช่วยด้วยฝรั่งตาย ร้องขอความช่วยเหลือ จึงโทรเรียกรถโรงพยาบาล ทาง รพ.ให้ไปเรียกตำรวจ สำหรับอดีตเมียของครูฝรั่งชอบเมา แล้วมีเหล้า-เบียร์อยู่หน้ารถตลอด สำหรับซอยนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด จะมีก็ปากทางเข้าโรงแรมบางปะกง

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ตำรวจเตรียมสรุปประเด็นโดยทางชุดสืบสวนจะมีการเรียกทุกฝ่ายมาสรุปประเด็นอีกครั้ง เพื่อออกหมายจับผู้ก่อเหตุต่อไป

————————
ข่าว-ภาพ/ทองสุข สิงห์พิมพ์ ,ลักขณา สีนายกอง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"