X

หนุ่มน้อยใจ!! โดนด่าเรื่องงาน โดดน้ำจมหาย

ปราจีนบุรี – เกิดเหตุหนุ่มก่อสร้างน้อยใจญาติ หลังโดนพี่ต่อว่าเรื่องงาน โดดแม่น้ำเกือบจมหาย โชคดีเกาะโขดหินรอดชีวิตในอาการอ่อนเพลีย

เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 2 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีผู้กระโดดลงไปในแม่น้ำปราจีนบุรีแล้วจมหายไป บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้าง ใกล้เคียงกับวัดแก้วพิจิตร อำเภอเมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี จึงได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาสนับสนุนอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง ชุดประดาน้ำ เพื่อช่วยในการค้นหาผู้สูญหา ซึ่งที่เกิดเหตุเป็นบริเวณแคมป์คนงานก่อสร้างและเป็นจุดที่มีคนกระโดดน้ำลงไป

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯอยู่ในระหว่างการเตรียมอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง เนื่องจากเป็นช่วงเวลาค่ำคืนค่อนข้างมืด เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เตรียมอุปกรณ์ส่องแสงสว่างแล้ว ได้ทำการให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำให้ใช้วิธีเดินเท้าเพื่อหาจุดที่จะนำเรือลงไป แต่ในระหว่างนั้นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นบริเวณริมตลิ่ง จึงส่องไฟไปตามต้นเสียง พบร่างชายที่กระโดดลงแม่น้ำ นอนกอดหินริมตลิ่งอยู่ในอาการอ่อนเพลีย จึงได้นำตัวขึ้นมาเพื่อปฐมพยาบาล และส่งต่อไปโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ทราบชื่อต่อมาว่า นายปิยะพงศ์ ขาสม อายุ 19 ปี

จากการสอบถามพี่ชายผู้ที่กระโดดน้ำ ทราบว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วยน้องชายที่กระโดดน้ำลงไป กำลังนั่งกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานกันหลายคน และตนเองได้บ่นว่าน้องชายเรื่องการทำงาน จู่ ๆ น้องชายก็เดินลงไปริมแม่น้ำปราจีนบุรี ก่อนที่จะกระโดดน้ำจมหายไป ตนเองเห็นท่าไม่ดีเนื่องจากจมหายไปนาน จึงรีบขับรถไปแจ้งกู้ภัยฯเพื่อช่วยเหลือดังกล่าว โชคยังดีที่ว่ายน้ำเป็น จึงลอยขึ้นไปอีกฝั่งของแม่น้ำปราจีนบุรีและสามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้

————————-
ข่าว-ภาพโดย/วัฒนา พวงสมบัติ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"