สระแก้ว – อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แล้งหนัก ข้าวในนา 2 แสนไร่ แห้งตายร้อยละ 80 ร้องขอฝนหลวงฯช่วยเหลือด่วน ด้านกองปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนย้ายเครื่องบินคาราแวน 3 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำจากพิษณุโลก ลงพื้นที่สนามบินวัฒนานคร เตรียมปฏิบัติการฝนหลวงช่วยทันที
เมื่อวันที่ 10 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงและฝนไม่ตกในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นเวลานานติดต่อกันเกือบ 2 เดือน ส่งผลทำให้นาข้าวในพื้นที่กว่า 200,000 ไร่ ยืนต้นตายเป็นบริเวณกว้าง ชาวบ้านจึงร้องเรียนไปทางอำเภอตาพระยาและผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากหากพ้นปลายเดือนสิงหาคม 2561 พื้นที่ทางการเกษตรที่มีการปลูกข้าวและพืชไร่ จะได้รับความเสียหายทั้งหมด กระทั่งมีการเสนอเรื่องปัญหาดังกล่าวไปที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือและภาคตะวันออก เดือนสิ่งหาคม 2561 เพื่อเคลื่อนย้ายเครื่องบินคาราแวน 3 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ จากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงพิษณุโลก มาสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสระแก้ว สนามบินวัฒนานคร ฝูงบิน 206 ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา และจัดเตรียมสารตั้งต้นสำหรับการทำฝนหลวงไว้พร้อม สำหรับขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนหลวงได้ทันทีเมื่อสภาพอากาศพร้อม
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน ปรากฏว่า แปลงนาของเกษตรกรที่มีการหวานข้าวตั้งแต่ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ส่วนใหญ่ยืนต้นตายเป็นบริเวณกว้าง พื้นนาไม่มีน้ำ บางส่วนที่ได้รับฝนบ้างเล็กน้อยฟื้นขึ้นบ้าง แต่อยู่ในสภาพแคระแกรน มีเพียงแปลงนาของเกษตรกรบางรายเท่านั้น ที่มีแหล่งน้ำที่สามารถสูบเข้านาได้ ที่นาข้าวมีสภาพเขียวขจี ซึ่งจากภาพมุมสูงพบความแตกระหว่างนาข้าวที่ได้รับน้ำและขาดน้ำได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างชัดเจน
นายประสาท หอมทิพย์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.3 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ชาวนาในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนเองหว่านข้าวรอบนี้เป็นรอบที่ 2 หากไม่เสียหายจะเก็บเกี่ยวได้ในช่วงวันที่ 20 พ.ย.นี้ ตอนนี้รอน้ำฝนอย่างเดียว ซึ่งวันที่ 20 ส.ค.นี้ไม่มีฝนตกจนมีน้ำมาแช่ต้นข้าว นาข้าวของตนเอง 24 ไร่จะต้องเสียหายทั้งหมดและตอนนี้ร้อยละ 80 เข้าข่ายได้รับความเสียหายแน่ ๆ เพราะปีนี้ถือว่า ฝนมาช้ามาก ทุกปีฝนมาแล้วและสามารถใส่ปุ๋ยข้าวได้แล้ว อยากได้เขื่อนมาช่วยกักเก็บน้ำไว้ใช้
นางประมาณ บูรณะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 ม.3 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา เจ้าของนา 120 ไร่ กล่าวว่า ทำนาตั้งแต่อายุ 20 ปี ปีนี้ถือว่า แล้งที่สุด ถ้าไม่มีน้ำเข้ามาในนาหลังจากนี้เสียหายหมดแน่ ประชาชนเดือดร้อนแน่นอน รอบนี้ก็ถือว่า เป็นการทำนารอบที่ 2 แล้ว แต่ยังไม่ได้ผลซักรอบ ตอนนี้เสียหายเกินครึ่ง ปูย่าตายายบอกว่า เมืองนี้เป็นเมืองต้องคำสาป แต่ตนเป็นคนตาพระยาโดยกำเนิดยังไงก็ต้องสู้ ถ้ามีเขื่อนหรือแหล่งน้ำมาช่วยคงจะดีขึ้น แต่ตอนนี้อยากได้ฝนหลวง ซึ่งต้องขอขอบพระคุณในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่พระราชทานความช่วยเหลือ
นายโกเมศ เพชรโกมล กำนันตำบลทัพราช อ.ตาพระยา กล่าวว่า ตอนนี้นาข้าวใน อ.ตาพระยาได้รับความเสียหายประมาณร้อยละ 80 แล้ว เกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้ก็จะได้รับค่าชดเชยประมาณไร่ละ 1,100 บาท ส่วนเกษตรกรที่ทำประกันผลผลิตทางการเกษตรไว้ก็จะได้รับความช่วยเหลืออีกเท่าตัวประมาณ 2,200 บาทต่อไร่ ทุกวันนี้ฝนตกไม่ได้น้ำ จึงอยากให้มีการทำฝนหลวงเพื่อช่วยเร่งด่วน
นายประสพ พรหมมา ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก เปิดเผยว่า จากการสำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พบว่า พื้นที่การเกษตรประสบปัญหาเป็นบริเวณกว้างมากกว่า 200,000 ไร่ จึงรายงานปัญหานี้ไปที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อขอดำเนินการตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯที่ จ.สระแก้ว ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติให้ปรับแผนโดยย้ายเครื่องบิน 3 ลำ จากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.พิษณุโลก มาประจำการที่ อ.วัฒนานคร อย่างเร่งด่วน พร้อมเตรียมสารตั้งต้นในการทำฝนหลวงไว้พร้อม ซึ่งสามารถขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงได้ทันทีเมื่อสภาพอากาศพร้อม
