X

สั่งปิดน้ำตกปางสีดา !! น้ำทะลักเป็นสีแดงขุ่น เมืองสระแก้วน้ำเอ่อท่วมแล้ว

สระแก้ว – แจ้งเตือนประชาชนรับมือพายุโซนร้อน“เซินติญ” ถึงวันที่ 20 ก.ค.นี้ อุทยานแห่งชาติสั่งปิดน้ำตกปางสีดา หลังมีน้ำจำนวนมากทะลักเป็นสีแดงต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเด็ดขาด ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการด่วนทุกอำเภอเฝ้าระวัง สั่งปิดน้ำตกและถ้ำ ห้ามเข้าใช้บริการ โดยให้ ปภ.จังหวัดลงพื้นที่ด่วนบริเวณ ต.ศาลาลำดวน 2 หมู่บ้านมีน้ำเอ่อท่วมแล้ว

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจังหวัดสระแก้ว แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทุกอำเภอผ่านวิทยุด่วน ให้เตรียมรับมือกับสภาวะฝนตกหนัก และฝนตกต่อเนื่อง ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 20 ก.ค.61 ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากพายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็น พายุโซนร้อน“เซินติญ” (SON-TINH) แล้ว ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 23 ให้ประชาชนติดตามข้อมูลและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมความพร้อม เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกล และแผนปฏิบัติการเผชิญเหตุ เพื่ออำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยนายบุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติปางสีดา เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาปริมาณน้ำในน้ำตกปางสีดาไหลแรงมากขึ้น น้ำเป็นสีแดงขุน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามจุดต่าง ๆ และห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่อุทยานแห่งชาติติดต่อกันหลายวัน โดยพื้นที่รับน้ำในอุทยานมีประมาณ 7 กม. ซึ่งขณะนี้ฝนยังคงตกในพื้นที่อุทยานแหงชาติอย่างต่อเนื่องและน้ำยังเป็นสีขุ่นแดงตลอดเวลา

นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ตามที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้แจ้งติดตามสภาวะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาให้ระมัดระวังฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง หลังเกิดพายุโซนร้อนในทะเลจีนใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ซึ่งพายุนี้กำลังเคลื่อนตัว คาดว่า จะผ่านเกาะไหหลำและขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ช่วงวันที่ 18-19 ก.ค.61 โดยประเทศไทย จะมีผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ช่วงวันที่ 19-21 ก.ค.61 ทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่ไว้ด้วย

นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากฝนตกและฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน และพืชผลการเกษตรของประชาชนได้ จังหวัดสระแก้ว จึงได้แจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ผ่านวิทยุ/โทรสารกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ไปยังนายอำเภอ นายกเทศมนตรีเมือง ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสระแก้ว และผู้บริหารสถานีวิทยุชุมชน เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทราบ รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้น อาทิ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ดินถล่ม และลมกระโชกแรง เน้นย้ำให้ปฏิบัติตนปลอดภัยจากสาธารณภัย และปฏิบัติตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้

นอกจากนี้ ให้เปิดทางน้ำ ร่องน้ำ เพื่อระบายน้ำ ตัดแต่งกิ่งไม้ เสริมแนวคันกั้นน้ำ เก็บเอกสาร ทรัพย์สิน/สิ่งของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานสร้างทาง หน่วยงานของชลประทาน หน่วยทหาร อาสาสมัคร องค์กรการกุศล ให้บูรณาการและประสานงานการเตรียมความพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกล และแผนปฏิบัติการเผชิญเหตุ รวมทั้ง จัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมปฏิบัติงาน อำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง กรณีเกิดเหตุด่วนสาธารณภัย ให้แจ้งจังหวัดสระแก้ว และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว โทร.0-3742-5502 หรือ 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ทางด้าน นายนิรุทธ์ สาธุวงษ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เบื้องต้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับกับสถานการณ์สาธารณภัย อาทิ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ดินถล่ม และลมกระโชกแรง โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานเตรียมความพร้อมไปยังอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหาร ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) มูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมกำลังคน วัสดุ และอุปกรณ์ เพื่อเผชิญเหตุแล้ว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการด่วนให้ทุกอำเภอที่มีพื้นที่ลุ่มต่ำ แหล่งท่องเที่ยวน้ำตกหรือถ้ำ เฝ้าระวังพร้อมสั่งปิดไม่ให้คนเข้าใช้บริการในแหล่งท่องเที่ยวโดยเด็ดขาด โดยนายนิรุทธ์ สาธุวงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ รักษาราชการแทน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ได้ส่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่เร่งด่วนในพื้นที่ตำบลศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วมพื้นที่บ้านหนองไทร ม.4 และหมู่ 8 แล้วในขณะนี้ นอกจากนั้น เส้นทางเข้าหมู่บ้าน ม.1 ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว บริเวณด้านหลังศาลหลักเมือง ก็เริ่มกลายเป็นทะเลแล้ว เด็กนักเรียนและชาวบ้านออกไปทำงานลำบากทุกปีของฤดูฝน

ขณะที่ น.ส.สุนันทา จันทร์ทอง อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.14 ต.หนองไทร ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว กล่าวว่า หลังจากที่มีฝนตกอย่างหนักทุกครั้ง พื้นที่หมู่บ้านจะถูกน้ำท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ หากมีฝนตกหนักติดต่อกัน 3-4 ชั่วโมงก็จะเกิดน้ำท่วมขัง โดยต้องเตรียมยกสิ่งของขึ้นจากที่สูงไว้ล่วงหน้าทุกครั้ง

—————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"