X

ประเดิมรายแรก 7 วันอันตราย จยย.เสยท้ายพ่วง 18 ล้อ ดับอนาถ

ปราจีนบุรี – เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตประเดิมรายแรก 7 วันอันตราย จยย.เสยท้ายพ่วง 18 ล้อ ดับอนาถ

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ถิรวัฒน์ เยี่ยมอ่อน รองสารสัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนกันมีผู้เสียชีวิตคาที่ ริมถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ม.6 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิต หลังรับแจ้งลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับกู้ภัยสัจจะฯ ในที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ขนาดใหญ่สีเทารุ่น R115 หมายเลขทะเบียน 1กณ-3666 กาฬสินธุ์ ล้มตะแคงอยู่ปากทางเข้าโรงโม่ปูน พบร่างผู้เสียชีวิตคนขับ จยย.คันดังกล่าวทราบชื่อ นายสุภมิตร รอดชื่น อายุ 19 ปี อยู่ที่ 26 ม.6 ต.หนองตอกแป้น อ.ยางลาด จ.กาฬสินธุ์ สภาพศพนอนเสียชีวิตหงายหน้าถูกรถพ่วงทับศรีษะและเอวขาผิดรูปเลือดนองพื้น ใกล้กันพบรถ 18 ล้อ ทะเบียนตัวแม่ 85-9729 สระบุรี ตัวพ่วง 85-4447 มีรอยทับของแข็งที่ล้อหลัง

 

จากการสอบถาม นายทองขัน ศรีสมโภช คนขับรถพ่วง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถพ่วงมาเพื่อมาส่งหินที่แพ้นท์ปูน มาถึงที่เกิดเหตุไม่เห็นรถ จยย.คันดังกล่าว จึงได้เลี้ยวรถเข้าแพ้นท์ปูน ทันใดนั้นได้ยินเสียงดังที่ท้ายรถ จึงจอดรถลงมาดู ตนเองถึงกับตกใจที่เห็นว่า ด้านหลังมีรถ จยย.ล้มอยู่และมีคนเสียชีวิต

ต่อมา พ.ต.อ.มาโนช กันกล ผกก.และ รอง ผกก.สภ.กบินทร์บุรี รุดตรวจสอบและได้สอบถาม นายทองขัน คนขับรถพ่วง กล่าวว่า ตนไม่เห็นจริงว่าผู้เสียชีวิตขับรถ จยย.ตามหลังมา คาดว่า ขณะเกิดเหตุตัวรถเลี้ยวลงจากถนนสายหลักแล้วแต่ตัวพ่วงยังอยู่บนถนน ขณะเดียวกันผู้ตายขับ จยย.มาด้วยความเร็ว เบรกไม่อยู่ จึงพุ่งชนบริเวณข้างล้อรถพ่วง จึงถูกทับร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าว พนักงานสอบสวนจะได้เชิญตัวคนขับไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง

—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"