เจ้าคณะอำเภอฯ หนีเที่ยว ถูกจับได้คาโอเกะ หลักฐานมัดชิงสึกกลางดึก

นครพนม – วันที่ 29 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดไตรภูมิ หมู่ที่ 3 ถนนเลียบโขง หัวมุมถนนชนาร่วมมิตร เขตเทศบาลตำบลท่าอุเทน จ.นครพนม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กรณี พระมหาสมัย สิทธิชโย เจ้าคณะอำเภอท่าอุเทน(ฝ่ายมหานิกาย) และเจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ เปรียญธรรม 7 ประโยค(ปธ.7) ลาสิกขาบทกับพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่าน ขณะที่มีการถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ สามเณร เมื่อทราบว่าเป็นผู้สื่อข่าวญาติโยมซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงต่างแสดงอาการไม่พอใจ ทุกคนต่างปิดปากที่จะให้รายละเอียดในการสึกของอดีตเจ้าอาวาส

โดยก่อนหน้านี้  กลางดึกวันที่ 27 เม.ย.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร  ออกตรวจตราตามสถานบันเทิงในเขตรับผิดชอบ และได้เข้าตรวจที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง บริเวณหอแก้ว  พบชายคนหนึ่งศีรษะโล้นสวมแว่นตามาใช้บริการอยู่  ขณะที่มีตำรวจนายหนึ่งซึ่งอดีตเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่ สภ.ท่าอุเทน ก่อนจะย้ายมาอยู่ สภ.เมืองมุกดาหาร คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยพบเห็นชายคนดังกล่าวและ มีหน้าตาเหมือนพระมหาสมัย เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ อยู่ในชุดฆราวาส ด้วยความสงสัยจึงถ่ายรูปส่งไลน์ไปหาเพื่อนที่อยู่ อ.ท่าอุเทน ว่าใช่พระมหาสมัยหรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าใช่จึงขอตรวจสอบและควบคุมตัวหลังพบว่าเป็นพระมหาสมัยจริง ก่อนถูกส่งตัวไปที่วัดศรีบุญเรือง จับสึกในคืนเดียวกัน

โดยสามเณรพัฒนพล มั่งมี อายุ 20 ปี และ สามเณรปณัยชกร สอนซ้าย อายุ 14 ปี ผู้รับใช้อดีตเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า  เวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 27 เม.ย.61 พระมหาสมัยมาเรียกให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จ.มุกดาหาร โดยไม่ได้บอกว่าไปทำธุระอะไร มีน้องชายของเจ้าอาวาสขับรถยนต์กระบะ 4 ประตูมารับออกจากวัด สามเณรพัฒนพล เล่าต่อว่าตนหลับมาตลอดทาง และมารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในตัวเมืองมุกดาหารที่รถว่าจอดแวะปั๊ม  จากนั้นเจ้าอาวาสก็เปิดประตูด้านข้างคนขับเดินลงจากรถ แล้วน้องชายของท่านก็ขับกลับนครพนม ถึงวัดประมาณเที่ยงคืนพวกตนก็พากันเข้านอน  ครั้นพอรุ่งเช้าทราบข่าวจากญาติโยมจับกลุ่มคุยกันว่าพระมหาสมัยเจ้าอาวาสถูกจับสึกเพราะหนีเที่ยวคาราโอเกะ แรกๆตนทั้งสองไม่เชื่อเพราะเพิ่งไปส่งเมื่อคืนนี้เอง จนมีคนยืนยันก็รู้สึกตกใจเพราะที่ผ่านมาท่านเป็นพระนักพัฒนา

นางสาวมณฑา สุวรรณมาโจ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 80 หมู่ 3 ต.ท่าอุเทน เผยว่าตนเป็นคนในละแวกวัด อดีตเจ้าอาวาสบวชเรียนมาตั้งแต่จบชั้น ป.6 ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอด ญาติโยมศรัทธาเลื่อมใสมาก เมื่อทราบข่าวทุกคนต่างตกใจ เพราะเท่าที่ทราบเวลาท่านจะเดินทางไปไหน จะมีญาติโยมร่วมไปกันเป็นคันรถ และอ้างว่าท่านไม่เคยออกจากวัดในเวลากลางคืน

ระหว่างผู้สื่อข่าวสอบถามรายละเอียด มีโยมหลายคนแสดงอาการไม่พอใจ ถามหาหลักฐานต่างๆ อ้างว่าจะเก็บไว้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู และมีการบันทึกภาพของนักข่าว ส่งต่อไปยังบุคคลอีกคน บางคนเก็บอาการไม่อยู่โวยวายตลอดเวลา เมื่อถามหากรรมการวัด ทุกคนปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

วัดไตรภูมิเป็นวัดเก่าแก่ เป็นสถานทีประดิษฐานของพระบาง เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทรสูง 80 นิ้ว สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. 2008 ชาวบ้านต่างมีความเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ว่ากันว่าถ้านำออกมาแห่รอบเมืองจะทำให้ฝนตก เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ได้มีการอัญเชิญพระบางออกมาแห่ให้ประชาชนกราบไหว้ มีแหล่งข่าวแจ้งว่าวัดแห่งนี้มีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าหากเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมนอกรีตนอกรอยจริง จะต้องมีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของวัดว่ามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ปัจจุบันยังเหลือเงินอยู่เท่าไหร่โดยเรียกร้องให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เร่งเข้ามาตรวจสอบอย่าเร่งด่วนต่อไปก่อนที่ทรัพย์สินของวัดจะภูกผ่องถ่ายไปที่อื่น