นครพนม – วันที่ 27 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี นางปรียาภรณ์ หงส์โต หรือศรีพิมพ์ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 3/10 ซอยประชาสามัคคี ถนนนครพนม-ท่าอุเทน ต.อาจสามารถ เขตเทศบาลเมืองนครพนม รับราชการครูชำนาญการพิเศษ(ซี 8) โรงเรียนเทศบาล 3(พินิจพิทยานุสรณ์) ถนนศรีเทพ ต.ในเมือง เทศบาลเมืองนครพนม ร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าว เนื่องจากถูกสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม ประกาศยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นบ้านที่ตนเองเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆเพียง 2 เดือนเท่านั้น
โดยก่อนจะถูกยึดทรัพย์เกิดจากอาแท้ๆชื่อนายต้อย(นามสมมุติ) เป็นนักข่าวสังกัดหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง นำเอกสารมาให้เซ็นค้ำประกัน อ้างว่าจะให้ช่วยลูกสาวฝาแฝดเข้าทำงาน แต่ปรากฏว่ากลับนำไปค้ำประกันให้คนอื่นคือนางวัชรวรรณ ราญมีชัย ได้เป็นตัวแทนประกันวินาศภัยประจำจังหวัด แล้วไม่ยอมส่งเบี้ยประกันจำนวน 120,000 บาท ให้กับสำนักงานใหญ่ ทำให้ตกเป็นภาระของผู้ค้ำจนถูกฟ้องศาล สุดท้ายสำนักงานบังคับคดีประกาศยึดบ้านราคาประเมินเกือบ 1,000,000 บาท เพื่อนำออกขายทอดตลาด ซึ่งนางปรียาภรณ์ยอมรับว่าตนเองไว้ใจญาติแท้ๆมากเกินไป จึงตกเป็นเหยื่อถูกหลอกมานานถึง 12 ปีเต็ม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดเวลา 11.00 น. นางปรียาภรณ์เดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ถึง นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ เข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่ตนกำลังเผชิญอยู่ มี นายสุกิจ กลีบแก้ว ผอ.ฯ นายไชยวุฒิ วัชเนทร์สุนทร นักวิเคราะห์ฯ ออกมารับหนังสือดังกล่าว พร้อมกับประสานงานถึงยุติธรรมจังหวัดฯและสำนักงานบังคับคดี ได้รับคำตอบว่าให้ไปลงลายมือชื่อเขียนคำร้องที่สำนักงานบังคับคดีเพื่อชะลอการนำบ้านออกขายทอดตลาด และแนะนำให้ไปคัดลอกคำพิพากษาจากศาลจังหวัดนครพนม นำมาประกอบการพิจารณา เพื่อจะแจ้งความดำเนินคดีแก่นายต้อยผู้เป็นอา และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
นางปรียาภรณ์กล่าวต่อนายสุกิจว่า เกิดจากความชะล่าใจที่ไม่ได้อ่านหนังสือที่นายต้อยถือมาให้เซ็น โดยย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อ 12 ปีที่แล้วว่า ตนเตรียมจะหยิบหนังสือดังกล่าวมาอ่าน บังเอิญลูกสาวที่คลอดออกมาไม่ทันถึงเดือนร้องไห้ ตนจึงวางเอกสารหันมาให้นมลูก เป็นจังหวะเดียวกับที่นายต้อยคว้าเอกสารเดินลงจากบ้านไป ไม่คิดว่าอาแท้ๆจะทำกันได้ลงคอ และบุคคลที่ตนเซ็นค้ำไปนั้นก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักงานประกันภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเปิดเป็นตัวแทนของบริษัทมิตรแท้ประกันภัย ตั้งอยู่ข้างๆสำนักงานขนส่งจังหวัดนครพนม พบตัวแทนและนายหน้าหลายบริษัททำงานกันจ้าละหวั่นในการรับประกันวินาศภัย ก่อนที่ลูกค้าจะนำไปต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ผู้อาวุโสที่คลุกคลีอยู่ในวงการวินาศภัยเปิดเผยว่า นางวัชรวรรณ ราญมีชัย หรือน้อย เคยเปิดสำนักงานตัวแทนอยู่ที่นี่จริง ภายหลังประสบปัญหาทางการเงิน มีเจ้าหนี้มาทวงถามทุกวัน จนนางน้อยทนไม่ไหวปิดสำนักงานหนีหนี้ เพื่อนร่วมงานหลายคนก็ยังถูกนางน้อยโกงเงินไปหลายแสนบาท บางคนเพิ่งผ่อนชำระหนี้สำนักงานใหญ่หมดไม่กี่เดือนเอง หลายคนก็อยากเจอหน้านางน้อยเหมือนกัน ภายหลังทราบข่าวว่าไปทำงานอยู่ประเทศญี่ปุ่น
น.ส.บังอร อาชนะ อายุ 43 ปี ทำงานเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยบริษัทแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่าบ้านหลังนี้ตนมาเช่าหลังจากที่นางน้อยหนีหนี้ไปแล้ว อดีตสำนักงานใหญ่จะให้ตัวแทนแต่ละจังหวัดส่งเบี้ยเข้าบริษัทเดือนละครั้ง หากเดือนไหนตัวแทนไม่ส่งจะถูกส่งปลดจากการเป็นตัวแทน ปัจจุบันหลายบริษัทเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ให้ตัวแทนส่งเบี้ยทุก 15 วัน กรณีที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากนางน้อยไม่สามารถหาเงินส่งสำนักงานใหญ่ได้ตามกำหนด และไม่ยอมรับผิดชอบ กลับทิ้งปัญหาให้ผู้ค้ำรับกรรม ส่วนตนไม่ใช่ตัวแทน แต่เป็นนายหน้าที่สามารถส่งเบี้ยให้บริษัทใดก็ได้
