X

บัตรลวงโลก โผล่นครพนมแล้ว 13 ราย คนขายขอเคลียร์เงินคืน อึ้ง !! ผลตรวจบัตรมีสารอันตรายเพียบ

 นครพนม – คืบหน้า เกี่ยวกับปัญหาชาวบ้านในพื้นที่ ต.ยอดชาด อ.วังยาง จ.นครพนม ได้ซื้อบัตรพลังงานจากคนในตำบลเดียวกัน อ้างสามารถรักษาโรคได้สารพัด โดยเจอที่จังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรก ก่อนจะแพร่กระจายไปตามจังหวัดอื่นๆอีก ล่าสุดโผล่ในพื้นที่ของนครพนม  ซึ่ง ว่าที่ ร.ต.เอกวัฒนา คงคาน้อย นายอำเภอวังยาง หลังทราบว่าราษฎร บ้านหนองบึง หมู่ 4 และ บ้านหนองแคน หมู่ 3 ต.ยอดชาด มีผู้หลงเชื่อซื้อบัตรลวงโลกในราคาใบละ 1,500 บาท มารักษาโรคตามคำอวดอ้างสรรพคุณ จึงสั่งการให้ ว่าที่ ร.ต.อัคเดช นาคสุวรรณ  ปลัดอำเภอวังยางหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ประสานงานร่วมกำนันตำบลยอดชาด ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจสอบข้อมูล  พร้อมทำความเข้าใจชาวบ้าน  ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้   หากผู้ใดหลงตกเป็นเหยื่อให้นำหลักฐาน แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.วังยาง ได้ตลอดเวลา

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อ จำนวน  3 ราย  มี รายแรก คือ นางวงค์เดือน กมลเเก้ว อายุ 70 ปี บ้านเลขที่ 76 หมู่ 4 บ้านหนองบึง ผู้เสียป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ผ่าตัดมาแล้วปีเศษ รายที่ 2 คือนางสมภาร เเสงสุริวงค์ อายุ 50 ปี หมู่บ้านเดียวกัน มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และรายที่ 3 คือ นางฤทธิรงค์  ยะงาม อายุ 59 ปี  บ้านหนองแคน หมู่ 3 ซึ่งมีอาการป่วยเป็นโรคปวดเมื่อยตามร่างกาย รวมถึงความดันเบาหวาน ทั้ง 3 ราย ซื้อบัตรมาในราคา ใบละ 1,500 บาท อ้างว่ารักษาโรคได้สารพัด  ซึ่งนางฤทธิรงค์อยากหายจากอาการเจ็บปวด ถึงขั้นนำบัตรพลังงานมาแช่น้ำดื่ม วันละ 3-4 เวลา  รวมทั้งนำมาแปะไว้ตรงจุดที่ปวดเมื่อย เพื่อรักษาอาการป่วย

ล่าสุด วันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับนายสมาน กมลแก้ว อายุ 76 ปี ผู้เป็นสามีของนางวงศ์เดือนที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ พร้อมระบุว่ามีนายบุญ(นามสมมุติ)ชาวบ้าน ต.ยอดชาด หมู่ 1 ซึ่งเป็นหมู่บ้านข้างเคียง นำบัตรดังกล่าวมาเสนอขาย พร้อมเปิดคลิปวีดีโอให้ดูว่า มีผู้นำไปใช้แล้วมีอาการดีขึ้นทันตาเห็น จึงโกหกลูกว่าอยากได้เงินเอาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลจังหวัดสกลนคร จำนวน 1,500 บาท ลูกจึงโอนเงินมาให้ โดยวิธีใช้จะเทน้ำใส่แก้วแล้ววางทับบัตรพลังงาน ก่อนจะยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ทำแบบนี้มากว่าเกือบเดือน ต่อมามีข่าวว่าบัตรที่ตนใช้นั้นเป็นบัตรลวงโลก ไม่มีผลในการรักษาจริง ปรากฏว่านายบุญคนที่มาขายบัตรได้มาขอบัตรคืน โดยอ้างว่าเอาไปเก็บไว้ก่อน เดี๋ยวจะนำมาคืนให้ภายหลัง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากได้บัตรคืนไหม นายสมานตอบอยากได้เงินคืนมากกว่า นอกจากนี้นายสมานยังเผยต่อว่าในตัวตำบลยอดชาดหมู่ 1 มีคนหลงเชื่อซื้อบัตรพลังงานกว่า 10 ราย แม้กระทั่งแม่นายก อบต.ยอดชาด ยังซื้อไปบำบัดโรคปวดเมื่อย

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปต่อที่ ต.ยอดชาด หมู่ 1 ตามคำบอกกล่าวของนายสมาน เป็นบ้านเลขที่ 45 หมู่ 1 ต.ยอดชาด พบนางกองสี วันนาพ่อ อายุ 87 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนายก อบต.ยอดชาด พร้อมกับเล่าว่าซื้อบัตรมาจากนายบุญคนในหมู่บ้าน มาแปะตามแข้งขาที่ปวด พอมีข่าวว่าบัตรไม่มีคุณสมบัติในการรักษา ตนจึงวางทิ้งไว้แถวๆบ้าน ไม่รู้ว่าใครหยิบไปไหนแล้ว ตอนนี้อยากได้เงินคืนจากนายบุญคนนำมาขาย ซึ่งนางกองสียอมรับว่าในหมู่บ้านมีคนหลงเชื่อซื้อบัตรไปกว่า 10 คนจริง แต่บางคนไม่อยากออกมาให้ข่าว เพราะเกรงจะถูกกล่าวหาว่างมงาย

ด้าน ว่าที่ ร.ต.อัคเดช นาคสุวรรณ ปลัดอำเภอฯ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่าหลังเกิดเรื่องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเชิญตัวนายบุญมาสอบถามรายละเอียด เบื้องต้นนายบุญสารภาพว่าเป็นคนนำบัตรดังกล่าวไปขายจริง เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยนายบุญเล่าว่าป่วยเป็นโรคเบาหวาน ต้องไปซื้อยาแผนโบราณจากร้านขายยาแห่งหนึ่งใน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เป็นประจำทุกเดือน

เมื่อไม่นานนี้ได้ไปซื้อยารักษาโรคเบาหวานเหมือนเช่นเคย คนขายได้แถมบัตรพลังงานมา 1 ใบ พร้อมมีใบปลิวโฆษณาสรรพคุณมาด้วย บอกลองไปใช้ดูเห็นหลายคนอาการป่วยดีขึ้น นายบุญจึงมาทดลองใช้ร่วมกับเมีย มีความรู้สึกว่าอาการป่วยดีขึ้น จึงนำมาบอกต่อๆกัน แต่หลังเป็นข่าวครึกโครมนายบุญจึงขอรับผิดชอบ ด้วยการคืนเงินแก่ผู้ที่ซื้อบัตรพลังงานดังกล่าว รายละ 1,500 บาท แต่ขอเวลา 1 เดือน เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ เบื้องต้นมีผู้เปิดเผยแล้ว 5 ราย ส่วนที่เหลือยังไม่แสดงตน และยังไม่มีผู้ใดแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญ

ว่าที่ ร.ต.อัคเดชฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าวันพรุ่งนี้(21 มิ.ย.) จะมีประชุมจังหวัดที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม ในความเห็นอยากจะเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานสาธารณสุขฯ(สสจ.นครพนม) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ(รพ.สต.ฯ) นำตัวนางฤทธิรงค์ ที่นำบัตรลวงโลกไปแช่น้ำดื่มไปตรวจสุขภาพ ว่าในร่างกายมีสารอันตรายปนเปื้อนหรือไม่

เนื่องจากรองศาสตราจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเผยจากการตรวจสอบของสำนักงานวิทยาศาสตร์ มาเลเซีย มีผลที่น่าตกใจว่า ภายในบัตรเต็มไปด้วยสารโลหะหนัก เช่น ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม ไทเทเนียม ซิลิคอน กำมะถัน ดีบุก และที่น่าตกใจกว่านั้น คือในเอกสารระบุถึงสารกัมมันตรังสี คือ ยูเรเนี่ยม และ ทอเรียม และเมื่อนำกรรไกรมาตัดบัตรออกพบว่ามีสารเคมีที่เป็นผงสีขาว อัดเป็นแผ่นแข็งๆอยู่ภายในบัตรด้วย จึงต้องรีบเตือนประชาชน เพราะหากข้อมูลในเอกสารเป็นจริง จะส่งผลกับสุขภาพในระยะยาว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน