วันที่ 15 ก.พ.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.30 น. นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม พร้อมด้วยนายประเวศ กันสุข ยุติธรรมฯ นายสุกิจ กลีบแก้ว ผอ.ศูนย์ดำรงธรรมฯ นายอภิชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและมนุษย์ฯ(พมจ.) เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 52 หมู่ 6 บ้านนาทาม ต.พระกลางทุ่ง ห่างจากถนนทางหลวงแผ่นดิน 212(ชยางกูร) สายนครพนม-ธาตุพนม ของ นางนุ้ย พรมราช อายุ 57 ปี ที่ตกเป็นจำเลยของศาลภาษีอากรกลาง ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กทม. คดีแพ่งสามัญ หมายเลขดำที่ ภ.4/61 มีกรมสรรพากรเป็นโจทก์ และบริษัทรุ่งรุจีซัพพลาย อยู่เลขที่ 15 หมู่ 1 ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก เป็นจำเลยที่หนึ่ง มีหมายหมายเรียกนัดพร้อม ในวันที่ 23 เม.ย.61 เวลา 09.00 น.
นางนุ้ยเล่าให้ ผวจ.ฯฟังว่า มีหมายเรียกให้ไปชำระภาษีถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกให้ไปเสียภาษีเงินได้(ภ.ง.ด.50) จำนวน 3 ล้านบาท ครั้งที่สองเป็น 10 ล้านบาท ครั้งที่สามเพิ่มเป็น 11 ล้านบาท และครั้งที่สี่ได้หมายเรียกว่าตนตกเป็นจำเลยที่ 2 เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ เพราะตนไม่ทราบว่าไปเป็นกรรมการในบริษัทนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งนายสมชายฯปรึกษากับนายประเวศ หาช่องทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในเบื้องต้นจะจัดหาทนายช่วยเหลือทางคดี พร้อมจัดหาค่าใช้จ่ายเช่น ที่พัก และค่าเดินทาง และทาง พมจ.ฯได้มอบเงินช่วยเหลือก่อนจำนวน 2,000 บาท นางนุ้ยถึงกับน้ำตาคลอที่หน่วยงานราชการไม่ทอดทิ้ง
ทางด้าน นายสงคราม แก้วสว่าง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 เผยว่านางนุ้ยเขียนหนังสือไม่เป็น รับรองสำเนาเอกสารต่างๆจะใช้พิมพ์หัวนิ้วมือเสมอ ล่าสุดปรากฏอยู่ในการเลือกผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวันที่ 8 พ.ค.60 หลักฐานอยู่ที่อำเภอธาตุพนม ขณะที่นางอรัญญา บัวชัยชิต อายุ 49 ปี ซึ่งมีบ้านติดกันกล่าวว่า นางนุ้ยอยู่กับนายทองคำ จิตค้า อายุ 57 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคหอบหืด ถุงลมโป่งพอง หัวใจตีบ และเก๊าท์ มีหลานวัย 11 ขวบอีกหนึ่งคน มีที่นาเพียง 2 ไร่ พร้อมที่ดินบ้าน 109 ตารางวาเท่านั้น สมบัติอื่นๆไม่มี ตลอดเวลาเห็นนางนุ้ยออกไปรับจ้างก่อสร้างในตัวจังหวัดคนเดียว เพราะนายทองคำป่วยแทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อดีตเคยได้เงินผู้พิการจากลูกชายที่ป่วยด้วยโรคสมองพิการ เดือน 800 บาท ลูกชายเพิ่งมาเสียชีวิตประมาณ 4-5 เดือน จึงไม่มีรายได้มาจุนเจือ ลูกๆอีกสองคนก็ยังหาเลี้ยงครอบครัวยังไม่พอ เมื่อต้องมาเจอคดีให้ไปชำระภาษีถึง 11 ล้านบาท นางนุ้ยถึงกับขวัญเสีย ยอมรับว่าสงสารเพราะที่ผ่านมานางนุ้ยแม้จะยากจนแต่ก็มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นตามกำลังเสมอ
ข่าวน่าสนใจ:
- บขส.เชียงรายเฉี่ยวพ่วง หวิดตกเหว 48 ชีวิตระทึก เส้นทางนี้คือจุดเสี่ยงของภาคเหนือ
- ตม.นครพนม เด้งรับนโยบาย ผบ.ตร. จับสาวลาวเร่ขายไอศกรีม แย่งอาชีพคนไทย
- ยกกำลัง 2 ชลประทาน - เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ (HYDRO FLOW) รับมืออุทกภัยที่จะถึงนี้
- พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น เผยพระปลัดผิดเรื่องส่วนตัว ลูกศิษย์แห่ป้อง วอนโซเชียลอย่าเหมารวม
นายประเวศฯยุติธรรมจังหวัดกล่าวว่า เรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนก็คือการช่วยเหลือทางคดีแพ่งให้สำเร็จ ส่วนกรณีที่หลานสาวของนางนุ้ยเป็นคนมาเอาเอกสารสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านไปปลอมแปลงเอกสารนั้น รอเป็นก๊อกที่สอง แต่ยืนยันผู้กระทำผิดต้องถูกกฎหมายลงโทษแน่นอน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 หรือ 4 ปีที่ผ่านมา มีหลานสาวของนางนุ้ย ซึ่งมีบ้านอยู่ที่บ้านสร้างแห่ทุ่ง ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม เดินทางมาหาที่บ้านพร้อมกับสามี มาขอเอกสารคือบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน อ้างว่าจะนำไปทำประกัน ต่อมาสักระยะนางนุ้ยได้รับหนังสือจากสำนักงานสรรพาพรพื้นที่นครนายก เตือนให้นำเงินภาษีอากรค้างไปชำระ เนื่องจากนางนุ้ยอยู่ในฐานะผู้ชำระบัญชี บริษัทรุ่งรุจีซัพพลาย รวมเป็นเงินจำนวน 10,216,560 บาท(ยังไม่รวมเงินเพิ่มตามกฎหมาย) ซึ่งนางนุ้ยได้ไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม และได้แจ้งให้สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ ช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดนครพนม ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาธุรกิจการการค้าจังหวัดนครพนม ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการช่วยเหลือแก่ผู้ร้อง
จากการตรวจสอบรายการข้อมูลข้อเท็จจริงทางทะเบียนของนิติบุคคลดังกล่าว และหนังสือร้องทุกข์ของนางนุ้ยแล้ว ยังข้อสรุปว่านางนุ้ยถูกหลอกลวงจริงหรือไม่ ทางนายทะเบียนไม่สามารถพิสูจน์ถึงความถูกต้องแท้จริง จึงเป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะต้องไปดำเนินการว่ากล่าวเอง เพื่อให้ข้อเท็จจริงเป็นที่ปรากฏชัดเจน นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทฯ จึงจะสามารถพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือเพิกถอนการจดทะเบียนต่อไป ทางศูนย์ดำรงค์ธรรมจึงแนะนำให้นางนุ้ยไปกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด แต่หลานสาวนางนุ้ยห้ามไปแจ้งความ อ้างว่าจะแก้ไขทุกอย่างเอง จนกระทั่งมาเจอหมายเรียกของศาลภาษีอากรกลางมาถึงบ้าน ส่วนหลานสาวตัวแสบ ตั้งแต่มีเรื่องถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฎตัว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: