X

“บิ๊กโจ๊ก” โค่นอิทธิพล “กำนันโป้ย” อดีต ส.ว.นครพนม นายทุนนอกระบบ

นครพนม – วันที่ 28 ม.ค.62 เวลา 11.00 น. ห้องประชุมชั้น 5 อาคารแสงสิงแก้ว กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังการสืบสวนสอบสวน บช.ภ.4 พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม. นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผอ.กองคดี 1 ปปง. และ พล.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. แถลงข่าวผลการปฏิบัติงานดาวกระจาย 5 จังหวัด (นครพนม-บึงกาฬ-ร้อยเอ็ด-นครราชสีมา และอุบลฯ) ภายใต้ยุทธการ “ขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่ ครั้งที่ 26” ได้เข้าตรวจค้นพร้อมกัน 5 จังหวัด ตามเป้าหมายมีนายทุน 13 ราย 18 จุด ตรวจยึดและอายัดไว้ตรวจสอบ 4 จุด สามารถยึดโฉนดที่ดิน จำนวน 111 ฉบับ มูลค่า 160.5 ล้านบาท และอายัดทรัพย์สินอีก 100 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 260.5 ล้านบาท โดยมีประชาชนที่เคยถูกนายทุนนอกระบบขูดรีดดอกเบี้ยอย่างไม่เป็นธรรม ประมาณ 50 ราย มามอบดอกกุหลาบแก่ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่สามารถจัดระเบียบให้ชำระหนี้คืนนายทุนในระบบดอกเบี้ยธนาคาร

ผลการปฏิบัติการครั้งนี้ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่าจังหวัดนครพนมเป็นแห่งแรกของประเทศ ที่มีนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยอย่างไม่เป็นธรรมแก่ลูกหนี้ คือ “เจ๊สุ” ที่ใช้ช่องทางของกฎหมายเอารัดเอาเปรียบให้ได้มาซึ่งทรัพย์ของคนอื่น ทางรัฐบาลจึงใช้เป็นโมเดล เข้าตรวจสอบนายทุนนอกระบบทั้งประเทศ

โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดนครพนม มีนายทุนเงินกู้นอกระบบเป็นจำนวนมาก แต่ที่ยิ่งใหญ่มีเครือข่ายมากที่สุด อยู่ในอำเภอศรีสงคราม จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหาข้อมูล แต่เนื่องจากนายทุนรายนี้มีอิทธิพลมาก การสืบสวนสอบสวนจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ

แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ ยากลำบากพอสมควร เพราะนายทุนมีคนในวงราชการคอยส่งข่าวการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่เสมอ แม้กระทั่งการเข้าไปขอตรวจสอบการรับจดจำนองที่ดินในเขต อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หรือ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ปรากฏว่าข่าวการเข้าตรวจสอบดังกล่าวรั่วถึงหูนายทุนทันที ทำให้คณะทำงานไม่ไว้ใจบางหน่วยงาน

กระทั่งมีข้อมูลชัดเจน จึงขอหมายจับจากศาลจังหวัดนครพนม ลงวันที่ 22 ม.ค.62 เลขที่ 5/2562 น.ส.กุหลาบ เรืองวรบูรณ์ อายุ 49 ปี(ลูกสาว) และเลขที่ 6/2562 นายอิทธิพล เรืองวรบูรณ์(พ่อ) อายุ 72 ปี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด

เวลา 06.00 น. ชุดปฏิบัติการนำโดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี่สารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) และศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปฉช.ตร.) ร่วมกับตำรวจสืบสวนจาก สภ.ต่างๆในจังหวัดนครพนม เดินทางไปยังอำเภอศรีสงคราม ซึ่งเป็นที่อยู่ของเป้าหมาย บ้านเลขที่ 21 หมู่ 4 ถนนสายท่าแร่-ศรีสงคราม เขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม เรียกนายอิทธิพลหรือกำนันโป้ยพร้อมกับแสดงหมายจับ เพื่อเข้าตรวจค้นทรัพย์สิน เบื้องต้นยึดและอายัดทรัพย์ผู้ต้องหา มูลค่า 100 ล้านบาท ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์ 4 คูหา บ้านพร้อมที่ดิน 3 หลัง อาวุธปืน 5 กระบอก รถยนต์ 3 คัน ส่วนทองรูปพรรณ หนัก 130 บาท ยึดจากร้านทองบานเย็น กับร้านทองกุหลาบ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายทองในเครือข่ายของกำนันโป้ย สำหรับ น.ส.กุหลาบผู้เป็นลูกสาวของกำนันโป้ยนั้น ถูกจับกุมตัวได้ที่ช่องผู้โดยสารขาเข้า สนามบินจังหวัดสกลนคร เวลา 10.30 น. ขณะลงเครื่องจะเดินทางกลับบ้านที่อำเภอศรีสงคราม โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ

นายอิทธิพล เรืองวรบูรณ์ เป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี 2550 มาตรา 111ฯลฯ เป็นผู้กว้างขวางในจังหวัดนครพนม และยังเป็นฐานเสียงให้กับกลุ่มเสื้อแดง ด้วยการส่งลูกชายลงสมัคร ส.ส.เขต 1 แข่งกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง”ครูแก้ว” ศุภชัย โพธิ์สุ และสามารถโค่นครูแก้วแพ้ราบคาบ ด้วยพลังสนับสนุนของคนเสื้อแดง ซึ่งการจับกุมและตรวจค้นครั้งนี้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กำหนัดให้ปัญหานี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ จึงสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และดำเนินการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน