จากกรณีเหตุการณ์คานโครงเหล็กทางยกระดับพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ ใกล้ตลาดมหาชัยเมืองใหม่ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ถล่มทับคนงานเสียชีวิต 5 คน ในจำนวนนี้มีแรงงานไทย 1 คนเสียชีวิต ที่เหลืออีก 4 คนเป็นชาวเมียนมา และมีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย เหตุเกิดช่วงรุ่งสางวันที่ 29 พ.ย.67 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุด วันที่ 29 พ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านวังตามัว หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนายอภิวัฒน์ หรือ โจ้ พะพันทาง อายุ 30 ปี หนึ่งในคนงานที่เสียชีวิต พบกับนายสำเริง พะพันทาง อายุ 48 ปี และนางกันนิกา ทุมทอง วัย 48 ปี พ่อและแม่นายอภิวัฒน์ กำลังเตรียมจัดบ้านกางเต๊นท์เพื่อรอรับร่างไร้วิญญาณลูกชาย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาร่วมงานด้วยความเศร้าสลด
นางกันนิกา เปิดเผยว่า มีลูกชาย 3 คนนายอภิวัฒน์ เป็นคนโตและเป็นเสาหลักครอบครัว ก่อนเกิดเหตุช่วง 2 ทุ่มวันที่ 28 พ.ย.67 ลูกชายได้โทรไลน์วิดีโอคอลมาหาตน พูดคุยกับลูกสาววัย 3 ขวบทุกวัน และขอเงินตน 100 บาทเพื่อซื้อกับข้าวจึงโอนให้ มารู้ข่าวช่วงตี 4 เพื่อนคนงานที่ทำงานด้วยกันโทรศัพท์มาบอก พอรู้ข่าวตกใจแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก
ข่าวน่าสนใจ:
ลูกชายไปทำงานกับนายจ้างบริษัทนี้ได้ 3 ปี มีเมีย 1 คนและลูกชาย 3 คนก่อนเลิกรากับภรรยา โดยมียายเลี้ยงดูที่ บ.นายอ อ.เรณูนคร และมาเอาเมียใหม่ก่อนเลิกราไปราว 3 เดือนทิ้งลูกสาวน้อยวัย 3 ขวบให้ตนเลี้ยงดู ลูกชายเคยบ่นจะเลิกทำงานเสี่ยงกับที่สูง ในห้วงมีปัญหาเลิกรากับภรรยาคนล่าสุด ลูกโทรมาบอกว่าเดือนที่แล้วมีคนงานตกจากที่สูงเสียชีวิต 1 ตน แต่นายจ้างเลื่อนตำแหน่งให้และเพิ่มค่าแรงให้เป็นวันละ 520 บาท โดยให้เป็นหัวหน้าคนงานรองจากโฟร์แมน
ลูกชายมีเงินเดือนเดือนละ 15,000 บาท รวมโอทีแล้วได้ประมาสองหมื่นกว่าบาท มีประกันสังคมกับนายจ้าง ช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ประกันสังคม จ.นครพนม เดินทางมาแจ้งสิทธิ์ให้ทราบว่าจะได้ค่าทำศพกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 50,000 บาท และค่าอื่นๆอีก 20,000 บาท และยังมีค่าทำประกันชีวิตอีก 2,000,000 ล้านบาท ทางบริษัทที่ว่าจ้างยังประสานมาว่าจะรับผิดชอบให้ทุกอย่าง
วิตกกังวลเพราะลูกชายทำงานในที่สูง มีแต่โทรศัพท์มาบอกว่าคนนั้นคนนี้ตกจากที่สูงเสียชีวิต ตั้งแต่ลูกชายไปทำงานอยู่มีข่าวคานถล่ม 2-3 ครั้ง เคยเตือนลูกชายให้ระวัง แต่เลือกงานไม่ได้เพราะมีฐานะยากจน หาอยู่หากินเพราะลูกชายเป็นเสาหลักครอบครัวมีลูก 4 คน ส่งเงินมาให้ตนและพ่อใช้บ้างเป็นบางเดือน หลังรู้ข่าวตนร้องไห้แทบไม่มีน้ำตา จนหลานมาสวมกอดและพูดว่า “แม่ร้องไห้ทำไมใครทำอะไรแม่” โดยที่ยังไม่รู้ว่าผู้เป็นพ่อเสียชีวิตแล้ว
นายสำเริง พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกชายเคยบ่นเรื่องทำงานที่สูงและเคยกลับบ้านมาพัก 10 วันช่วงก่อนออกพรรษา ลูกทำงานเสี่ยงตายก็นึกว่าต้องมีสักวัน แต่ทำอย่างไรได้ชีวิตต้องดิ้นรนเพื่อปากเพื่อท้อง ถ้าลูกชายคนโตไม่ทำงานก็ไม่มีกิน และไม่มีเงินส่งค่างวดรถกระบะที่ลูกชายเพิ่งออกมาได้ 1 ปี ส่งให้พ่อแม่ใช้บ้างเป็นบางเดือน
ส่วนร่างของนายอภิวัฒน์ หลังแพทย์ชันสูตรเสร็จ และเดินทางออกจาก รพ.สมุทรสาคร ช่วงเที่ยง คาดว่าจะมาถึงบ้านพักเพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลในช่วงกลางดึกของวันนี้ และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 2 ธ.ค.67 ที่เมรุวัดบ้านวังตามัว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: