X

ชาวบ้านห้วยพระร้อง ที่ดินท่าอุเทน ทำระวางแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ น.ส.3 ก.หาย ขณะเจ้าฯ แจงหายจริง

ชาวบ้านห้วยพระร้อง ที่ดินท่าอุเทน ทำระวางแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ น.ส.3 ก.หาย ขณะเจ้าฯ แจงหายจริงและได้ทำเรื่องขอคัดถ่ายจากกรมที่ดินแล้วคาดจะได้เร็ว ๆ นี้

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม2567 นายพัน ชมภูพระ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยพระ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทนจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยชาวบ้านบ้านห้วยพระได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวโดยได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยพระหมู่ 9 ในฐานะตัวแทนราษฎรกลุ่มชาติพันธุ์ไทโส้ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ที่บ้านห้วยพระ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทนจังหวัดนครพนม เมื่อราว ๆ ปลายปีที่แล้วตนได้ยื่นคำร้องขอออกโฉนดที่ดินของตนที่เป็น น.ส. 3 ก.เลขที่ 1132 เนื้อที่ดินประมาณ 7 ไร่ ซึ่งตนได้ซื้อมาจากนายแปลง ปู่โค้ย ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ดินได้ออกรังวัดเพื่อออกโฉนดนั้น ก็มีตัวแทนของบริษัทเกษตรปิยะมิตร ได้ยื่นคัดค้านการขอออกโฉนดของตน โดยกล่าวอ้างว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของบริษัทเกษตรปิยะมิตรซึ่งมีเอกสารสิทธิ์เป็นน.ส. 3 ก.หมายเลข  2248 เนื้อที่ดิน 28 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา พร้อมกันนั้นทางตัวแทนของบริษัทเกษตรปิยะมิตรยังได้ยื่นฟ้องขับไล่ตน ต่อศาลจังหวัดนครพนม พร้อมเรียกค่าเสียหายถึงสามแสนบาท เป็นเหตุให้ตนได้รับความเดือดร้อนมาก จึงได้ดิ้นรนหาหลักฐานมายืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยได้เดินทางไปขอคัดถ่ายเอกสารต่าง ๆ ในสาระบบที่ใช้ออกน.ส.3 ก ของทั้งสองแปลง แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทน ได้แจ้งกับตนว่าสาระบบที่ใช้ออก น.ส.3 ก.ทั้งสองฉบับสูญหายไปและเมื่อสอบถามถึงระวางภาพถ่ายทางอากาศก็ได้รับคำตอบว่าสูญหายไปด้วยเช่นกัน

ซึ่งหลังตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า น.ส. 3 ก.ของตนเป็นเลขที่ 1132 เล่มที่12 ก หน้า 32 อยู่บนระวางภาพถ่ายทางอากาศชื่อ MUOMG HINBOUN หมายเลข  5944 III แผ่นที่ 143 เนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน  ส่วน น.ส.3 ก.ของบริษัทเกษตรปิยะมิตรนั้นเป็นหมายเลข  2248 เล่ม 23 ก หน้า 48 และอยู่ในระวางภาพถ่ายทางอากาศชื่อ MUONG HINBOUN  หมายเลข 5944 III  แผ่นที่ 156 เนื้อที่ดิน 28 ไร่ 1 งาน 60 ตารางวา  ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่าตำแหน่งที่ดินเป็นคนละที่กัน เนื่องจากที่ดินอยู่ในระวางคนละแผ่นกัน

ซึ่งตนเห็นว่าแเผนที่ระวางที่ดิน Muang Hin Boun หมายเลข 4599 I!! แผ่นที่ 143 เป็นเอกสารทางราชการ ที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลรักษาของสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาท่าอุเทนเป็นแผนที่ระวางที่แสดงตำแหน่งที่ตั้งของที่ดินป่าดงกระแสน กว่า 1,000 ไร่ และแสดงตำแหน่งตั้งที่ดินของราษฎรที่อยู่บริเวณรอบ ๆป่าดงกระแสนด้วย ดังปรากฏตามสำเนาแผนที่ระวางที่ดิน Muang Hin Boun หมายเลข 4599 แI แผ่นที่ 143 (บางส่วน) ที่ตนเคยขอคัดถ่ายไว้เมื่อ ราวๆ ปี 2562 ก่อนหน้าที่จะสูญหายไป และแผนที่ระวางดังกล่าวได้แสดงตำแหน่งที่ตั้งที่ดินของข้าพเจ้าด้วย เมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2566 ข้าพเจ้าไปสอบถามและขอคัดถ่าย

สำเนาแผนที่ระวางที่ดินดังกล่าว แต่ได้รับแจ้งจากช่างรังวัดที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ที่ดิน จากสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม มายืมแผนที่ระวางดังกล่าว ไปดู และ ยังไม่คืนต่อมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ข้าพเจ้ามาสอบถามที่สำนักงานที่คืนจังหวัดนครพนม ก็ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม ว่า ไม่เคยขอยืมแผนที่ระวางที่ดิน Muang Hin Boun หมายเลข 4599 แ แผ่นที่ 143 ดังกล่าวแต่อย่างใด และเมื่อข้าพเจ้ากลับไปถามช่างรังวัดที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัคนครพนม

สาขาท่าอุเทน ก็ได้รับคำตอบว่า แผนที่ระวางคังกล่าว หาไม่เจอ สูญหายแล้ว ดังนั้น

เมื่อแผนที่ระวางที่ดิน Muang Hin Boun หมายเลข 4599 IIL แผ่นที่ 143

เป็นเอกสารราชการที่ใช้พิสูจน์ข้อเห็จจริงและความถูกต้องของตำแหน่งที่ดิน ซึ่งอยู่ในความ

รับผิดชอบดูแลของสำนักงานที่ดินจังหวัคนครพนม สาขาท่าอุเทน สูญหายไป จึงเกี่ยวซ้องกับ

การปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ของเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาท่าอุเทน และอยู่ในอำนาจของจังหวัดนครพนม ที่จะสั่งให้ตรวจสอบ

ถึงความมีอยู่ หรือ สูญหายไปแล้ว อีกทั้ง แผนที่ระวางดังกล่าว จะนำไปใช้ประกอบการพิจารณา

คดี ของศาลจังหวัดนครพนม ซึ่งบริษัทเกษตรปิยะมิตรได้ฟ้องตน ดังนั้นตนจึงต้องมาขอความเป็นธรรมกับสื่อเพื่อให้ช่วยติดตามเอกสารดังกล่าวจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ตนด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้นายพรประสิทธิ์ ศรีอุดร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทน ได้เปิดเผยว่า ตนเพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ ที่นี่ก็เลยไม่ค่อยทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งทราบมาว่าเกิดขึ้นเป็นเวลานานแล้ว โดยกรณีดังกล่าวยืนยันว่าเอกสารระวางดังกล่าวได้สูญหายไปจริง ซึ่งตนได้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อติดตามหาผู้กระทำผิดไปแล้ว และขณะเดียวกันก็ได้ส่งหนังสือขอคัดถ่ายระว่างดังกล่าวจากกรมที่ดินผ่านทางสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม ไปแล้วซึ่งหากยังมีสำเนาก็จะขอคัดถ่ายสำเนามาแต่หากไม่มีสำเนาก็ขอแนวทางปฎิบัติว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไป จะให้ทำขึ้นใหม่หรือไม่ ซึ่งตนได้ขอหารือทางกรมที่ดินไปแล้ว ผลเป็นอย่างไรตนจะแจ้งให้ผู้ร้องทราบทันทีที่ได้รับคำตอบจากกรมที่ดิน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน