X

แม่ทัพน้อยที่ 2 ลงพื้นที่นครพนม ย้ำแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล   

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.00 น.ที่วัดโพนสัมมา  (วัดสะอาด) บ้านเหล่าสวนกล้วย หมู่ 4 ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม พลโท บุญสิน   พาดกลาง   แม่ทัพน้อยที่ 2 เป็นผู้แทน พลโท อดุลย์    บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 / ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งตันและเคมีภัณฑ์ชายแดน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครพนม

ร้อยเอกธนากร นาเหล็ก ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะกิจ ทหารพรานที่ 2103 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 รายงานสถานะการณ์  เร่งขับเคลื่อนงานตามนโยบาย แก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเป็นปัญหาที่ต้องดำเนินการลดความรุนแรงอย่างเร่งด่วนเพื่อประชาชน และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เร่งขับเคลื่อนให้การแก้ไขปัญหาต้องเห็นผลรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งมาตรการที่ต้องเริ่มอย่างเร่งด่วนคือการสกัดกั้นยาเสพคิดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และภาคอีสาน ที่จะต้องเพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้น เพราะจากสถิติการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าไทยเกือบทั้งหมดมาจากเส้นทางนี้  หลังจากที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดเร่งด่วนให้ลดลงภายใน 10 เดือน โดยมุ่งเป้าไปที่การสกัดกั้นตามแนวชายแดน จึงได้มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24)  โดยมีแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้บัญชาการฯ  ซึ่งจังหวัดนครพนม ได้ประกาศพื้นที่พิเศษ ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 5(10) กำหนดให้ 4 อำเภอชายแดน ได้แก่ อำเภอท่าอุเทน-เมืองนครพนม-ธาตุพนม และอำเภอบ้านแพง เป็นพื้นที่พิเศษเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เพื่อให้เกิดการดำเนินการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยเป็นการบูรณาการกำลังทั้งทหาร  ตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 (ปปส.ภาค 4)  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดนครพนม  เสริมความเข้มแข็งตามแนวชายแดนมากยิ่งขึ้น  ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน  หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญจำนวนมาก

แม่ทัพน้อยที่ 2 ได้มอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามภารกิจการสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าประเทศในพื้นที่จังหวัดนครพนม ให้เร่งขับเคลื่อนงานตามนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สถานการณ์ยาเสพติดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  ขณะนี้ว่ามีการผลิตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากปัญหาภายในประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับเคมีภัณฑ์ที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดมีราคาถูกและหาง่าย  ทำให้มีปริมาณยาเสพติดเข้ามาพักคอยตามแนวชายแดนไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเพิ่มขึ้น จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการสกัดกั้นในพื้นที่ ย้ำเจ้าหน้าที่ต้องร่วมกับชุมชนช่วยกันสร้างชุมชนที่เข้มแข็งเป็นเกราะป้องกันยาเสพติดและที่สำคัญคือ การแก้ไขปัญหาผู้มีอาการทางจิตเวชจากยาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลโดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” การปิดล้อมตรวจค้น ยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย อย่างต่อเนื่อง,การตรวจสถานบริการ ที่เปิดฝ่าฝืนกฎหมาย และปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด  โดยใช้กลไกในการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อจับกุมผู้มีหมายจับที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ การสกัดกั้นดังกล่าวต้องดำเนินมาตรการต่างประเทศในการประสานงานข้อมูลการข่าว นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการร่วมกับชุมชน ในการเฝ้าระวัง ซึ่งจะเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และชุมชนที่สำคัญคือต้องมีความต่อเนื่อง การสร้างพลังการมีส่วนร่วมของชุมชนเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน และเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ต้องช่วยกันออกไปสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยการแก้ไขปัญหายาเสพติด เราดำเนินการปราบปราม สกัดกั้น บำบัด แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา หากครอบครัวและชุมชนช่วยกันความต้องการยาเสพติดจะลดลง เพราะยาเสพติดกลัวครอบครัวที่อบอุ่นและชุมชนที่เข้มแข็ง ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล

แม่ทัพน้อยที่ 2 ยังได้ฝาก นโยบาย ให้ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองที่มาต้อนรับ พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน  พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อยตชด. 237 นายพงษ์เพชร มีจิตต์ใส ปลัดป้องเกันอำเภอท่าอุเทน  นาวาตรีสมเจตน์ ค้าทวี หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง และนายศุภกฤต ศรีโสภา กำนันตำลบลหนองเทา ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ให้ทำงานแบบบูรณาการตรวจตราทุกพื้นที่ ไม่เน้นจุดล่อแหลม หรือพื้นที่สีแดง ให้ความสำคัญทุกพื้นที่

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน