วันที่ 19 สิงหาคม 65 รายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุอุกอาจ ที่บริเวณหน้าป้อมยาม มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ค่ายพระยอดเมืองขวาง ทำให้ สิบตรี วัชระ อินาลา อายุ 29 ปี ตำแหน่งพลสารวัตรทหาร มทบ.210 ถูกคนร้าย ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงิน-ดำ สวมหมวกกันน็อก สีแดง ไม่ปิดบังใบหน้า สวมเสื้อผ้าสีดำ มาจอดคุยก่อนชักปืนจ่อรัวยิงผู้ตาย รวม 16 นัด เข้าศีรษะ 1 นัด ตามร่างกาย อีก 11 นัด เสียชีวิตคาที่ในเครื่องแบบสารวัตรทหาร (สห.) ข้างตู้ยามรักษาการ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน ถึง 16 ปลอก ส่วนคนร้ายผู้ก่อเหตุ อยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนศพผู้ตายทางตำรวจจะได้ส่งไปชันสูตร เพื่อเก็บหลักฐานที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.ณัฐฏวิชย์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนมเปิดเผยว่า หลังชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจากที่เกิดเหตุ จึงจัดชุดไล่ล่าโดยทราบเบาะแสว่าคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง ก่อนเลี้ยวขวาใช้เส้นทางหนองญาติ-นาแก หลบหนี โดยอาจจะกลับบ้านพักที่บ้านโพนสว่าง ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก เพื่อจะไปหาแม่ซึ่งมีฐานะยากจนและพิการ โดยคนร้ายเป็นคนที่รักแม่มาก จนถึงขณะนี้ยังหลบหนีไม่พบตัว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ให้พนักงานสอบสวนเดินทางไปขออนุมัติหมายจับ จากศาลจังหวัดนครพนมแล้ว
ด้านนางสาวสกาวเดือน ขันจันทร์ แฟนสาว สิบตรี วัชระ พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้มาเฝ้ารอเพื่อส่งร่างผู้เสียชีวิต ชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ในช่วงขณะรอดำเนินการด้านเอกสาร นางสาวสกาวเดือน กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุวานนี้ตนก็ได้โทรคุยกับผู้ตายกันปกติ โดยเฉพาะสอบถามเรื่องลูกชายที่ตนเพิ่งคลอดวัยไม่ถึงเดือน ด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่ได้กลับมาประจำการได้เพียงวันเดียวเท่านั้นและไม่คิดว่าจะเป็นการพูดคุยกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ทั้งนี้ตนอยากถามคนร้ายว่า โกรธแค้นอะไรกับสามีจึงได้รัวยิงสามีตนนับสิบนัด อีกทั้งหวั่นว่าคดีนี้จะเงียบไม่ได้รับความสำคัญจากผู้บังคับบัญชาเพื่อเร่งติดตามคดี อย่างเช่นคดีที่เคยเกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตภายในค่ายทหารแห่งนี้ เมื่อต้นปี 2564 ที่คดีก็ยังไม่คืบหน้าจนถึงขณะนี้
สำหรับร่างผู้เสียชีวิต หลังจากที่กลับมาจากผ่าชันสูตรเรียบร้อยแล้วก็จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านโพนแพง อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผู้ตายต่อไป.
