X

ทหารพรานผลึกกำลัง นรข. ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด ขยายผลจากสาวสวยควบเก๋งฉายเดี่ยว

ทหารพรานผลึกกำลัง นรข. ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด ขยายผลจากสาวสวยควบเก๋งฉายเดี่ยว มารยาหญิงไม่ขลังจนมุมพร้อมของกลาง ซัดเพื่อนร่วมแก๊งนำสู่การยึดล๊อตใหญ่ริมโขง

วันที่ 9 เมษายน 2565 เวลา 11.30 น. บริเวณลานหัวกะโหลกริมแม่น้ำโขง ภายในกองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (บก.นรข.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ท.สวราชย์ แสงผล ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ผอ.ศอ.ปส.ชอน.) มอบหมายให้ พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.กกล.ฯ) ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (ผอ.ศอ.ชอน.บน),พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) นายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม,พ.ต.อ.สมศักดิ์ ตระการไพโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (รอง ผบก.ภ.จว.ฯ) พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับการกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม (ผกก.พฐ.ฯ) ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 และ 237 (ตชด.236,237) กองร้อยทหารพรานที่ 2108 และ 2109 (ร้อย ทพ.2108,2109) ฯลฯ ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2,000,000 เม็ด

สืบเนื่องจาก กองร้อยหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (QRF) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามแม่น้ำโขงเข้ามายังฝั่งไทย พิกัดคาดอยู่ระหว่างรอยต่อ ต.หนองเทา และ ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จึงประสานงานหน่วยงานความมั่นคง และ น.ท.ธนะพงษ์  สุดรักษ์ หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง ร่วมกันวางแผนและแบ่งกำลังเข้าจุดเฝ้าซุ่ม โดย สน.เรือบ้านแพงลาดตระเวนอยู่ในหมู่บ้านนากระเสริม หมู่ 10 ต.พนอม ส่วนทหารพรานลาดตระเวนในพื้นที่หมู่บ้านเหล่าหนาด หมู่ 8 ต.พนอม กระทั่งเวลาพลบค่ำของวันที่ 8 เมษายน ชุดลาดตระเวนของทหารพราน นำโดย ร.อ.ธนากร นาเหล็ก ผบ.ทพ.2109 ตรวจพบเรือหาปลาติดเครื่องยนต์แล่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังฝั่งไทย บริเวณปากห้วยกัด บ้านเหล่าหนาด หมู่ 8 ต.พนอม ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเฝ้าตรวจราว 500 เมตร หลังจอดเทียบท่าชายคนขับเรือได้ยกกระสอบต้องสงสัยโยนลงบนบก โดยมีชายไม่ทราบสัญชาติจำนวน 3 คนเดินออกมาจากป่าละเมาะ เข้าไปแบกกระสอบดังกล่าวแล้วรีบเดินขึ้นจากท่า เจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าตรวจสอบทันที ชายทั้งสามเห็นชุดปฏิบัติการก็ทิ้งกระสอบต้องสงสัย โดยอาศัยความชำนาญในพื้นที่และความมืดวิ่งหลบหนีไป ซึ่งเนื่องจากเป็นเวลาค่ำมืดเจ้าหน้าที่จึงไม่ไล่ติดตามเพราะเกรงคนร้ายมีอาวุธยิงสวนมาอาจได้รับบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิต จึงเซฟตัวเองไว้ก่อน

จากนั้นได้ประสานชุดปฏิบัติการ นรข. ที่เฝ้าซุ่มอยู่บ้านนากระเสริมร่วมเข้าตรวจพื้นที่ดังกล่าว พบกระสอบปุ๋ยและกระสอบหัวอาหารปลา จำนวน 6 กระสอบ กระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงนำของกลางไปตรวจนับยัง ร้อย ทพ.2109 ภายในบรรจุยาบ้าประมาณ 2,000,000 เม็ด รวมมูลค่า 140,000,000 บาท จึงลงบันทึกการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนส่งมอบของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ การตรวจยึดยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ดนี้ น.ท.ธนะพงษ์  สุดรักษ์ หน.สน.เรือบ้านแพง เผยว่าเป็นการขยายผลเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา โดยบูรณาการร่วมกับ ทพ.2109 ตชด. 237 และ กกล.สุรศักดิ์มนตรี จับกุมนางสาวนาตยา  ไชยภูธร อายุ 34 ปี อยู่ ต.ตาลโกน  อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 36,000  เม็ด

รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน  กน 549 สกลนคร จำนวน 1 คัน โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าอาศัยที่ตนเป็นหญิงมีหน้าตาสะสวย ขับรถเก๋งคู่ชีพมารับยาบ้าที่ริมแม่น้ำโขงมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งสามารถเล็ดลอดสายตาของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปได้ โดยพรางตัวใส่ชุดนอนเหมือนชาวบ้านในพื้นที่ ขับรถออกจากบ้านมารับยาบ้าแล้วก็รีบกลับไป แต่ตบตาได้ไม่นานเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นผิดสังเกตจึงสืบสวนสอบสวนในทางลับ ทราบว่าเป็นหญิงสาวต่างถิ่นเข้ามาในพื้นที่บ่อยผิดปกติ จึงวางแผนตั้งจุดสกัดจึงค้นพบยาบ้าเกือบ 4 หมื่นเม็ด โดยผู้ต้องหาให้การซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนว่าชื่อนาย พลวัฒน์ ศรีบุญเรือง อายุ 37 ชาวบ้านธาตุ ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ทำหน้าที่จัดยาบ้าไว้รอเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบทันที โดยนายพลวัฒน์ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไปชี้จุดซ่อนยาบ้านับได้  1,980 เม็ด และผู้ต้องหาทั้งสองให้ปากคำตรงกันว่าในวันสองวันนี้ จะมีการลำเลียงยาบ้าล๊อตใหญ่อย่างต่ำ 1 ล้านเม็ดเข้าราชอาณาจักร พิกัดอยู่รอยต่อ ต.หนองเทา และ ต.พนอม อ.ท่าอุเทน เจ้าหน้าที่จึงบูรณาการจัดชุดลาดตระเวนตามคำให้การของผู้ต้องหา นำมาสู่การตรวจยึดยาบ้าจำนวน 2 ล้านเม็ดดังกล่าว

พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี เปิดเผยว่าในฐานะเป็นกองกำลังชายแดนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งแต่จังหวัดเลยถึงจังหวัดมุกดาหาร สิ่งแรกที่ให้ความสำคัญตามนโยบายผู้บัญชาการทหารบก เราเน้นเรื่องการบูรณาการร่วมกันทุกส่วน พลังอำนาจของชาติไม่ว่าจะเป็นข้าราชการฝ่ายความมั่นคงหรือแม้กระทั่งภาคประชาชน ล้วนเป็นส่วนสำคัญมาก เริ่มจากงานด้านการข่าวเป็นหัวใจหลัก ซึ่งงานการข่าวเป็นจุดนำทุกเรื่อง เพื่อนำไปสู่การวางแผน แม้กำลังในพื้นที่ของเราไม่มีมากมายนัก ถ้าเทียบกับระยะทางการรับผิดชอบ 800 กิโลเมตรกว่านี้ กำลังไม่เพียงพออยู่แล้ว แต่กำลังบูรณาการจากงานการข่าวทำให้เราสามารถกำหนดจุดที่ล่อแหลมหรือพื้นที่เสี่ยงภัย เราก็ใช้วิธีการเข้าสู่เป้าหมายโดยใช้กำลังอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับกำลังในส่วนอื่นเราใช้ภาคประชาชนในการให้ความร่วมมือให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆจนนำไปสู่การวางแผน ซึ่งตลอดช่วงในปีงบประมาณนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 64 ถึงเดือนมีนาคม 65 สถิติของการจับกุมเยอะมาก อาทิ ยาบ้า 75 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 1,300 กิโลกรัม กัญชาก็มากขึ้นเป็น 5 เท่า ซึ่งถือว่ามากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ปราบปรามด้านยาเสพติด เรื่องอื่นๆเราก็ทำด้วยทุกด้าน  ซึ่งการปฏิบัติงานในแนวพื้นที่ชายแดน สิ่งต่างๆที่ผิดกฎหมายซึ่งจะมาจากนอกประเทศ เราให้ความสำคัญและใช้การปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องชื่นชมเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงที่ร่วมกันบูรณาการตลอดแนวแม่น้ำโขง ทำให้เรามีเครือข่ายการปฏิบัติงานที่กว้างขวาง เรามีความเชื่อมั่นว่าจะพัฒนาต่อไปเพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน