X

นายด่านศุลกากรนครพนม เผยโควิดทำพิษ จีนเข้มงวดนำเข้า ยอดการค้าชายแดนลดเกินครึ่ง หนักสุดผลไม้ไทยขาดทุนยับ

นายด่านศุลกากรนครพนม เผยโควิดทำพิษ จีนเข้มงวดนำเข้า ยอดการค้าชายแดนลดเกินครึ่ง หนักสุดผลไม้ไทยขาดทุนยับ ประสานเปิดด่านชายแดนชั่วคราวช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากด่านศุลกากรนครพนม โดยนางสาวสุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์ นายด่านศุลกากรนครพนม เปิดเผยว่าช่วงปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 – เดือนตุลาคม 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจไปทั่วทุกภูมิภาค แต่ถือว่ายอดการค้าชายแดนของจังหวัดนครพนม ยังได้รับผลกระทบน้อยมาก โดยมีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 19,000 ล้านบาท ส่วนการส่งออกอยู่ที่ประมาณ 99,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นมูลค่าการส่งออกสูงกว่าการนำเข้า สินค้าส่งออกมากสุดเป็นอันดับต้น ๆ คือ ผลไม้ไทย (ทุเรียน มังคุด ลำไย) และเครื่องดื่มชูกำลัง โดยผู้ส่งออกใช้เส้นทาง R12 เป็นทางหลักในการขนส่งสินค้าออกจากด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) ผ่านประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และเวียดนาม แล่นเข้าถึงชายแดนจีนบริเวณด่านโหย่วอี้กวน และด่านตงซิง

นายด่านศุลกากรนครพนม กล่าวต่อว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2563 – 2564) จึงยังถือว่าการค้าชายแดนได้รับผลกระทบน้อยมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในห้วงปี 2565 คือ เดือนมกราคมถึงปัจจุบัน การค้าชายแดนโดยเฉพาะสินค้าส่งออกได้รับผลกระทบหนัก ทั้งนี้ เนื่องจากทางการจีนมีนโยบาย Zero COVID-19 ทำให้มีการเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าผลไม้จากไทยไปจีนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้จากเดิมที่ใช้เวลาในการขนส่งประมาณ 3-5 วันต่อเที่ยว เป็น 10-15 วันต่อเที่ยว โดยมีรถรอข้ามด่านพรมแดนฝั่งเวียดนามประมาณ 1,200 คัน ปัญหาที่ตามมา คือ การขนส่งผลไม้ต้องใช้ระยะเวลานานขึ้น ทำให้ผลไม้อาจเกิดความเสียหายเน่าเสีย ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกผลไม้ผ่านทางด่านพรมแดนฯ ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ด้านผู้ประกอบการจึงหันไปใช้การขนส่งทางอากาศและทางทะเล ในเส้นทางอื่น แต่ต้องแบกภาระเพิ่มต้นทุนสูง ซึ่งหากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้นคาดว่ามีโอกาสส่งผลกระทบในระยะยาว

นางสาวสุนทรียา ทวิชาประสิทธิ์ เปิดเผยว่า ด่านศุลกากรนครพนมได้หารือ กับจังหวัดนครพนมร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน ตัวแทนผู้ประกอบการเพื่อเจรจากับ สปป.ลาว เปิดจุดผ่านแดนถาวรท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม และจุดผ่อนปรนตามอำเภอต่าง ๆ ที่ติดกับชายแดนไทย-ลาว รวม 4 แห่ง (บ้านหนาดท่า, บ้านแพง, ท่าอุเทน และธาตุพนม) เพื่อเพิ่มช่องทางการขนส่งสินค้าให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้ค้าขายแลกเปลี่ยน แต่เป็นการเปิดช่องทางเพียง ใช้การขนส่งสินค้าเท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้ประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางข้ามไปมาได้

ซึ่งหากสามารถเจรจาเปิดจุดการค้าชายแดนเพิ่ม เชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมถึงระบายสินค้าได้อีกระดับหนึ่ง ที่จะเป็นการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนได้อีก คาดว่าในช่วงเดือนมิถุนายน 2565 จะสามารถเปิดได้บางจุด โดยทางด่านศุลกากรนครพนมพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเต็มที่

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน