X

“เสรีพิศุทธิ์” ส่งทีมเร่งสอบทุจริตบ่อขยะ ทต.นาแก 72 ล้านหลังถูกดองเค็มเกือบ 5 ปี

“เสรีพิศุทธิ์” ส่งทีมเร่งสอบทุจริตบ่อขยะ ทต.นาแก 72 ล้านหลังถูกดองเค็มเกือบ 5 ปี อดีตนายกกลายเป็นเสือสิ้นลาย คาดยอมรับชะตากรรมที่ก่อไว้

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาตรวจสอบทุจริต โครงการก่อสร้างศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย กลุ่มพื้นที่ 3  ซึ่งสร้างด้วยงบประมาณกว่า 72 ล้านบาทของเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก จ.นครพนม   วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการคัดแยกขยะในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.นาแก,ธาตุพนม,เรณูนคร และ อ.วังยาง  ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 7 ต.นาเลียง อ.นาแก บนเนื้อที่กว่า 70 ไร่  แล้วเสร็จในปี 2554  ก็มีการเดินเครื่องใช้งานได้แค่ประมาณ 2 ปี เกิดปัญหาทางเทศบาลตำบลนาแกได้หยุดเดินเครื่อง เนื่องจากมีปัญหาค่าใช้จ่าย ไม่คุ้มทุน ปล่อยพื้นที่ทิ้งร้างไม่มีการใช้งานกว่า 5 ปี ขณะที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากปริมาณขยะเพิ่มขึ้น และเกิดมลพิษ เพราะต้องใช้วิธีการฝังกลบแทน แต่ไม่สามารถจัดการขยะได้ทั้งหมด เนื่องจากมีปริมาณขยะนำมาทิ้งวันละไม่ต่ำกว่า 20 ตัน

ย้อนรอยไปเมื่อเดือนเมษายน 2560 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)  โดยสำนักตรวจสอบพิเศษภาค 5 จ.อุบลราชธานี ได้ส่งทีมเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุ  ชี้มูลว่าใช้ประโยชน์ไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ และไม่มีการใช้ประโยชน์ทั้งระบบ รวมทั้งไม่สามารถปรับปรุง หรือซ่อมแซมให้ใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้  เป็นเหตุทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย พร้อมมีคำสั่งให้ทางจังหวัดนครพนม ร่วมกับเทศบาลตำบลนาแก มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิด รวมทั้งอาญาและแพ่งในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ภายหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายเทศบาลตำบลนาแก ได้มีการเร่งรวบรวมสรุปเอกสารหลักฐาน เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดตามกฎหมาย  โดยแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ แนวทางแรกเป็นการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในส่วนของละเมิด หรือในเรื่องของแพ่ง เกี่ยวกับความเสียหายที่จะต้องชดใช้เงินคืนกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง   ประกอบด้วย อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนาแก ในช่วงการเสนอขออนุมัติงบประมาณ ระหว่างปี 2547 ถึงปี 2552  และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง คือ ปลัดเทศบาล และผู้อำนวยการกองช่าง

ส่วนแนวทางที่สอง เป็นการสอบสวนทางวินัย ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐาน ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เกี่ยวกับความผิด ในเรื่องของการกระทำที่ขัดระเบียบกฎหมาย ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงมาถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความคืบหน้า ถูกดองเค็ม ทำให้ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนไปยัง คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.)  เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบเร่งรัดแก้ไขปัญหาเอาผิดเกี่ยวกับการใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า

ล่าสุดในปี 2565  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.)  มอบหมายให้ นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ สส.เขตห้วยขวาง ดินแดน พรรคเพื่อไทย เลขานุการกรรมธิการ ป.ป.ช.พร้อมด้วย นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะกรรมมาธิการ ป.ป.ช. ประสานงานร่วมกับ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม เขต 4 พรรคเพื่อไทย นำทีมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงเร่งรัดเกี่ยวกับการสอบเอาผิดตามกระบวนการของกฎหมายตามคำสั่งของ สตง.ทั้งทางแพ่ง ทางอาญา โดยมี นายธวัชชัย มณีกุลทรัพย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาแก นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่รับทราบปัญหาและชี้แจงความเป็นมา และแนวทางแก้ไข

นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.เขตห้วยขวาง ดินแดง พรรคเพื่อไทย เลขานุการกรรมธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ตรวจสอบ โครงการบ่อขยะเทศบาลตำบลนาแก หลังได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธาน กรรมาธิการ ป.ป.ช. เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการ รวมถึงปัญหาการใช้งานของเครื่องคัดแยกขยะ โดยจะมีการตรวจสอบเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจะมีการตรวจสอบ เกี่ยวกับการดูแลกำจัดของยะของหน่วยงานเกี่ยวข้อง คือ เทศบาลตำบลนาแก พบว่ายังมีปัญหาเรื่องการจัดการขยะ เพราะยังใช้วิธีการฝังกลบ เนื่องจากเครื่องคัดแยกไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มศักยภาพ อีกทั้งการฝังกลบขยะยังไม่เป็นไปตามหลักวิชาการจึงต้องให้คำแนะนำ เร่งดำเนินการไม่ให้สารตกค้าง สารพิษไหลไปกระทบสิ่งแวดล้อมรวมถึงส่งกลิ่นสร้างมลพิษ

สำหรับส่วนที่ 2 จะได้มีการตรวจสอบรวบรวมหลักฐานเกี่ยวข้อง ในการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่ปี 2554 เพราะปัจจุบันเครื่องคัดแยกไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องหารือกับทาง นายกเทศมนตรีเทศบาลนาแกซึ่งเป็นผู้บริหารชุดใหม่ พร้อมหารือกับหน่วยงานระดับจังหวัดตรวจสอบข้อเท็จจริง ในส่วนของการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึง สตง.เคยชี้มูลเกี่ยวกับปัญหาใช้งานไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ พร้อมให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดเกี่ยวกับฐานความผิดละเมิดชดใช้ทางแพ่ง คืนเงินแก่รัฐ พร้อมเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งหลังจากนี้จะได้รวบรวมหลักฐานหารือกับทางจังหวัดนครพนม ตรวจสอบว่าติดปัญหาอยู่จุดไหน ให้มีการชี้แจงต่อกรรมาธิการ ป.ป.ช. ว่ามีเหตุผลอะไร ถึงไม่มีความคืบหน้า ถ้าพบมีความบกพร่อง แน่นอนที่สุดหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ จะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาละเว้น ตามมาตรา 157 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลักฐานเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามโครงการนี้จะต้องได้รับการแก้ไข และใครมีความผิดต้องรับผิดชอบ

ด้าน นายถวิล จันทร์หอม อายุ 64 ปี หมู่ 7 บ้านโพนสวรรค์ ต.นาเลียง อ.นาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ได้รับผลกระทบจากปัญหากำจัดขยะเทศบาลนาแกมานานเกือบ 10 ปี ร้องเรียนมาตลอดจนกระทั่งล่าสุดต้องเรียนเรียนผ่าน ส.ส. รวมถึง คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.เพราะไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา สิ่งที่เดือดร้อนสุดคือ ปัญหาน้ำเสียที่ไหลทะลักเข้าพื้นที่การเกษตรก่อนไหลลงสู่ลำน้ำสาขาแม่น้ำโขง ได้แก่ ลำน้ำบัง รวมถึงลำห้วยใกล้เคียง ที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งผลกระทบสิ่งแวดล้อมเกิดมลพิษ อีกส่วนตนรู้สึกเสียดายงบประมาณ ที่มีการจัดซื้อเครื่องคัดแยกขยะมูลค่า 60-70 ล้านบาท แต่สุดท้ายใช้งานไม่ได้ ต้องมาฝังกลบแทน และสร้างปัญหาให้ชุมชน ฝากทางรัฐบาลเร่งตรวจสอบแก้ไขปัญหา เสียดายภาษีประชาชน รวมถึงอยากให้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมมาแก้ไขปัญหาบริหารจัดการขยะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหากาพย์โรงคัดแยกขยะแห่งนี้ เดิมทีมีอดีตนายกเทศบาลตำบลนาแกท่านหนึ่ง เป็นผู้เขียนโครงการแยกเป็นขั้น 1 ขั้นสองสามสี่ตามลำดับอย่างชัดเจน ภายหลังไม่ได้รับการเลือกตั้ง ได้นายกฯคนใหม่เข้ามาบริหาร ซึ่งนายกฯคนนี้สั่งรื้อแบบเค้าโครงการเดิมทิ้ง ให้ใส่แบบโครงการใหม่ลงไปซึ่งไม่สอดคล้องกับการใช้งาน แม้จะมีเสียงคัดค้านก็ไม่ยอมฟัง กระทั่งเกิดเรื่องฉาวไม่สามารถเดินเครื่องได้ตามมาตรฐาน มีการตรวจสอบมาจนพรุนก็ดองเก็บไว้ กลายเป็นช่องทางหนึ่งของสื่อสีเทาเข้าไปรีดไถเพื่อปิดข่าว บางสื่อบุกไปถึงศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อขอเงินอย่างหน้าด้านๆ เมื่อไม่มีใครจ่ายก็โวยวายกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ล่าสุดอดีตนายกเทศบาลตำบลนาแกรายนี้ ถูกเรียกตัวไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.)  มีน้ำเสียงที่สั่นเครือตลอดเวลา ซึ่งคงจะทราบชะตากรรมของตนแล้วว่าจะต้องเจอกับอะไร ทั้งที่ช่วงดำรงตำแหน่งนายกฯวางตัวกร่างไม่ยอมใคร วันนี้กลายเป็นเสือสิ้นลายเพราะผลจากการกระทำของตนเอง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน