ลูกค้าร้านอาหารราคาทองคำ จี้ สคบ.ตรวจสอบเจอกระเพาะปลาหม้อละ 5 พัน น้ำแข็ง 111 ถัง เจ๊เจ้าของร้านเสียงอ่อยพร้อมจะไม่คิดเงินที่ค้างจ่าย
จากกรณี นายเกียรติภูมิ ศิริวรเดชกุล อายุ 54 ปี อาชีพไกด์ทำงานอยู่จังหวัดอุดรธานี โดยเมื่อเย็นของวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ไปจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนบายพาส บ้านน้อยหนองเค็ม เขตเทศบาลเมืองนครพนม โพสต์บิลรายการค่าอาหารเครื่องดื่ม ซึ่งมีการสั่งเมนูอาหารแบบเหมาจ่าย มีเพื่อนร่วมคณะรวมประมาณ 30 คน แต่พอเห็นบิลค่าใช้จ่ายถึงกับผงะแทบจะหล่นจากเก้าอี้ เพราะพบว่ามีการคิดเมนูอาหารจากทั้งหมดรวม 20 รายการ บางรายการแพงเกินความเป็นจริง เช่น กระเพาะปลาน้ำแดง หม้อละ 5,000 บาท,น้ำแข็งแช่เบียร์ 1,000 บาท ปีกไก่ทอด 2 จาน ราคา 2,000 บาท เป็นไปได้อย่างไรน้ำแข็ง 111 ถัง ฯลฯ รวมบิลเบ็ดเสร็จเป็นเงิน 31,501 บาท
ทั้งนี้ นายเกียรติภูมิเผยว่าได้สั่งเมนูอาหารจากเจ้าของร้าน ในราคาเหมาจ่าย เมนูละ 2,000 บาท โดยตนเองไม่ได้ติดใจเรื่องราคา เพราะเป็นการเหมาจ่ายที่ได้ตกลงราคาก่อนมาจัดเลี้ยง แต่ติดใจเรื่องปริมาณอาหารที่น้อยเกินความเป็นจริง จึงต้องการเรียกร้องให้ หน่วยงานเกี่ยวข้องเช่นสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)ออกมาตรวจสอบ และให้ร้านอาหารดังกล่าวปรับปรุงแก้ไข เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม
นายเกียรติภูมิกล่าวต่อว่าตนในฐานะชาวนครพนม และทำงานไกด์นำเที่ยวด้วย กรณีที่นำเมนูบิลอาหารแพงมาโพสต์ไม่มีเจตนาที่จะทำลายใคร หรือไม่พอใจใครเป็นการส่วนตัว แต่นึกถึงภาพรวมของจังหวัดนครพนม เมืองท่องเที่ยวที่หลายคนสนใจมาเที่ยวพักผ่อน แต่มีบางร้านฉวยโอกาสขึ้นราคาอาหารและเครื่องดื่มลูกค้าแบบขูดเลือด ตนจึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาตรวจสอบแก้ไข ป้องปรามไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของจังหวัดนครพนม และไม่ต้องการกินฟรี
“โดยก่อนจะไปรับประทานนำคณะเพื่อนไปจัดเลี้ยงที่ร้านดังกล่าว ได้ตกลงราคาอาหารแบบเหมาจ่ายเมนูละ 2,000 บาท รวมอาหารเครื่องดื่มประมาณ 20 รายการ บางเมนูสั่งเหมาจ่าย 5,000 บาท อาทิ กระเพาะปลาน้ำแดง 5,000 บาท ไก่ทอด 2,000 บาท น้ำแข็งคิดแพงเกินแค่แช่เบียร์คิด 1,000 บาท ทั้งที่เบียร์เย็นอยู่แล้ว การออกมาเสนอข้อมูลครั้งนี้ ต้องการเรียกร้องที่จะให้จังหวัดนครพนมหารือแก้ไขตรวจสอบทุกร้าน และยอดบิลครั้งนี้ยินยอมที่จะจ่ายตามความเป็นจริง แต่ในราคานี้ไม่จ่ายแน่นอน โดยผมวางมัดจำไว้แล้ว 10,000 บาท ที่เหลือต้องพูดคุยกัน จะต้องผ่านการตรวจสอบ ของ สคบ. และอยากให้ร้านดังกล่าวปรับปรุงแก้ไขช่วยกันในฐานะคนนครพนม” นายเกียรติภูมิกล่าว
ล่าสุด วันที่ 23 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านอาหารดังกล่าว ปรากฏว่าเจ๊เจ้าของร้านไปต่างจังหวัด มีเพียงพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นที่ให้รายละเอียด แต่มีบางคำถามที่ไม่กล้าตอบ จึงมีการต่อสายคุยกับเจ้าของร้านชื่อ”เจ๊บิว” นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวก็ใช้โทรศัพท์อีกเครื่องกดไปยังเบอร์โทรของนายเกียรติภูมิ เพื่อให้ทั้งสองได้เจรจาทำความเข้าใจกัน ซึ่งเจ๊บิวอ้างว่าอาหารที่สั่งเป็นของสดทั้งหมด น้ำมันที่ทอดก็ใช้น้ำมันมะกอก ส่วนน้ำแข็งที่แพงเพราะคิดค่าละลายเร็วเนื่องจากอากาศข้างนอกมันร้อน แต่พร้อมจะพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งนายเกียรติภูมิยืนยันจะขอคุยต่อหน้าเจ้าหน้าที่เท่านั้น
เจ๊บิวเจ้าของร้านอาหารชื่อดังคู่กรณี เปิดเผยต่อว่ามีการตกลงราคากันก่อนที่ลูกค้าจะมาจัดเลี้ยงที่ร้าน ตามราคาที่ระบุตามบิล ซึ่งยืนยันว่าใช้วัตถุดิบทำอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐาน และไม่มีเจตนาฉวยโอกาสขึ้นราคา แต่อาจจะมีความผิดพลาดเรื่องปริมาณหรือการจัดเมนู โดยพร้อมที่จะเจรจากับลูกค้า ลดราคาให้ตามสัดส่วน และพร้อมที่จะไม่คิดเงินที่เหลือหากลูกค้าไม่พอใจ ขอความเมตตาจากลูกค้าทุกท่าน ย้ำว่าทางร้านไม่เคยคิดฉวยโอกาส แต่อาจมีความผิดพลาดในการคิดราคา และพร้อมที่จะดูแลลูกค้าทุกท่าน หากผิดพลาดขอกราบขอโทษลูกค้า และพร้อมที่จะร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จังหวัดนครพนม ส่วนบิลที่คิดเงินลูกค้าระบุว่าแพง จะมีการตรวจสอบพิจารณาตามความเป็นจริง ยอมรับในความผิดพลาด
