งามไส้..!! อสม.ทม.นครพนม เหิมหนัก สบถ“ใครกลัวก็ออกไป..” ไล่คนค้านผู้เสี่ยงสูงโควิดเข้าประชุมออก อ้างเด็กเส้นผู้บริหารทำอะไรไม่ผิด
วันที่ 16 มกราคม 2565 มีผู้ใช้นามว่า ”หมอมิก” เผยแพร่ข้อความเหมือนเป็นคำสั่งในไลน์กลุ่ม “อสม.คลินิกหมอครอบครัว” ที่ตั้งขึ้นเฉพาะกลุ่ม อสม. (PCU) เขต 1 ดูแล 8 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนมโซนเหนือ ระบุว่า “**ด่วน** !! ขออนุญาตกักตัวสังเกตอาการตนเอง 14 วัน อสม.ชุมชนหนองทุ่งนะครับ เนื่องจากผู้บริหาร รพ.นครพนม และเทศบาลเมืองนครพนม ได้เห็นภาพการจัดทำกิจกรรมหมู่ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังตนเองและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อฯขอให้ อสม.ชุมชนหนองบึกทุ่ง ปฏิบัติตามนี้..xงดกิจกรรมรวมกลุ่ม xงดการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆชุมชน /ให้กักตัวสังเกตอาการตนเอง และคนในครอบครัว /หากมีธุระสนทนากับคนในบ้าน ให้สวมแมสก์และล้างมือบ่อยๆ /ปฏิบัติตัวตามมาตรการ DMHTT จ.นครพนม /ปฏิบัติต่อเนื่อง 14 วันครับ แล้ววัน จ.ที่ 17 ม.ค.65 จนท.PCU รพ.นครพนม จะลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและสอบสวนโรคเพิ่มเติมคร้าาาบ”
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีหญิงทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ร้านเหล้าแห่งหนึ่งย่านท้ายเมือง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ติดเชื้อโควิดจากเพื่อนที่ทำงานเดียวกัน โดยพบเชื้อเมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา มีไทม์ไลน์ระหว่างวันที่ 6-13 มค. ได้สัมผัสกับเพื่อนอย่างน้อย 7 คน แต่ยังไม่รวมคนในครอบครัว หลังพบเชื้อทีมสอบสวนโรคสั่งให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดรวมคนในครอบครัวกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 มค.เป็นต้นไป
ปรากฏว่าวันที่ 16 มกราคมช่วงเช้า มารดาของหญิงสาวผู้ป่วยโควิด ไม่ยอมกักตัวเองเพื่อเฝ้าสังเกตอาการในฐานะเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเข้าไปประชุมประจำเดือน อสม.ชุมชนหนองบึกท่า ที่บ้านของนางสายใจ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็น อสม.ฯ เช่นเดียวกัน และชุมชนหนองบึกทุ่งมี อสม.จำนวน 21 คน การประชุมครั้งนี้หัวข้อหลักคือมีวาระคัดเลือกหัวหน้า อสม.ชุมชนฯคนใหม่ ก็มี อสม.ฯเข้าร่วมประชุมเกือบครบ แต่มีคนหนึ่งเห็นว่ามารดาของเด็กเสิร์ฟคนนี้เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจึงทักท้วง ก็มีเสียงตะโกนโวยวายออกมาว่าถ้ากลัวตายก็ออกไปอย่ามาก่อกวน จากนั้นก็ประชุมเลือกหัวหน้า อสม.ต่อไป ผลโหวตได้คนเดิมคือนางสุจิตรา (สงวนนามสกุล) เป็นหัวหน้า อสม.ต่ออีกหนึ่งวาระ
หลังจบวาระการประชุมก็จัดฉลองวันขึ้นปีใหม่ที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมถ่ายรูปลงในไลน์กลุ่ม อสม.เทศบาลเมืองนครพนม ปรากฏว่าผู้บริหารเทศบาลฯ และ รพ.นครพนม เห็นภาพการรวมตัวของ อสม.ฯ จึงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสั่งให้ทุกคนกักตัวเฝ้าสังเกตอาการ ซึ่ง อสม.กลุ่มนี้ยังเพิกเฉยอ้างเป็นเด็กผู้บริหารเทศบาลฯ ทำอะไรไม่ผิด กระทั่งเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเข้าไปสั่งอีกครั้งจึงแยกย้ายกันไป
ขณะเดียวกันทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโรคโควิดประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 40 ราย มาจากพื้นที่อื่น 6 ราย ได้แก่ สมุทรปราการ 3 ราย และ กทม.,กาฬสินธุ์,อุบลฯ แห่งละ 1 ราย โดยมีติดเชื้อในพื้นที่ 34 ราย
