X

3 เด็กหญิงเหยื่อรุ่นพี่มือตบ เผยนาทีระทึกถูกจิกหัวลากออกจากป่า รุมสกรัมแถมส่งแชทข่มขู่

นครพนม – 3 เด็กหญิงเหยื่อรุ่นพี่มือตบ เผยนาทีระทึกถูกจิกหัวลากออกจากป่า-รุมสกรัม แถมส่งแชทข่มขู่ ญาติผู้เสียหายรับคำขอโทษด้วยเงินสดเท่านั้น

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง เผยแพร่คลิปหลานสาวของตนเอง ถูกนักเรียนรุ่นพี่อย่างน้อย 4-6 คนรุมตบตีทำร้ายร่างกาย บริเวณถนนคอนกรีตเสริมเหล็กแห่งหนึ่ง พร้อมระบุว่าเหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งในคลิปเด็กหญิงที่ถูกทำร้ายมิได้ตอบโต้แต่อย่างใด ขณะที่รุ่นพี่ทั้งจิกผม เตะ ตบสารพัด โดยคลิปดังกล่าวเพื่อนในกลุ่มผู้ก่อเหตุถ่ายไว้แล้วนำไปเผยแพร่กันในหมู่เพื่อนๆ ก่อนที่จะมีหลุดมาสู่สาธารณะ กระทั่งญาติของผู้ถูกทำร้ายเห็นจึงนำมาโพสต์ประจานรุ่นพี่กลุ่มนี้ พร้อมกล่าวว่ารับคำขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น

ล่าสุด วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวติดตามจนทราบว่าผู้เสียหาย 3 คนมีที่พักอาศัยอยู่บ้านกลางน้อย หมู่ 7 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม ครอบครัวมีอาชีพทำการเกษตรปลูกพืชผักสวนครัวส่งขายพ่อค้าคนกลาง พบเด็กหญิง 3 คน 1.น้องเมย์ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี  2.น้องมิ้นต์ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี โดยทั้งสองเป็นพี่น้องกัน และ 3.น้องเปรี้ยว (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ทั้งหมดเรียนหนังสืออยู่ รร.ระดับมัธยม ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งน้องเปรี้ยวยังปรากฏร่องรอยถูกทำร้ายที่ขอบตาด้านขวาเขียว หัวเข่าซ้ายเป็นแผลยังเดินไม่ค่อยถนัด

น้องเมย์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 23 พฤศจิกายน ได้ยืมรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สภาพเก่าแต่แต่งซิ่งของเพื่อนไปทำธุระที่ ต.กุดฉิม อ.ธาตุพนม โดยซ้อนท้ายไปกัน 3 คน พอวิ่งมาถึงสะพานบ้านกุดฉิม รถ จยย.เครื่องเกิดดับ น้องเมย์จึงใช้เท้าสตาร์ทเครื่องและเกิดสายคันเร่งค้าง ประกอบกับท่อไอเสียไม่มีใส่กรองจึงทำให้เกิดเสียงดัง บริเวณนั้นมีน้องอาร์ม (นามสสมมุติ) เพื่อนรุ่นเดียวกันแต่คนละโรงเรียนอยู่กับกลุ่มเพื่อน ไม่พอใจคิดว่าน้องเมย์เร่งเครื่องใส่ เมื่อกลับถึงบ้านก็ส่งไลน์ไปถามว่าเร่งเครื่องทำไม น้องเมย์ตอบกลับคันเร่งมันค้าง และพูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจกันและกันแล้ว

ต่อมาวันที่ 24 พฤศจิกายน น้องเมย์ น้องมินต์ และ น้องเปรี้ยว ได้ชวนกันไปเล่นกับเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียนระดับประถมบ้านกุดฉิม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่น้องอาร์มเรียนอยู่ และโคจรมาเจอกันโดยบังเอิญ น้องอาร์มคิดว่าทั้งสามจะมาหาเรื่องจึงไลน์ไปบอกเพื่อนรุ่นพี่ให้รีบมาช่วย ซึ่งก็มีน้องมาย (นามสมมุติ) เพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนอยู่โรงเรียนระดับชั้นมัธยมในบ้านกุดฉิมขี่ จยย.มาถึงก่อน ก็ได้พูดคุยกับกลุ่มน้องเมย์ ขณะนั้นก็มีรถ จยย.ขับมาสมทบอีก 2 คัน น้องเมย์เห็นท่าไม่ดีจึงชวนน้องมิ้นต์และน้องเปรี้ยวหนีไปทางหลังโรงเรียนที่เป็นป่า แล้วพากันไปหลบอยู่ในป่านั้น กลุ่มเพื่อนรุ่นพี่ของน้องอาร์มก็ขับ จยย.วนหาเรียกให้ออกมา และเข้าไปพบทั้งสามนั่งหลบอยู่ในป่าจึงลากตัวออกมา น้องเค้ก (นามสมมุติ) ก็ลงมือทำร้ายทันที จากนั้นก็มีน้องมาย น้องเทรล (นามสมมุติ) และน้องอาร์มคนต้นเรื่องพากันรุมสกรัม และมีน้องกัสซัง (นามสมมุติ) เป็นคนถ่ายคลิป จนหนำใจจึงปล่อยตัวทั้งสามกลับบ้านพร้อมขู่ห้ามนำเรื่องนี้ไปเล่าให้คนในครอบครัวฟัง ไม่เช่นนั้นจะโดนหนักยิ่งกว่า

ด้านนางติ๋ม (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี แม่ของน้องเมย์และน้องมิ้นต์ เล่าว่าทีแรกไม่ได้สงสัยอะไร เพราะลูกกลับเข้าบ้านก็ไม่ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง กระทั่งวันที่ 25 พฤศจิกายน คุณครูที่โรงเรียนโทรศัพท์มาถามว่าพวกน้องไปไหน เพราะไม่เห็นมาโรงเรียนกัน ตนเองก็บอกว่าเห็นแต่งตัวไปโรงเรียนนี่ จึงเกิดความกังวลใจขึ้นมาทันที ประกอบกับตนไม่ให้ลูกนำโทรศัพท์พกไปโรงเรียนด้วย เวลาใกล้เคียงกันมีคุณครูท่านหนึ่งส่งคลิปที่ลูกตัวเองถูกรุมทำร้ายมาให้ดู รู้สึกตกใจมากตนเป็นแม่แท้ ๆ ยังไม่เคยทำกับลูกแบบนี้ อีกอย่างญาติที่อยู่จังหวัดขอนแก่นก็ส่งคลิปดังกล่าวมาให้ดูเช่นเดียวกัน และนำไปลงโพสต์ประจานเพื่อนรุ่นพี่ดังปรากฎในเฟซบุ๊กเพราะทนไม่ได้ที่เห็นหลานถูกตบตีเหมือนไม่ใช่คน

กระทั่งลูกกลับมาถึงบ้านจึงเค้นถามความจริง ทั้งหมดจึงยอมเปิดปากว่าแต่งตัวไปโรงเรียนจริงแต่ไม่กล้าเข้าเรียน เพราะเกรงจะถูกรุ่นพี่ดักทำร้ายจึงไปหลบอยู่บ้านเพื่อน สาเหตุแค่คันเร่งรถ จยย.ค้างไม่มีเจตนาไปท้าทายใครทั้งสิ้น แต่หลังมีเรื่องรุ่นพี่ยังส่งข้อความมาข่มขู่ต่าง ๆ นานา จึงเกิดความกลัว จากนั้นนางติ๋มจะพาลูกและน้องเปรี้ยวไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หลักศิลา เพื่อดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่รุมทำร้ายจนสะบักสะบอม

ต่อมา ร.ต.อ.สุเมธ ศรีหาวงษ์ ร้องสารวัตรสอบสวน สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม ได้เรียกผู้เสียหายและคู่กรณีมาพบ เพื่อส่งเอกสารไปยังสหวิชาชีพสอบปากคำหาข้อเท็จจริง โดยยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใด ๆ ผู้สื่อข่าวได้พบกับน้องอาร์มคนต้นเรื่องขณะรอเพื่อน ๆ ที่หน้าโรงพัก โดยเผยว่าตอนแรกคิดว่าน้องเมย์เร่งเครื่องเยาะเย้ยตน ตอนหลังก็มาเห็นที่โรงเรียนที่ตัวเองเรียนอยู่ จึงเรียกเพื่อนรุ่นพี่มาช่วยจริง แต่ไม่คิดว่าจะมีการกระทำที่รุนแรง พลอยทำให้ตนร่วมวงสกรัมกับเขาด้วย ถึงตอนนี้อยากจะขอโทษคู่กรณี

ด้านน้องกัสซังคนถ่ายคลิปเล่าว่า หลังเกิดเรื่องน้องมายได้ขอคลิปจากตนไป และเอาไปเผยแพร่ในกลุ่มเพื่อน ๆ ก่อนจะหลุดไปสู่สาธารณะจนเป็นเหตุบานปลายดังกล่าว ขณะที่เพื่อนรุ่นพี่ก็มีเพื่อนผู้ชายยกโขยงมาให้กำลังใจกว่า 10 คน ในเวลาเดียวกันมีกลุ่มครูโรงเรียนของผู้ก่อเหตุได้ไปหาลูกศิษย์ เพื่อเป็นโซ่ข้อกลางขอเจรจากับฝั่งผู้เสียหาย ซึ่งร้อยเวรได้อธิบายว่าเป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ แต่หากผู้ก่อเหตุจะเยียวยาช่วยเหลือผู้ถูกทำร้ายก็จะเป็นผลดีต่อรูปคดี โดยทั้งหมดจะถูกสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครพนม ได้แก่ อัยการ ทนายความ นักจิตวิทยา และตำรวจ ซึ่งผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมฟังการสอบสวนได้ และจากนั้นก็นำส่งศาลเยาวชนเพื่อพิจารณาความ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน