X

แฉพฤติกรรมโจรสาวแสบเกินพิกัด ฝีมือไม่ธรรมดาตระเวนฉกทรัพย์ขายออนไลน์

นครพนม – แฉพฤติกรรมโจรสาวแสบเกินพิกัด ฝีมือไม่ธรรมดาตระเวนฉกทรัพย์ขายออนไลน์ ล่าของกลางมูลค่ารวมกว่า 4 แสนยังล่องหน ไม่สำเหนียกหน้าระรื่นขณะทำแผน

คืบหน้าคดีนางสาวจินตนา เขียวค้า หรือแต๋น อายุ 26 ปี หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ในเคหะสถานพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม และ ต.ในเมือง,ต.หนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม จำนวนรวม 8 หลัง ฉกทรัพย์สินมีค่าไปหลายรายการ โดยเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองนครพนม แกะรอยจากโทรศัพท์ไอโฟนของผู้เสียหายและกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ พบว่าคนร้ายรายนี้เช่าห้องพักอยู่ในซอยพิชิตพัฒนา ถนนทัศนปทุม เขตเทศบาลเมืองนครพนม บริเวณหลังร้านชาบู จึงเข้าขอตรวจค้นพบของกลางที่ขโมยมาจำนวนมาก ซึ่งนางสาวจินตนาหรือแต๋นจำนนด้วยหลักฐาน รับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ตระเวนลักทรัพย์ระหว่างวันที่ 5-12 สิงหาคมฯจริง และลงมือทำเพียงคนเดียว ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 14 สิงหาคม 2564 หลังมีข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นโจรสาวรายนี้ได้ ปรากฏว่ามีผู้เสียหายมาขอดูหลักฐานและยืนยันว่าทรัพย์สินต่างๆที่ตำรวจยึดมาเป็นของพวกตน และยังมีผู้เสียหายเดินทางมาจากบ้านภูกระแต ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ชื่อนางสาวศุภนิดา แก้ววิเชียร อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 125 หมู่ 7 บ้านภูกระแต ต.นาคำ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ว่าเห็นภาพข่าวการตรวจค้นห้องเช่าของผู้ต้องหา แลเห็นกระเป๋าเงินของตนรวมอยู่ด้วย ซึ่งในกระเป๋าไม่มีเงินสดมีแต่เอกสารสำคัญ จึงมาขอดูของกลางก็พบว่าเป็นกระเป๋าเงินของตนจริง พร้อมหลักฐานเป็นใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ บัตรประชาชนตน และของบิดามารดายังอยู่ครบ

นางสาวศุภนิดากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่านางสาวแต๋นจะเป็นโจรลักทรัพย์ เพราะมีความคุ้นเคยเสมือนญาติพี่น้องคนหนึ่ง โดยช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมามีโจรงัดบ้านเรือนราษฎรพื้นที่บ้านภูกระแตและพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า 20 หลัง มีญาติของตนสูญเสียทองรูปพรรณหนัก 3 บาท ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานกันว่าเป็นพวกขี้ยา แต่หลังตำรวจจับกุมคนร้ายได้เห็นทรัพย์ของตนและคนอื่นอยู่กับผู้ต้องหารู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดมาก่อนว่านางสาวแต๋นจะเป็นโจร ทั้งๆที่ฐานะทางครอบครัวก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ตนคงไม่แจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้

ขณะเดียวกันก็มีผู้เสียหายเดินทางมา สภ.เมืองนครพนม เพื่อขอดูทรัพย์สินที่ตำรวจยึดคืนมาได้ ปรากฏว่ามีไอแพคเครื่องหนึ่งที่ผู้ต้องหานำไปเปลี่ยนหน้าจอ แล้วใส่ข้อมูลของตัวเองแทน ส่วนโน๊ตบุ๊คราคาประมาณ 14,000 บาทหายไป ทราบว่าผู้ต้องหาหลังได้ทรัพย์จากการขโมยแล้ว ก็ลงประกาศขายในเฟซบุ๊คกลุ่มสินค้ามือสองในราคาถูก ซึ่งมีผู้สนใจซื้อไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ต่างกับรายอื่นที่สูญเสียแหวนเพชรราคาเฉียดแสน และกล้องถ่ายรูปที่ผู้ต้องหาสารภาพว่าขายให้คนอื่นไปแล้วเช่นกัน

นอกจากนี้จากการตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่ามีทองคำรูปพรรณหลายรายการที่ผู้ต้องหานำไปขาย มูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท หลังจากนั้นก็นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพร้านทองแห่งหนึ่ง อยู่ถนนอภิบาลบัญชา เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยเป็นร้านที่ผู้ต้องหานำทองที่ขโมยมาขอเปลี่ยนลายใหม่ ระหว่างทำแผนผู้ต้องหาไม่มีอาการสะทกสะท้านแต่อย่างใด แถมส่งยิ้มให้เจ้าของร้านทองอีกต่างหาก

โดยเบื้องต้นชุดสืบสวนทราบคร่าวๆว่าผู้ต้องหาติดการพนันออนไลน์ และตระเวนลักทรัพย์มานานจนมีความชำนาญ ทั้งนี้นางสาวแต๋นเล่าว่าก่อนจะเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สิน จะสังเกตที่กุญแจรั้วและถ้าหากมีกุญแจคล้องที่ประตูบ้านด้วย จึงมั่นใจได้เลยว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ ถ้าหากมีคนอยู่บ้านข้างๆและใช้เทคนิคตะโกนเรียกคนในบ้าน แล้วใช้ปลายมีดพร้างัดขอบประตูรั้ว ซึ่งออกแบบมาสวยงามอย่างเดียว แต่ไม่มีความแข็งแรง จึงง่ายต่อการงัดแงะ ยิ่งเป็นห้องกระจกจะงัดง่ายกว่าประตูไม้ หากบ้านหลังไหนติดกล้องวงจรปิดก็จะหักกล้องใส่กระเป๋าติดมือกลับมาด้วย เพื่อเป็นการทำลายหลักฐาน และไม่ให้เจ้าของบ้านเห็นภาพตนเองอยู่ในเมมโมรี่ ตอนตำรวจเข้าตรวจค้นจึงพบกล้องวงจรปิดรวมอยู่เป็นของกลางด้วย

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน