X

ชาวสวนสับปะรดนครพนมโอด ไร้พ่อค้ารับซื้อลูกค้าหายไปกับโควิด

นครพนม – ชาวสวนสับปะรดนครพนมโอด ไร้พ่อค้ารับซื้อลูกค้าหายไปกับโควิด วอนหน่วยงานรัฐเร่งหาตลาดระบายสินค้าช่วยเกษตรกร

วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนมได้ลงพื้นที่ไปยัง อ.ท่าอุเทน ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) บริเวณบ้านธาตุ หมู่ 13 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แหล่งจำหน่ายสับปะรดหวานที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด เพื่อสำรวจตลาดสับปะรดหลังพบว่ามีราคาตกต่ำ ไม่สามารถส่งผลผลิตออกสู่ท้องตลาดได้ จากการลงพื้นที่บริเวณดังกล่าวพบพ่อค้าแม่ค้าชาวสวนสับปะรดประมาณกว่า 20 ราย นำสับปะรดหวานมาวางจำหน่ายตามซุ้มเพิงต่าง ๆ บริเวณสองฟากฝั่งข้างถนนเป็นจำนวนมาก

โดยนางปรีญา มานะโพน อายุ 55 ปี ชาวสวนสับปะรดบ้านธาตุ กล่าวว่า ตนทำสวนปลูกสับปะรดจำนวนกว่า 5 ไร่ หรือประมาณจำนวน 22,500 ต้น โดยทำเป็นอาชีพมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมา 1 ไร่สามารถขายได้ประมาณ 50,000-70,000 บาท เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรปีละหลาย 10 ล้านบาท พอมาเจอพิษโควิดระลอกใหม่ ผู้คนไม่เดินทางออกจากบ้าน ด่านการค้าชายแดนถูกปิด ไม่มีพ่อค้ามารับซื้อ ทำให้ยอดขายสับปะรดลดลง ราคาตกต่ำ ซึ่งในแต่ละปีขายในกิโลกรัมละ 20-25 บาท มีโรงงานรับซื้อให้กิโลกรัมละ 7-10 บาท แต่ปีนี้เจอพิษโควิดระบาด ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวสวนต้องลดราคาลงเหลือกิโลกรัมละ 10-15 บาท โรงงานรับซื้อให้เพียงกิโลกรัมละ 4-5 บาท จากปกติขายได้วันละ 2,000-4,000 บาท เหลือรายได้เพียงวันละ 400-500 บาท เดือดร้อนหนักขายไม่ค่อยได้ ลงทุนไปก็ไม่ได้กำไรคืนมา เงินที่ได้วันละ 400-500 บาท นำมาเป็นใช้จ่ายในครัวเรือนแทบจะไม่พอ ยอมรับว่าขาดทุนแต่ก็ต้องทนขายกันต่อไป ดีกว่าปล่อยผลผลิตเน่าทิ้งไปเฉย ๆ ซึ่งจากการนั่งพูดคุยกับนางปรีญาอยู่หน้าร้านกว่าครึ่งชั่วโมง พบว่าไม่มีลูกค้าจอดรถแวะซื้อสับปะรดจริง

นางปรีญา ยังกล่าวต่ออีกว่า อยากให้หน่วยงานรัฐออกมาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะให้ช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง หรืออย่างน้อยช่วยหาช่องทางตลาดให้เร็วที่สุด เนื่องจากสับปะรดออกผลผลิตทุกวัน ต้องเร่งระบายผลผลิตออกสู่ท้องตลาดให้เร็วที่สุด ก่อนผลผลิตจะเน่าเสียและขาดทุนไปมากกว่านี้

สับปะรด อ.ท่าอุเทน ได้ชื่อว่าเป็นสับปะรดหวานที่สุดในประเทศไทย พันธุ์ปัตตาเวียสายน้ำผึ้ง ซึ่งนําต้นพันธุ์มาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้นตระกูลที่มีรสเปรี้ยว เมื่อมาเจอสภาพอากาศและดินในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน และ อ.โพนสวรรค์ ทำให้สับปะรดกลายพันธุ์มีรสหวานฉ่ำ และได้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (พืช GI) ของจังหวัดนครพนม ถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและมีคุณภาพอีกหนึ่งชนิด มีรสชาติหวานฉ่ำ กลิ่นหอม ไม่กัดลิ้น ตาตื้น ปัจจุบันมีพื้นที่เหมาะสมและทำการปลูกสับปะรดมากกว่า 7,000 ไร่ ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน และ อ.โพนสวรรค์ ออกผลผลิตตลอดทั้งปี ช่วงฤดูหนาวสับปะรดจะมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว แต่ช่วงฤดูร้อนจะมีกลิ่นหอมรสชาติหวานฉ่ำดั่งน้ำผึ้งเดือนห้า หากใครจะอุดหนุนซื้อสับปะรดช่วยเกษตรกรสามารถเดินทางไปแวะซื้อกันได้ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) บริเวณบ้านธาตุ หมู่ 13 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หรือนางปรีญา มานะโพน แม่ค้าชาวสวนสับปะรด อ.ท่าอุเทน เบอร์โทรศัพท์ 061-229-1366

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน