นครพนม – บริเวณห้องประชุมแสงสิงห์แก้ว ชั้น 3 ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ พันตำรวจเอก ธีทัต อิ่มทั่ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงความพร้อมการเดิน-วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2018 ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ณ สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม – คำม่วน)
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว กล่าวว่า จังหวัดนครพนมจัดเดิน-วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วน มาราธอน 2018 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนและประชาชนทุกเพศทุกวัย มีความตื่นตัวในการเล่นกีฬา ออกกำลังกายและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศผ่านทางสะพานมิตรภาพ 3 ที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยจังหวัดมีแผนรองรับนักกีฬาที่จะเข้ามาแข่งขันทั้งด้านการอำนวยความสะดวก มีการจัดรถรับส่งจากสนามบินนครพนม จำนวน 8 เที่ยว ตามเวลาเที่ยวบิน รถบัส 6 คัน รถตู้ 9 คัน รับส่งถึงจุดแข่งขันทั้งไปและกลับ วันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2561 การดูแลความปลอดภัยทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศเป็นอย่างดี บริการน้ำดื่มตลอดเส้นทางการแข่งขันจำนวน 22 จุด จัดรถพยาบาลของโรงพยาบาลนครพนมและอาสากู้ภัยไว้บริการตามจุดต่างๆ เป็นระยะไว้คอยบริการรวมถึงคัดกรองผู้ที่มีภาวะเสี่ยงก่อนการแข่งขันด้วย ซึ่งการจัดการแข่งขันครั้งนี้จังหวัดได้เตรียมพร้อมสร้างมาตรฐานให้ได้ระดับสากลในอนาคตอีกด้วย
ด้านนายสยาม ศิริมงคล เปิดเผยว่า จังหวัดนครพนมทั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันจัดเดิน-วิ่งข้ามโขง นครพนม-คำม่วน 2018 โดยเตรียมความพร้อมทุกฝ่ายต้อนรับนักวิ่งและนักท่องเที่ยวทุกคนทั่วโลก เพื่อให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยโดยจะดูแลให้ดีที่สุดตลอดการแข่งขัน ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครเข้ามาวิ่งเป็นจำนวน 6,734 คน แข่งขันใน 4 ประเภท คือ ประเภทมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ประเภทฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 20.10 กิโลเมตร ประเภทมินิมาราธอน ระยะทาง 10.50 กิโลเมตร ประเภทเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ 3 กิโลเมตร โดยมีจุดสตาร์ทและสิ้นสุดที่ด่านสะพานมิตรภาพ 3 ซึ่งไฮไลท์ของการวิ่งคือนักกีฬาจะต้องวิ่งข้ามสะพานมิตรภาพ 3 ไปฝั่งลาวแล้วย้อนกลับมาฝั่งไทย ซึ่งนักวิ่งจะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขงพร้อมเก็บความประทับใจกลับไป และขอขอบคุณแขวงคำม่วน สปป.ลาว ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และขอเชิญชวนทุกคนถ่ายภาพส่งเข้าประกวดได้ทางอีเมล์ prdnakhonphnom.com ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท รางวัลที่ 2 จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท รางวัลที่ 3 จะได้รับเงินรางวัล 2,000 บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัลๆละ 1,000 บาท ยืนยันว่าจังหวัดนครพนมพร้อมเปิดประตูบ้านต้อนรับนักกีฬาทุกเพศทุกวัย สิ่งที่นักวิ่งจะได้ติดตัวกลับไปคือความประทับใจ
