X

เด็ก 7 ขวบเหยื่ออารมณ์ร้าย ตอบชัดแม่กับพ่อเลี้ยงรุมสกรัม

นครพนม – เด็ก 7 ขวบเหยื่ออารมณ์ร้าย ตอบชัดแม่กับพ่อเลี้ยงรุมสกรัม งัด พรบ.คุ้มครองเด็ก ดำเนินคดี

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี นายธวัฒชัย แท่นทอง หรือบ๊อบบี้ อายุ 38 ปี  อาชีพบริการถ่ายรูปให้กับนักท่องเที่ยวที่มากราบนมัสการองค์พระธาตุพนม ผู้เป็นพ่อของน้องมีโอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ  ร.ต.อ.ชยภัทร โพธิจักร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อดำเนินคดีกับอดีตภรรยาที่เลิกรากันไปแล้วเมื่อ 4 -5 ปีก่อน คือ นางสาวสุดารัตน์ มันทะ หรือหลิน อายุ 27 ปี  ชาวชุมชนบ้านดอนกลาง หมู่ 5 เขตเทศบาลตำบลธาตุพนม ที่มีอาชีพขายลอตเตอรี่บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้องมีโอลูกชายแท้ๆ ที่เกิดกับตน โดยใช้ของแข็งและไม้แขวนผ้าเฆี่ยนตีและเตะ จนได้รับบาดเจ็บมีร่องรอยฟกช้ำทั้งตัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทั่งญาติฝ่ายอดีตสามีไปพบเด็กนั่งอยู่หน้าวัดพระธาตุพนมฯ จึงนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม โดยบอกกับนายบ๊อบบี้ว่าถูกแม่และพ่อเลี้ยงทุบตี โดยทาง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ฯ พร้อมด้วยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม ได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือรับตัวเด็กมาอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นเด็กอาการปลอดภัย แต่ยังอยู่ในภาวะเครียด หวาดระแวง

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ มาประกอบคดี  และได้ตั้งข้อกล่าวหากับ น.ส.สุดารัตน์หรือหลินผู้เป็นแม่แท้ๆ  คือ 1.หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใด แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่นโดยกระทำต่อเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ  2.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ  ซึ่งจะได้มีการประสานทีมสหวิชาชีพเข้ามาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน

ล่าสุดหลังจากน้องมีโออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม ก็เริ่มมีอาการสดใสร่าเริงขึ้น สามารถเข้ากับเพื่อนๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา จะไม่ถามถึงเหตุการณ์ที่ไปตอกย้ำความรู้สึกของเด็ก แต่จะมีบางครั้งที่เพื่อนๆถามว่ารอยเขียวช้ำเกิดจากอะไร น้องมีโอจะตอบทันทีว่าถูกแม่กับพ่อเลี้ยงกระทำ

ด้าน นางสาวแสงดาว อารีย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม(พมจ.ฯ) ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “สำหรับเคสของน้อง 7 ขวบที่ถูกแม่และพ่อเลี้ยงทำร้าย ทางสำนักงานพัฒนาสังคมฯก็ได้รับการแจ้งจากนักจิตวิทยาศูนย์พึ่งได้ oscc (ศูนย์บริการช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง (One Stop Crisis Center, OSCC) หรือ “ศูนย์พึ่งได้”) ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งเราก็ร่วมกับทางบ้านพักเด็กและครอบครัวฯ รีบลงไปประสานงาน ดูข้อเท็จจริงว่าน้องถูกกระทำอะไรยังไงบ้าง ตอนที่ลงพื้นที่ก็ได้มีการพูดคุยกับทีมสหวิชาชีพ มีการประเมินการว่าน้องถูกทำร้ายจริง เพราะตามร่างกายก็มีร่องรอยการถูกกระทำชัดเจน ซึ่งเราก็ได้พูดคุยกันและประเมินกันแล้วก็ได้นำตัวน้องเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กและครอบครัวตั้งแต่วันที่ลงพื้นที่ ซึ่งหลังจากที่ได้นำตัวน้องมาที่บ้านพักเด็กและครอบครัว เมื่อวานนี้ (9 กพ.)ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมน้อง น้องก็มีอาการร่าเริงเป็นเด็กที่ร่าเริงมาก ก็เลยได้สอบถามเพียงเล็กน้อยเพื่อที่จะไม่ให้ไปกระทบจิตใจของน้องมาก ซึ่งตัวน้องเองก็ยืนยันว่าถูกทำร้ายทุบตีโดยแม่และพ่อเลี้ยงตามที่ข่าวออกไป ส่วนน้องเองก็มีสภาพจิตใจที่ดี สำหรับในตัวของน้องช่วงนี้ก็ได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพแล้วนั้น ก็จะมีในเรื่องของการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการพาน้องไปตรวจร่างกายว่านอกจากที่เราเห็นรอยด้านนอกแล้วยังมีการกระทบกระเทือนด้านในร่างกายอีกหรือไม่ แต่จากการที่ดูสภาพทั่วไปก็อาจจะไม่ถึงขนาดนั้น ในส่วนของด้านกฎหมายก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องของคดีความต่างๆ การสอบข้อเท็จจริงของการกระทำ หลังจากในเรื่องของคดีความทางด้านกฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะมีการประเมินว่าเด็กสามารถที่จะคืนสู่ครอบครัวได้ไหม ก็จะมีการประชุมร่วมกับทางสหวิชาชีพ ถ้าหากต้องคืนสู่ครอบครัวเราก็จะไปประเมินครอบครัวว่ามีความพร้อมหรือไม่ ถ้าหากเด็กไม่สามารถที่จะไปอยู่กับแม่ได้ ก็จะต้องหาผู้ที่จะมาดูแลสวัสดิภาพของเด็กต่อไปว่าใครจะดูแลได้ อาจจะเป็นฝ่ายพ่อแท้ๆ หรือจะเป็นคุณตาของเด็ก เพราะว่าแต่เดิมเด็กอยู่กับคุณตามาก่อน ก็จะได้ไปดูในส่วนของความเป็นอยู่ของครอบครัวว่าพร้อมไหม แล้วก็จะมีการทำบันทึกข้อตกลงกันก่อนว่าเด็กถ้าคืนสู่ครอบครัวแล้วน้องจะได้รับความคุ้มครองสวัสดิภาพหรือว่าจะไม่เข้าสู่เหตุการณ์ถูกกระทำอีก

ส่วนในเรื่องของการกระทำความรุนแรงต่อเด็กและครอบครัว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ทางเราก็อยากจะให้ทางครอบครัวผู้ ปกครอง ญาติ หรือเครือข่าย หรือคนในชุมชนช่วยกันดูแล หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ให้แจ้งมาที่กระทรวงพัฒนาสังคม เพราะว่าเรามีศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม 1300 ซึ่งตอนนี้ก็ได้ถ่ายโอนมาที่จังหวัดฯเรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านสามารถที่จะโทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะว่าทางหน่วยงานในพื้นที่ก็อยู่เวรคอยรับโทรศัพท์แจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง หากพบเห็นหรือมีข้อสงสัยอะไรต่างๆ ก็ขอให้ติดต่อมาทางเราจะส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงไปช่วยทันที เรื่องความรุนแรงเราไม่ควรนิ่งเฉย ควรที่จะให้ความดูแลคุ้มครองปกป้องเด็กเพื่อที่จะให้เขาได้รับการดูแลคุ้มครองตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก” นางสาวแสงดาว อารีย์ พมจ.นครพนม กล่าว

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน