นครพนม – ลูกหนี้เจ๊ปากแดงแฉเพิ่ม กู้ 6 หมื่น จ่ายดอก 3.6 แสน ผบก.ฯ นครพนม เร่งขอหมายจับเจ้าแม่เงินด่วนโหด เด้งปลัดตงฉินเหตุขวางทางรับส่วย
จากกรณี เจ๊ปากแดงเจ้าแม่เงินกู้โหด มีออฟฟิคอยู่ที่ อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สั่งสามีชื่อ”ดำ คลองตัน” พาลูกน้องรวมทั้งหมด 5 คน ยกไปรุมกระทืบนายสกุล ศรีรักษา อายุ 49 ปี ส.อบต.บ้านคำนกกกหมู่ 1 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม บริเวณที่จอดรถงานศพบ้านดอนสะฝาง ต.โพนทอง อ.บ้านแพง ก่อนจะชักอาวุธปืนพกสั้นจากเอวตบใบหน้าด้านซ้ายจนมีแผลฉีกขาดเย็บ 3 เข็ม ยังไม่หนำใจรุมสกรัมจนสะบักสะบอม ก่อนจะพากันเดินขึ้นรถยนต์ขับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ต่อมาก็มีบรรดาลูกหนี้ของเจ๊ปากแดงออกมาแฉพฤติกรรมทวงหนี้ที่สุดโหดเพิ่มขึ้น คือนางน้ำ(นามสมมติ) อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง และ นางน้อย(นามสมมติ) อายุ 47 ปี ชาวบ้าน ต.โพนทอง อ.บ้านแพง โดยทั้งคู่ไปกู้ยืมจากเจ๊ปากแดงพร้อมกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งนางน้ำได้กู้เงิน 20,000 บาท ส่งดอกเบี้ยทุกวันๆละ 400 บาท กระทั่งถึงเดือนมีนาคม 2563 เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด จึงขอระงับดอกเบี้ยไว้ชั่วคราว แต่เจ๊ปากแดงไม่ยอมบังคับให้จ่ายดอกเบี้ยตามปกติ ซึ่งตนก็ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนไปส่งดอก เพราะรวมๆ กันแล้วที่ส่งมาปีเศษเป็นเงิน 120,000 บาท
ด้านนางน้อยเผยว่าตนได้กู้มา 60,000 บาท ส่งดอกเบี้ยวันละ 1,200 บาท ลักษณะก็เหมือนกับทุกคนที่ไม่สามารถส่งดอกเบี้ยได้เพราะพิษโควิด จึงขอเจ๊ปากแดงหยุดดอกชั่วคราวแต่ก็ไม่เป็นผล ตนจึงไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านแพง มี นายมนตรี จารุธำรง อดีตปลัดอาวุโสอำเภอบ้านแพง ได้เชิญเจ๊ปากแดงมาไกล่เกลี่ยกันที่ที่ว่าการอำเภอบ้านแพง แต่ปรากฏว่าเจ๊ปากแดงไม่ยอมมาเจรจา ซึ่งรวมยอดเงินที่ตนส่งดอกเบี้ยให้กับเจ๊ปากแดงเวลาปีเศษเป็นเงิน 360,000 บาท
ต่อมาฝ่ายปกครองได้จับลูกน้องเจ๊ปากแดงมาสอบสวน ในข้อหาทวงถามหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด แต่ลูกน้องกลับอ้างว่าเจ๊ได้เคลียร์รายเดือนให้กับตำรวจรายหนึ่งแล้ว แต่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองไม่สนส่งตัวดำเนินพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง ดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ที่รับส่วย พยายามวิ่งเต้นจนเตะโด่งปลัดอาวุโสมือปราบคอรัปชั่นเด้งไปอยู่อำเภอนาทม จ.นครพนม
ส่วนด้านคดี พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยรายละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่รู้ตัวนายทุนเงินกู้ทั้ง 2 รายแล้ว มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ โดยทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน จากการสอบสวนในเบื้องต้นนั้นทราบว่าเป็นแก๊งปล่อยเงินกู้จริง ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และจะมีการดำเนินการออกหมายจับ ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายใน 1 – 2 วันนี้ หากออกหมายจับแล้วก็จะสามารถจับกุมตัวทั้งคู่ได้ภายในเวลาไม่ช้า เนื่องจากว่าคดีนี้มีการร่วมกันทำร้ายร่างกายทั้งหมด 5 คนตามที่ผู้เสียหายได้ยืนยันเบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อกล่าวหาเอาไว้ 4 ข้อกล่าวหาคือ 1.ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 2.ร่วมกันทวงหนี้โดยการข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น 3.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ และ 4.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน,พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วน นอกจากนั้นจะได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ปล่อยเงินกู้หากเป็นความผิดมูลฐานก็จะดำเนินการในข้อหาฟอกเงินเพิ่มอีกด้วย
“ในส่วนของคำให้การที่ผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เจ๊ปากแดงอ้างว่าจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับเจ้าหน้าที่นั้น อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้นแน่นอน” ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธนชาติฯ ยังฝากถึงผู้ได้รับความเสียหายจากนายทุนเงินกู้ว่าสามารถมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน หรือสามารถเข้ามาพบกับผู้บังคับการฯได้ โดยจะมีทีมงานดูแลเกี่ยวกับเรื่องของการคิดดอกเบี้ยเกินอัตราไว้อยู่แล้ว ขอให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเดินทางเข้ามาร้องทุกข์ได้เลย ทางเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากเป็นบุคคลที่ได้รับความเดือดร้อนจากเงินกู้ในกรณีของเจ๊ปากแดง ซึ่งผู้เสียหายก็ได้มีการชี้รูปยืนยันชัดเจน อีกทั้งยังมีหลักฐานจากผู้ที่ได้ไปกู้เงินกับเจ๊ปากแดงรายอื่นๆ เพิ่มเติมนั้นทำให้เพียงพอต่อการเอาผิดอย่างแน่นอน
