X

ผญบ.ฯยันหนุ่มวัย 24 ปีลูกบ้าน ลอบเข้าไทยผิดกฎหมาย ตรวจไม่พบเชื้อโควิด

นครพนม – “นครพนมอย่าตื่นตระหนก!! “  ผญบ.ฯยันหนุ่มวัย 24 ปีลูกบ้าน ลอบเข้าไทยผิดกฎหมาย ตรวจไม่พบเชื้อโควิด สสจ.นครพนมย้ำประเมินสถานการณ์เข้มข้นต่อเนื่อง

จากกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ในสื่อโซเซียล ว่า จังหวัดนครพนมพบชายต้องสงสัยวัย 24 ปี ทำงานอยู่จังหวัดเมยวดี ประเทศเมียนมา แอบลักลอบเข้าเมืองในช่องทางธรรมชาติ โดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองฯ จากนั้นได้โดยสารรถประจำทางมาลงที่บ้านเกิด เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563 ก่อนจะมีอาการไอและมีน้ำมูก อาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVIC-19) จึงทำให้ประชาชาชนในจังหวัดนครพนมตื่นตระหนกไปตามๆกัน

ล่าสุด วันที่ 10 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านบูรพา หมู่ 10 ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นบ้านที่ชายต้องสงสัยพำนักอยู่ พบกับนางแสงจันทร์ เชียงชุม ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.ฯ) วางโต๊ะกางร่มตั้งเป็นจุดคัดกรองใกล้กับบ้านของชายหนุ่ม โดยห้ามบุคคลเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดบริเวณดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 14 วัน

นางแสงจันทร์ ผญบ.ฯ เผยว่าชายต้องสงสัยรายนี้ทราบภายหลังว่าไปทำงานอยู่ในประเทศเมียนก่อนที่จะมีข่าวโรคโควิดระบาดใหญ่ โดยทำหน้าที่เป็นพนักงานคอมพิวเตอร์ หลังออกเวรก็จะเข้าห้องพักที่อยู่ชั้นบน โดยไม่ได้ไปสัมผัสใกล้ชิดเหมือนสาวไทยที่ติดเชื้ออยู่ในขณะนี้

ต่อมาหลังมีข่าวการแพร่ระบาดโรคโควิดเป็นวงกว้างในประเทศเมียนมา จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดยผ่านช่องทางธรรมชาติทางเรือ ด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แล้วเดินทางด้วยรถโดยสารมาลงที่จังหวัดมุกดาหาร และต่อรถตู้โดยสารประจำทางสายมุกดาหาร-นครพนม มายังบ้านบูรพา ต.ดอนนางหงส์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นชายดังกล่าวปกปิดข้อมูลอ้างว่ากลับจากทำงานที่จังหวัดเชียงใหม่ ตนจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามที่เขาบอกกล่าว ภายหลังคุณยายของชายหนุ่มมากระซิบบอกกับตนว่า เขาไม่ได้ทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ไปทำงานที่ประเทศเมียนมาหลายปีแล้ว ตนก็รีบรายงานผู้บังคับบัญชาใหม่อีกครั้ง จากนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตลอดจนสาธารณสุขจังหวัดฯ เข้ามานำตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด พบว่ามีผลเป็นลบ แต่ต้องถูกกักตัวสังเกตอาการอยู่ในโรงพยาบาลต่อไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนบุคคลในครอบครัวอีก 2 คน คือคุณยายกับลูกสาว ได้มีคำสั่งจากสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ให้กักตัวอยู่ในที่พักอาศัย โดยมี อสม. และผู้นำชุมชน เฝ้าระวังให้ปฏิบัติตามาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

นางแสงจันทร์ เชียงชุม ผู้ใหญ่บ้านยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ชายหนุ่มที่เดินทางมาจากประเทศเมียนมา ด้วยการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ไม่มีอาการป่วยตามที่เป็นข่าวในสื่อโซเซียลแต่อย่างใด แต่ยังต้องนำตัวรวมถึงบุคคลใกล้ชิดและผู้ต้องสงสัย ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อฯ ให้เข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อสังเกตอาการตามาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข(State Quarantine) และต้องทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVIC-19) ซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลต่อไป

ภายหลังที่จังหวัดนครพนมตกเป็นข่าวดังในสื่อโซเซียล ล่าสุดนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “กรณีมีคนอำเภอธาตุพนม แอบลักลอบเดินทางมาจากจังหวัดเมยวดี เมียนมาร์ ผ่านทางช่องทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยไม่ผ่านการกักตัวเข้ามาในพื้นที่อำเภอธาตุพนม ทางจังหวัดจึงจำเป็นต้องรายงานหน่วยเหนือเพื่อชี้แจงรายละเอียดการเตรียมการรับสถานการณ์ แต่กลับมีเจ้าหน้าที่แอบลักลอบถ่ายรายงานของทางราชการส่งให้กับสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ สร้างความตระหนกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนมนั้น

ผลตรวจยืนยันออกมาแล้วนะครับว่า ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 ในพื้นที่จังหวัดนครพนมแต่อย่างใด ซึ่งจังหวัดจะได้พิจารณาดำเนินการทั้งทางวินัย และระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นต้นตอการเผยแพร่ข้อมูลสร้างความตระหนกให้กับประชาชนต่อไปครับ”

ทางด้าน นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ)  เปิดเผยว่า จากกรณีพบผู้ป่วยสงสัยในจังหวัดนครพนม ทำให้เกิดความวิตกกังวลในกลุ่มประชาชนทั่วไป ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้ป่วยสงสัยรายดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 21.50 น. ผลปรากฎไม่พบเชื้อและได้เข้ากักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และ สสจ.นครพนม ขอแจ้งให้ประชาชนทราบว่า อย่าตื่นตระหนก แต่อย่าประมาท และขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ด้วยการ รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ปฏิบัติให้ครบ จะปลอดภัยจาก COVID-19

นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ กล่าวต่อว่า สสจ.นครพนม ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยได้มีการประชุมเปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดนครพนม และประชุมทางไกล (VDO Conference) กับผู้บริหารโรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ ทั้ง 12 อำเภอ เจ้าหน้าที่ด่านสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) และโรงพยาบาลค่ายพระยอดเมืองขวาง เพื่อกำชับติดตามการเตรียมความพร้อมโรงพยาบาล เวชภัณฑ์ แลป และเจ้าหน้าที่ทำการรักษา เฝ้าระวังโรคปอดบวม และโรคทางเดินหายใจ ตามเกณฑ์ควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด การมอบหมายและติดตามให้ อสม.เคาะประตูบ้านแจ้งข่าวประชาชน การคัดกรองกลุ่มเสี่ยง การสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน การเปิด Call Center ให้กลุ่มเสี่ยงรายงานตัว รวมถึงการเตรียมความพร้อมของผู้รับผิดชอบในพื้นที่ชายแดน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครพนม,ท่าอุเทน,บ้านแพง และอำเภอธาตุพนม ในการเฝ้าระวังโรคบริเวณชายแดน

“ได้แจ้งให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่ง และสาธารณสุขอำเภอทุกอำเภอ แจ้งเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่ให้ดำเนินการติดตามแรงงานไทยหรือต่างชาติ ที่เดินทางมาจากประเทศเมียนมาในพื้นที่ ตรวจสอบหนังสือรับรองการกักตัว 14 วันในประเทศไทย หากพบเห็นผู้เดินทางมาจากประเทศเมียนมาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ทราบ และนำเข้าสู่กระบวนการกักตัวต่อไป รวมถึงให้โรงพยาบาลทุกแห่งดำเนินการคลินิกโรคทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ในโรงพยาบาลอย่างเข้มข้น เฝ้าระวังผู้ป่วยปอดบวมไม่ทราบสาเหตุ ให้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทุกราย และให้ปฏิบัติตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ สสจ.นครพนม กล่าว

ในส่วนของมาตการในการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดนครพนม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ได้จัดทำร่างประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม เสนอผู้บริหารระดับสูงลงนาม ให้ผู้ที่เดินทางมาจากเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป

โดยผู้ร่วมงาน Farm Festival on the Hill 2020 วันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ณ สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย,ผู้เข้าใช้บริการร้าน Kingsway host & Karaoke จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563,ผู้เข้าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ โรงที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563,ผู้เข้าใช้บริการร้านซาบูซิ เซ็นทรัล เฟสติวัล จังหวัดเชียงใหม่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563,และผู้เข้าใช้บริการร้านวัตสัน เซ็นทรัล จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 มารายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ที่ตนพักอาศัยโดยทันที และให้เฝ้าสังเกตอาการตนเอง (Self-Observation) เป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งให้ปฏิบัติตัวตามแนวทาง “อยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์กัน หมั่นล้างมือ ถือหลักสะอาด ปราศจากแออัด เคร่งครัดไทยชนะ” อย่างเคร่งครัด หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลั่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หายใจลำบาก ให้รีบแพทย์ แจ้ง อสม. หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านทันที

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน