X

ยกฟ้อง ”เพจน๊อต ข่าวสด NEWS” หลัง 3 ครูโรงเรียนดัง ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท

นครพนม – วันที่ 7 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนมรายงาน ว่า เวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดนครพนมนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ 1429/2563 จากกรณี 1.นายทศพร สวนแก้ว อดีตข้าราชการครูโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย 2.นางจันทร์จิรา แก่นจันทร์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย และ 3.นายอนิรุธ แก่นจันทร์ ข้าราชการครูโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย ยื่นฟ้องนายชนะ วสุรักคะ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวสดประจำจังหวัดนครพนม และแอดมินเพจน๊อต ข่าวสด NEWS เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา

โดยนายณพล ใบเงิน ทนายความชื่อดังฝ่ายจำเลย ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษา และแจ้งผลคำพิพากษาให้จำเลยทราบ ถึงคำพิพากษามีใจความ ว่า ศาลฯได้พิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทก์แล้ว เห็นว่าการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง อันจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ มาตรา 328 นั้น จะต้องได้ความว่าการใส่ความดังกล่าว ได้ระบุถึงตัวบุคคลผู้ถูกใส่ความ เป็นการยืนยันได้แน่นอนว่าเป็นใคร หรือหากไม่ระบุถึงผู้ถูกใส่ความโดยตรง การใส่ความนั้นก็ต้องได้ความว่า หมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ และความผิดฐานหมิ่นประมาทที่ได้กระทำโดยการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ออนไลน์ หรือสื่อสังคมออนไลน์ หรือเฟซบุ๊กนั้น ต้องพิเคราะห์จากข้อความที่ลงพิมพ์ หรือเผยแพร่ในเฟซบุ๊กตามคำฟ้องเท่านั้น ว่า ผู้อ่านสามารถทราบได้หรือไม่ว่า บุคคลที่ถูกกล่าวอ้างตามข้อความที่เผยแพร่นั้นเป็นผู้ใด

ข้อความที่ลงในหนังสือพิมพ์ข่าวสดออนไลน์ ฉบับลงวันที่ 11 มีนาคม 2563 และวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ที่โจทก์ทั้งสามอ้างมานั้น ไม่มีข้อความในที่ใดระบุชื่อ และนามสกุลของโจทก์ทั้งสาม ข้อความในหนังสือพิมพ์ที่ระบุว่า “ครูหื่นโยงพัวพันทุจริตสร้างห้องวิทยาศาสตร์และสนามกีฬากว่า 20 ล้าน แซทไลน์หาลูกศิษย์หญิงเชิงชู้สาว และกระทำอนาจารกว่า 7 คน”

“ครูชายรายดังกล่าวอาจมีเอี่ยวทุจริตเงินโรงเรียนร่วมกับรอง ผอ.สาวรายหนึ่ง และครูที่เป็นสามีของรอง ผอ.ทุจริตงบ 10 ล้านบาท สร้างห้องวิทยาศาสตร์และงบสร้างโรงยิม และสนามฟุตบอลชื่อดัง 10 ล้านบาท รวม 20 ล้านบาท” และ “ครู ซ.มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งด้วย ทั้งนี้สามีของเพื่อนร่วมงานรายนี้ก็ไปแย่งเขามา และแอบมีสัมพันธ์กับครู ซ. จนกลายเป็นรักสามเศร้า 1 หญิง 2 ชาย “ ก็ไม่ได้ระบุชื่อโดยชัดแจ้งว่าเป็นผู้ใด ทั้งชื่อที่ระบุเป็นเพียงอักษรย่อเท่านั้น และมิได้ระบุนามสกุลอย่างใด สถานที่ทำงานที่ระบุว่า โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งจังหวัดนครพนม ก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นที่ใด บุคคลทั่วไปที่อ่านข้อความไม่อาจทราบ หรือเข้าใจได้ว่า คำว่าครูหื่น,ผอ.สาวรายหนึ่ง,ครูที่เป็นสามีของรอง ผอ. และอักษรย่อ ซ. หมายความถึงผู้ใด และเป็นเรื่องจริงตามที่ลงพิมพ์หรือไม่ หากต้องการรู้ความหมายว่าเป็นผู้ใด ก็ต้องไปสืบเสาะค้นหาเพิ่มเติม ทั้งไม่แน่ว่าหลังจากสืบเสาะค้นหาเพิ่มเติมแล้ว จะเป็นโจทก์ทั้งสามจริงหรือไม่ และหากหลังจากสืบเสาะค้นหาแล้วจึงทราบว่า หมายความถึงโจทก์ทั้งสาม ก็มิใช่ทราบจากข้อความที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊ก แต่ทราบความหมายจากการที่บุคคลนั้น ได้สืบเสาะค้นหาข้อเท็จจริงมาเองในภายหลัง  หาได้พบว่าหมายความถึงโจทก์ทั้งสาม โดยอาศัยข้อความจากหน้าหนังสือพิมพ์ออนไลน์ท้ายฟ้องไม่ ลำพังเพียงข้อความตามที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ออนไลน์ ตามสำเนาเอกสารท้ายฟ้องดังกล่าว ยังไม่เป็นข้อความที่หมิ่นประมาทโจทก์ทั้งสาม

เมื่อข้อความดังกล่าวไม่เป็นข้อความที่หมิ่นประมาท การที่จำเลยแชร์ข้อความจึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วย คดีของโจทก์ทั้งสามไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคม 2563 มีผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครพนม ว่า มีครูชายคนหนึ่งมีพฤติกรรมในเชิงชู้สาวกับลูกศิษย์  อีกทั้งยังส่งภาพที่ไม่เหมาะสมในเชิงสวิงกิ้งให้นักเรียนหญิงดู  หลังผู้สื่อข่าวรับเรื่องร้องทุกข์ก็ทราบเพิ่มเติมว่า มีระดับรอง ผอ.กับสามีมีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับงบก่อสร้างสนามฟุตบอลฯลฯ ร่วมกับครูหื่นรายนี้ด้วย

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน