X

ชาวห้วยพระยังลุ้นต่อ หลังผลสอบคณะกรรมการเพิกถอนที่ดินของบริษัทเกษตรปิยะมิตรถูกส่งเข้ากรมฯ

นครพนม – ชาวห้วยพระยังลุ้นต่อ หลังผลสอบคณะกรรมการเพิกถอนที่ดินของบริษัทเกษตรปิยะมิตรถูกส่งเข้ากรมฯ ขณะที่ศาลจังหวัดนครพนมเลื่อนสืบพยานเหตุพยานไม่มาศาล

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 นายเรืองชัย วงษ์อุระ กรรมการคุ้มครองสิทธิประชาชน จังหวัดนครพนมได้เดินทางเข้าพบกับนายชัชวาลย์ ทรัพย์แก้วยอด ปฎิรูปที่ดินจังหวัดนครพนมหนึ่งในกรรมการตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินกรณีให้เพิกถอนโฉนดที่ดินและ นส.3ก ของบริษัทเกษตรปิยะมิตร เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่มีกรรมการสองคนไม่ได้ลงนามในรายงานการสอบสวนที่ส่งให้อธิบดีกรมที่ดินพิจารณา

โดยนายชัชวาลย์ เปิดเผยว่า ตนในฐานะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการดังกล่าวได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการในวันที่ 22 เมษายน 2563 และมีมติเป็นเอกฉันท์ ในครั้งนั้นเห็นควรให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ทั้งหมดที่อยู่ในระเบียบวาระการประชุม เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าคำชี้แจงของเจ้าของกรรมสิทธิ์ ฟังไม่ขึ้นไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาใด ๆ ได้  ต่อมาก็ได้รับหนังสือขอให้ทบทวนหรือรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการตามความในมาตรา 61 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ซึ่งตนได้ส่งหนังสือยืนยันรับรองผลการลงมติของคณะกรรมการที่ได้มีมติไปแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 และหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายเลขานุการอีกเลย การที่รายงานการสอบสวนไม่มีตนลงลายมือชื่อนั้นตนไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใด เนื่องจากตนก็อยู่สำนักงานตลอดเวลาในช่วงหลายเดือนหลังจากมีการลงมติแต่ไม่ทราบเป็นเพราะเหตุใดจึงไม่ได้รับการติดต่อให้ตนลงนามในรายงานการประชุมก่อนที่จะส่งให้อธิบดีกรมที่ดินพิจารณาซึ่งเรื่องนี้ต้องไปสอบถามกับฝ่ายเลขานุการและสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนที่เป็นผู้ออกหนังสือว่าเป็นเพราะเหตุใดกันแน่

โดยนายเรืองชัย วงษ์อุระ เปิดเผยว่า ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนได้ ส่งรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการตามความในมาตรา 61 กรณีความปรากฏว่า โฉนดที่ดินจำนวน 14 แปลง และหนังสือรับรองการทำประโยชน์  (นส.3 ก ) อีก32 แปลง ซึ่งปัจจุบันมีชื่อ บริษัทเกษตรปิยะมิตร เป็นเจ้าของออก โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงตั้งกรรมการให้สอบสวนเพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว โดยในรายงานดังกล่าวสรุปว่าคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นควรเสนอให้อธิบดีกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดโดยรายงานการสอบสวนดังกล่าวลงวันที่ 8 กันยายน 2563 ซึ่งล่วงเลยกรอบเวลาที่มาตรา 61 ได้กำหนดไว้โดยจะต้องสอบสวนและรายงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 25 เมษายน 2563 แต่เลขานุการและกรรมการไม่นำส่งรายงานการสอบสวนดังกล่าวตามกรอบเวลา ซึ่งล่าช้าไปกว่าสี่เดือน จนเป็นเหตุให้ชาวบบ้านห้วยพระ หมู่ 9 และหมู่ 14 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จังหวัดนครพนมจำนวนกว่าสามร้อยคน เดินทางมาร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนมให้สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนรีบดำเนินการส่งรายงานการสอบสวนพร้อมมติของคณะกรรมการให้อธิบดีกรมที่ดินพิจารณาโดยเร็ว   จนสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนโดย พันจ่าโท เฉลิมพล ว่องชิน  เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนที่เพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่  ได้จัดทำรายงานการสอบสวนพร้อมรายงานการประชุมของคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 แต่ในรายงานการสอบสวนกลับมีกรรมการลงนามไม่ครบ สองคน คือนายสมศักดิ์ ชุ่มแจ่ม นายอำเภอ ท่าอุเทน และ นายชัชวาลย์ ทรัพย์แก้วยอด ปฎิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม โดยมีบันทึกไว้ว่าติดราชการ ไม่สามารถลงนามได้ ซึ่งปรากฎการณ์เช่นนี้ตนมองว่าน่าจะเป็นการจงใจแตะถ่วงยื้อเวลา ให้เนิ่นนานออกไป เป็นการเจตนากรทำการให้รายงานไม่สมบูรณ์เพื่อให้อธิบดีกรมที่ดินไม่สามารถพิจารณาได้ ซึ่งกรอบเวลาตามความในมาตรา 61 นั้นหลังจากคณะกรรมการมีมติแล้วให้ส่งเรื่องให้อธิบดีกรมที่ดินหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมาย พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15 วัน ซึ่งตนจะเร่งรัดติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป หากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตนจะดำเนินการให้ถึงที่สุดต่อไป

ส่วนความคืบหน้าในคดีแพ่งที่ทางบริษัทเกษตรปิยะมิตรฟ้องนายอำเภอและนายก อบต.ท่าจำปา รวมถึงสมาชิก อบต.ท่าจำปาและผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยพระในความผิดฐานละเมิดในที่ดินของบริษัทฯพร้อมเรียกค่าเสียหายอีก ห้าแสนบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัทเกษตรปิยะมิตร ได้ขอถอนฟ้องไปแล้วคงเหลือประเด็นที่ถูกนายพัน ชมภูพระ ผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยพระหมู่ 9 จำเลยที่ 3  ฟ้องแย้งกลับ ให้โฉนดที่ดินและนส.3.ก ที่พิพาทตกเป็นของรัฐเนื่องจากออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น หลังจากสืบพยานฝ่ายจำเลยซึ่งกลับมาเป็นฝ่ายโจทย์ในคดีฟ้องแย้งไปแล้วในนัดก่อนหน้านี้ และยังเหลือพยานอีกหนึ่งปากคือนายพงษ์ภาณุ พิมลภัทรกุล อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม แต่ปัจจุบันย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าพนังานที่ดินจังหวัดลพบุรี และได้ขอลาออกจากราชการไปแล้วจึงไม่สามารถส่งหมายเรียกพยานได้ โดยศาลให้ทนายจำเลยส่งหมายเรียกให้มาให้การใหม่ในนัดหน้าซึ่งกำหนดนัดสืบพยานต่อในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน