นครพนม – ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อบจ.ฯ) พลโท จเรศักณิ์ อานุภาพ หัวหน้าคณะสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พร้อมคณะสมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดนครพนมตามโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ตอนบน) เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทุกภาคส่วน ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาจะนำข้อมูลดังกล่าว ไปใช้เพื่อประโยชน์ในการประกอบการพิจารณากลั่นกรองในการตรากฎหมาย พัฒนากฎหมายให้สอดคล้องเหมาะสมกับบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งจะได้นำความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของประชาชน เพื่อสะท้อนไปสู่การแก้ไขปัญหาต่อไป
พลโทจเรศักณิ์ อานุภาพ หัวหน้าคณะ ส.ว.กล่าวว่า ในการลงพื้นที่แต่ละครั้งวัตถุประสงค์สำคัญคือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แม้ว่าวุฒิสภาจะไม่มีอำนาจหน้าที่ในการบริหาร หรือสั่งการหน่วยงานใดๆ แต่ก็สามารถสะท้อนข้อคิดเห็นต่างๆ ของประชาชนไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ ตามกลไกของวุฒิสภาที่มีอยู่ สำหรับจังหวัดนครพนมถือเป็นจังหวัดสุดท้ายในรอบแรกที่คณะฯได้ลงพื้นที่มาในวันนี้ ซึ่งหลังจากได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้ว ก็จะได้นำไปดำเนินการสะท้อนให้เกิดการแก้ไขปัญหาต่อไป และจะได้นำความคืบหน้าการดำเนินการมาแจ้งให้กับประชาชนชาวนครพนมได้รับทราบอีกครั้งในการลงพื้นที่รอบที่สอง
สำหรับวันนี้หอการค้าจังหวัดนครพนมได้สะท้อนปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลได้ยาก ด้านการช่วยเหลือเกษตรกรรมการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำสงครามทั้งระบบเพื่อพัฒนาแก้ปัญหาพื้นที่น้ำท่วมและพื้นที่แล้งซ้ำซาก ซึ่งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาไว้ทั้งระบบแล้ว และจะส่งต่อไปยัง สทนช.ภาค และกรมชลประทานเพื่อแก้ปัญหาต่อไป ส่วนการบริหารจัดการโครงการลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่มีการบริหารจัดการแบบประชารัฐจะเป็นแบบอย่างในการแก้ปัญหาของลุ่มน้ำสงครามได้ สำหรับที่ประตูระบายน้ำบ้านนาคู่ ตำบลนาแก อำเภอนาแก เป็นส่วนหนึ่งในโครงการลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่บ้านปากบัง ตำบลพิมาน ไม่สามารถทำการเกษตรได้ เกษตรกรขอแนวตลิ่งป้องกันน้ำท่วมและขอให้เพิ่มพื้นที่การใช้น้ำของประชาชนในช่วงหน้าแล้ง โดยขอให้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อทำการเกษตร ซึ่งโครงการก่อสร้างที่ 2 สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้มีแผนที่จะทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ให้เกษตรกรได้ใช้ในหน้าแล้งเพื่อแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรต่อไป
