X

นครพนมคลายล็อกระยะ 3 โรงหนัง นวดแผนโบราณ เสริมความงาม บขส. ดำเนินการได้ตามมาตรการป้องกันโรค

นครพนม – คลายล็อกระยะ 3 โรงหนัง นวดแผนโบราณ เสริมความงาม บขส. ดำเนินการได้ตามมาตรการป้องกันโรค หากไม่ปฏิบัติสั่งปิดทันที

วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมพระธาตุพนม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ โดยแจ้งในที่ประชุมทราบว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติฯ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ให้ขยายเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรออกไป ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นั้น

จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการตามาตรการ และแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เรื่องข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548(ฉบับที่ 9) ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน(เคอร์ฟิว) 23.00-03.00 น. ให้สามารถเดินทางข้ามจังหวัดภายใต้มาตรการตามที่ราชการกำหนด และห้างสรรพสินค้าให้เปิดไม่เกินเวลา 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลับมาแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และเป็นการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติโดยเร็ว จึงเห็นควรเชิญคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม มาประชุมเพื่อพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันโรค การผ่อนคลายระยะที่ 3

จากนั้น นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (สสจ.ฯ) ได้สรุปรายงานผลการตรวจประเมินมาตรฐานการป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จำนวน 14 สถานประกอบการ พบว่า ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านขนมหวาน และร้านอาหารริมทาง จำนวน 81แห่ง ไม่ผ่านเกณฑ์ถึง 56 แห่ง โดยปัญหาที่พบในภาพรวมเช่น จัดโต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหาร ให้มีระยะห่าง 1 เมตร หรือนั่งสลับโต๊ะ ร้านบางแห่งผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัย ฯลฯ หรือในตลาดสดแม่ค้ายังไม่สวมหน้ากากอนามัย การวางสินค้าหน้าแผงลอยมากเกินไป ส่งผลให้ช่องทางเดินภายในตลาดแคบ ทำให้ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ตามมาตรฐาน 1 เมตร เป็นต้น

ด้าน นายแพทย์ธราพงษ์กัปโก นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ(ด้านเวชกรรมป้องกัน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548(ฉบับที่ 9) ในข้อ 1 การห้ามออกนอกเคหสถาน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 23.00-03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และขอให้ยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานตามข้อกำหนด(ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 10 เมษายน 2563 ยังคงบังคับใช้ต่อไป

ให้ยานพาหนะ ผู้โดยสารตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะที่เป็นการขนส่งคนหรือสินค้าระหว่างจังหวัด ที่เริ่มออกเดินทางจากจังหวัดต้นทาง ก่อนเวลา 23.00 น. และถึงจังหวัดปลายทางหลังเวลา 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น สามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาการห้ามออกนอกเคหสสถานได้ ฯลฯ

นอกจากนี้ยังผ่อนคลายให้ดำเนินการหรือทำกิจกรรมบางอย่างได้ ได้แก่ด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต อาทิ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ โดยจำกัดพื้นที่รวมในการจัดงานขนาดไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร เปิดดำเนินการได้ถึง 21.00 น. และสนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่อง สามารถเปิดได้ แต่ทั้งนี้งดการจัดการแข่งขัน กิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือการอื่นใดที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมาชุมนุมกันหนาแน่น ส่วนร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมสำหรับบุรุษ สตรี เปิดดำเนินการโดยจำกัดเวลาการให้บริการในร้านไม่เกินรายละ 2 ชั้วโมง และต้องไม่มีผู้นั่งรอในร้าน

ด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพหรือสันทนาการ ที่อนุญาตให้เปิดดำเนินการ ได้แก่ คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม นวดสปา นวดแผนไทย (เว้นการอบสมุนไพรและการนวดบริเวณใบหน้า) ฟิตเนส ต้องจำกัดจำนวนผู้เล่น ค่ายมวยเปิดได้เฉพาะการฝึกซ้อม ชกลม โดยไม่มีคู่ชก และต้องไม่มีการแข่งขัน เช่นเดียวกับสนามกีฬา เปิดได้เฉพาะเพื่อการออกกำลังกาย หรือฝึกซ้อมในประเภทกีฬา เช่น ฟุตบอล ฟุลซอล บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล โดยไม่เป็นการแข่งขัน และมีจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมในสนามกีฬา(ไม่รวมผู้เล่น) ต้องไม่เกิน 10 คน เท่านั้น

โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ ให้เปิดโดยจำกัดจำนวนคนไม่เกิน 200 คน เว้นการจัดแสดงดนตรีหรือคอนเสิร์ต ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลและการแพร่กระจายเชื้อ ฯลฯ

ดังกล่าวมาข้างต้น ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น เจ้าของ ผู้จัดการ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งระเบียบ ระบบต่างๆ ตามคำแนะนำ เงื่อนไข และเงื่อนเวลาที่ ผวจ.หรือตามที่ทางราชการกำหนด

ทั้งนี้ หากพบการกระทำที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ไปตรวจสอบ อาจให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม ฯ ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ของโรค รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 มีคำสั่งปิดสถานที่ในพื้นที่รับผิดชอบไว้เป็นการชั่วคราว ซึ่งผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด และจัดระเบียบ ระบบต่างๆแล้ว เสนอต่อ ผวจ.ฯสั่งให้เปิดดำเนินการในสถานที่ดังกล่าวได้

นพ.ธราพงษ์ กัปโก กล่าวต่อว่า ในการผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด ตามที่รัฐบาลมีคำแนะนำให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตฯในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งจากการประเมินของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พบว่ามาตรการดังกล่าวนี้เป็นปัจจัยหนึ่งส่งผลให้สามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชนกับมีสภาพใกล้เคียงกับวิถีชีวิตตามปกติ อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จึงเห็นสมควรผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด โดยประชาชน ผู้เดินทาง ซึ่งรวมถึงผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค การจัดระบบและระเบียบต่างๆ ที่ทางราชการกำหนดด้วย ซึ่งอาจไม่สะดวกและจำเป็นต้องก่อภาระแก่ผู้เดินทางได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การจราจรคับคั่งหรือมีเหตุพิเศษ ทั้งนี้ หากพบว่าผู้เดินทางมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคหรือเป็นพาหะนำโรค พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจในการสั่งแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ นพ.ธราพงษ์ฯจึงเสนอพิจารณาจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ระบาด Home Quarantine จำนวน 5 จังหวัด คือ 1.กทม. 2.นนทบุรี 3.ภูเก็ต 4.ยะลา และ 5.นราธิวาส

ด้าน นางสาวเกตุแก้ว พรมลา ผู้ประกอบการร้านนวดแผนโบราณ ถนนอภิบาลบัญชา เขตเทศบาลเมืองนครพนม หลังทราบมติคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ให้สามารถเปิดดำเนินการนวดได้ ก็ได้ทำความสะอาดภายในร้านด้วยการนำแอลกอฮอล์มาเช็ดหมอน ที่นอน แอร์ และนำเจลล้างมือมาวางไว้ให้ผู้มาใช้บริการ พร้อมจะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด หากผู้ใช้บริการไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้ามา ก็จะไม่นวดให้เช่นเดียวกัน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน