X

“12 โจ๋นครพนมซ่าไม่เลิก” 11 คนตั้งวงก๊งเหล้าลองของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกรายเดินโชว์ช่วงติดเคอร์ฟิว

นครพนม – “12 โจ๋นครพนมซ่าไม่เลิก” 11 คนตั้งวงก๊งเหล้าลองของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกรายเดินโชว์ช่วงติดเคอร์ฟิว เจอคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่น เล็งคลายล็อกให้เปิดตลาดนัด

กรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) หรือทีวีพูล ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก. ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป โดยห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19  ขณะเดียวกันจังหวัดนครพนม ก็มีคำสั่งปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ก็ยังพบมีผู้ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตลอดเวลา

ล่าสุด วันที่ 15 เมษายน 2563 เวลาประมาณ 16.30 น. ตำรวจชุดสืบสวน นำโดย ร.ต.อ.ศราวุฒิ อภัยกาวี รอง สวป.สภ.พระซอง อ.นาแก ร่วมกับ ตชด.235 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดย ร.ต.อ.เสถียร พัฒนะโชติ ได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาย จำนวน 11 คน ในบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 บ้านนาสีนวล ต.พระซอง ขณะตั้งวงก๊งเหล้ากันอยู่ มีทั้งถ้วยชามใส่กับแกล้ม หม้ออบไฟฟ้า กล่องกระดาษคล้ายใส่ขนมเค้ก และเหล้าขาว 1 ขวด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่ สภ.พระซอง โดยกล่าวหาฝ่าฝืนข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และ ม.52 พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ

เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า วัยรุ่นทั้ง 11 คน มีอายุระหว่าง 17-23 ปี โดยมีบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่ ต.พระซอง และ ต.นาคู่ อ.นาแก ได้ชักชวนกันมานั่งดื่มเหล้ากันในบ้านหลังดังกล่าว ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 15 เมษายน พร้อมเปิดเพลงเสียงดังส่งเสียงเฮฮารบกวนเพื่อนบ้าน กระทั่งชุดสืบสวน สภ.พระซอง ออกตรวจพื้นที่ร่วมกับ ตชด.235 ก็ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าในบ้านหลังนั้น เปิดเพลงและส่งเสียงดัง จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบวัยรุ่นนับได้ 11 คน รวมตัวกันกินเหล้าอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุม พร้อมยึดของกลางไว้ทั้งหมด นำตัวส่ง พ.ต.ท.สุชาติ อุทโย สว.สอบสวน สภ.พระซอง ดำเนินคดีต่อไป

ต่อมา เวลา 01.00 น. วันที่ 16 เมษายน 2563 พ.ต.ท.ผงเพชร ทาซ้าย สวป.สภ.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม ออกตรวจพื้นที่มาถึงถนนภายในหมู่บ้านหนาด หมู่ 7 ต.บ้านกลาง พบชายวัยรุ่นอายุ 17 ปี เดินอยู่บนถนน จึงเข้าไปสอบถามก็ทราบว่าอยู่ในบ้านอากาศร้อนอบอ้าว จึงออกมาเดินเล่นข้างนอก เมื่อเจ้าหน้าที่ถามว่ารู้หรือไม่ว่าห้ามออกจากเคหะสถานหลังเวลา 22.00 น. วัยรุ่นก็ตอบว่ารู้แต่ทนอากาศร้อนไม่ไหว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่ง พ.ต.ท.สมพร ธิมาชัย สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกลาง เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไป

สำหรับการนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดนครพนม ช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ได้เปลี่ยนการส่งตัวผู้ต้องหา เพื่อไม่ให้บุคคลมาร่วมตัวแออัดภายในศาลมากเกินไป โดยให้พนักงานสอบสวนนำสำนวนสั่งฟ้องให้สำนักงานอัยการ โดยตัวผู้ต้องหาให้ควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ฯ ไม่ต้องนำตัวมาด้วย ซึ่งศาลฯจะมีการอ่านคำพิพากษาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ หลังพิจารณาคดีแล้ว หากสั่งปรับก็จะให้จำเลยโอนเงินค่าปรับเข้าบัญชีศาลจังหวัดนครพนม หากดำเนินการครบถ้วนก็สั่งปล่อยตัวเป็นอิสระ หากสั่งจำคุกโดยไม่รอลงอาญา พนักงานสอบสวนจึงจะนำตัวจำเลยส่งเรือนจำกลางจังหวัดนครพนมเป็นลำดับต่อไป โดยระวางโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ จังหวัดนครพนม ได้เริ่มผ่อนคลายกฎเหล็กเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสทำมาหากินเลี้ยงชีพ เบื้องต้น นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ได้ขอความเห็นจากคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ว่า จะผ่อนคลายให้มีตลาดนัด แต่ต้องอยู่ในระเบียบของคณะกรรมการโรคติดต่อฯ เช่นต้องตั้งร้านเว้นระยะห่าง 2 เมตร ขึ้นไป และต้องคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้ที่จะเข้าไปจับจ่ายภายในตลาดนัด โดยมีสัญลักษณ์ว่าผ่านการคัดกรองแล้ว ที่สำคัญทุกร้านต้องมีแอลกอฮอล์หรือเจลให้ลูกค้า หากปฏิบัติได้ก็จะพิจารณาตามขั้นตอน เบื้องต้นในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ให้เปิดตลาดนัดที่บริเวณหน้าโรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิว ส่วนระดับอำเภอให้นายอำเภอเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม แต่ถ้าตลาดนัดแห่งใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขกำหนด ก็จะสั่งปิดโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน