X

เบิกเนตร”บัก..ขวด” ตัวแทนสี่กุมารลูกนางคำกอง คอหวยไม่พลาด

นครพนม – เบิกเนตร”บัก..ขวด” ตัวแทนสี่กุมารลูกนางคำกอง โยงนิทานปรัมปราดังลาว เรื่อง”จำปาสี่ต้น” คอหวยไม่พลาด เสี่ยงเซียมซีเลขเด็ด 242

วันที่ 14 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. บริเวณศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปภายในวัดป่าบ้านดงหมู หมู่ 10 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม พระอาจารย์วรรณ จิตติโสภโณ อายุ 64 ปี พรรษาที่ 14 เจ้าอาวาส และ พระเสถียร สุธัมโม อายุ 51 ปี พระลูกวัด ทำพิธีเบิกเนตรบัก..ขวด เป็นรูปปูนปั้นเด็กชาย ความสูงประมาณ 1 เมตรเศษ ยืนยิ้มพนมมือไหว้ นุ่งผ้าโสร่งแบบคนโบราณ หลังพระคุณเจ้าสวดมนต์บทอิติปิโสเสร็จ ญาติโยมที่มาร่วมพิธีก็ได้เขียนตัวเลขลงบนกระดาษ เสี่ยงทายขอโชคลาภจากบัก..ขวด เขย่าครั้งแรกได้เลข 2 เขย่าครั้งที่สองได้เลข 4 และครั้งสุดท้ายได้เลข 2 อีกครั้งหนึ่ง จึงนำไปซื้อลอตเตอรี่งวดวันที่ 16 มีนาคม นี้ แต่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและหุ่นที่สมบูรณ์ของบักหำขวด คอหวยนอกจากหวังโชคลาภแล้ว ยังขอให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย

ที่มาของบัก..ขวดรูปปั้นอารมณ์ดีนี้ สืบเนื่องจากด้านหลังศาลามีซากอิฐคล้ายเจดีย์ ที่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิม แต่พอจะเห็นก้อนอิฐใหญ่เรียงเป็นชั้นๆคล้ายพระธาตุ ซึ่งชาวบ้านเรียกซากเจดีย์นี้ว่าธาตุนางคำกอง โดยมีเรื่องราวผูกโยงกับนิทานปรัมปราชื่อดังของประเทศลาวเรื่องจำปาสี่ต้น ที่เขียนโดยนันทวงศาจารย์ นักปราชญ์คนสำคัญในปี พ.ศ. 2078 ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าโพธิสารราช ถึงปี พ.ศ. 2114 สมัยพระไชยเชษฐาธิราช ชื่อหนังสือเรื่องนางคำกลอง จึงสันนิษฐานว่าเขียนในปี พ.ศ. 2078 – 2114

โดยกล่าวว่าได้พอสังเขปดังนี้ มีนกยักษ์บินมาโฉบกินชาวเมืองเขนธานี ท่านเจ้าเมืองเกรงจะไม่รัชทายาทสืบราชบัลลังก์ จึงสร้างกลองใหญ่ขึ้นมาหนึ่งใบ เพื่อนำพระราชธิดานามว่านางปทุมมา ซ่อนไว้อยู่ในกลองใบนั้น และบรรจุทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากรวมอยู่ในนั้นด้วย ต่อมามีท้าวจุลละนี ครองเมืองปัญจานครออกประพาสป่าล่าสัตว์ ได้หลงเข้ามายังเมืองร้าง จึงพบกลองใบใหญ่อยู่กลางเมือง จึงได้ตีกลองเพื่อจะเป็นสัญญาณให้รู้ว่ามีคนมา ก็ได้ยินเสียงหญิงสาวร้องอยู่ในกลอง จึงใช้พระขรรค์ผ่าหนังหน้ากลองพบนางปทุมมา เมื่อถามไถ่ได้ความว่าพญานกยักษ์จะมากินคนเมื่อได้ยินเสียงกลอง พระบิดาจึงนำนางมาไว้ในกลองเพราะโหรได้ทำนายว่าจะมีผู้วิเศษมาปราบนกยักษ์ตนนี้ได้ เมื่อพญานกบินมท้าวจุลละนีก็ฆ่าตายต่อหน้านางปทุมมา

ภายหลังท้าวจุลละนีจึงรับนางปทุมมาเป็นชายาพากลับเมืองปัญจานคร ขณะเดียวกันท้าวจุลละนี ก็มีมเหสีฝ่ายขวาก่อนแล้วชื่อว่านางอัคคี ครั้นนางปทุมมาตั้งครรภ์ ฝันว่ามีพระอินทร์เอาแก้วมาให้ 4 ดวง โหรทำนายว่าจะได้โอรสมีบุญบารมีมาก นางอัคคีเกิดความอิจฉาเพราะนางไม่มีโอรส เมื่อนางปทุมมาจะประสูติโอรส นางอัคคีก็ออกอุบายเอาผ้าปิดตาปิดหูนางปทุมมา โดยอ้างว่าเป็นพระราชประเพณีของเมืองปัญจานคร จากนั้นนางอัคคีก็เอาลูกสุนัขมาเปลี่ยนเป็นลูกนางปทุมมา แล้วให้นางทาสีนำกุมารทั้งสี่ไปลอยแพทิ้งน้ำไป เมื่อท้าวจุลละนีทราบว่า นางปทุมมาคลอดบุตรเป็นสุนัขก็โกรธ กล่าวหาว่านางสมสู่กับสุนัขจึงขับไล่ไปจากเมือง ไปทำงานเป็นคนเลี้ยงหมู(ปัจจุบันคือบ้านดงหมู ต.ท่าค้อ)

ด้านกุมารทั้งสี่ที่ถูกลอยแพ ได้ลอยไปติดอยู่ที่ท่าน้ำบ้านตายาย ทั้งคู่เห็นจึงเลี้ยงไว้ด้วยความเอ็นดู ความทราบถึงนางอัคคีว่ากุมารทั้งสี่ยังไม่ตาย จึงให้นางทาสีนำอาหารใส่ยาพิษมาให้กุมาร ตายายกลับจากนาเห็นกุมารทั้งสี่นอนตายกอดกันกลมก็โศกเศร้า  จึงนำไปฝังเรียงกันทั้ง 4 ศพ กาลเวลาผ่านไปไม่นานก็เกิดเป็นต้นจำปาสี่ต้น ตายายดีใจที่ยังเห็นหลานทั้งสี่มีชีวิตอยู่ จึงหมั่นรดน้ำพรวนดินต้นจำปาจนงอกงาม

กระทั่งนางอัคคีทราบความ จึงสั่งให้เสนามาโค่นต้นจำปานำไปทิ้งน้ำเสีย ต้นจำปาลอยน้ำไปติดอยู่หน้าอาศรมฤาษี ฤาษีใช้มีดตัดต้นจำปาเห็นมีเลือดออกจึงรู้ว่าไม่ใช่ต้นจำปาทั่วไป พระฤาษีจึงเสกให้เป็นคนเหมือนเดิม ส่วนเจ้าคนเล็กนิ้วขาดเพราะพระฤาษีตัดตอนเป็นต้นจำปา พระฤาษีจึงต่อนิ้วเพชรมีอิทธิฤทธิ์ “ชี้ตายชี้เป็น” และสอนวิชาอาคมต่างๆ แก่กุมารทั้งสี่ตั้งชื่อว่า จำปาทอง จำปาเงิน จำปานิล และคนเล็กชื่อเจ้านล

ภายหลังกุมารทั้งสี่ทราบว่า มารดาของตนถูกพ่อส่งมาเลี้ยงหมู จึงเดินทางมาพบและทราบความจริง จึงแค้นเคืองพระราชบิดาและนางอัคคียิ่งนัก จึงไปยังปราสาทแล้วเขียนสารถึงบิดาไว้ที่แท่นบรรทม ให้ส่งตัวนางอัคคีและนางทาสีคนสนิทไปลงโทษ และบอกความจริงทุกประการ ท้าวจุลละนีทราบดังนั้นก็ดีพระทัยที่โอรสทั้งสี่ยังมีชีวิตอยู่ วันรุ่งขึ้นจึงจับนางอัคคีและนางทาสีไปให้กุมารลงโทษ สี่กุมารจึงตัดสินให้ลอยแพนางอัคคีและนางทาสีไปในทะเลตามยถากรรม หลังจากนั้นพระองค์ก็นำราชรถไปรับนางปทุมมากลับนคร ต่อมานางปทุมมาเสียชีวิตจึงได้นำอัฐิมาบรรจุไว้ในเจดีย์ สาเหตุที่เรียกธาตุนางคำกองเพราะท้าวจุลละนีเปลี่ยนชื่อให้ตอนเจอกันครั้งแรก เนื่องจากพบมเหสีองค์นี้ในกลองพร้อมสิ่งของมีค่านั่นเอง

ส่วนการตั้งชื่อลูกนางคำกองเป็นบัก..ขวด นั้น พระอาจารย์วรรณเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านดงหมูเผยว่า ทางภาคใต้มีไอ้ไข่ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช โด่งดังด้านโชคลาภและค้าขาย ตนเห็นรูปปั้นนี้ก็เลยตั้งชื่อว่าบัก..ขวด เป็นตัวแทนกุมารทั้งสี่ตามนิทานปรัมปราของชาวลาว ที่ผูกโยงกับนางคำกองผู้เป็นมารดา ปัจจุบันและบริเวณที่นางคำกองเลี้ยงหมู ก็ยังพอมีร่องรอยเหลืออยู่

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน