นครพนม – วันที่ 19 มิ.ย.61 บริเวณโรงละคร ภายในเขตวัดธาตุเรณูนคร อ.เรณูนคร จ.นครพนม นายวิชัย ขันติพร้อมผล วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ ผู้แทนกรมทางหลวง เปิดประชุมใหญ่ครั้งที่ 1 ว่าด้วยงานสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางเลี่ยงเมืองเรณูนคร โดยมีนายประเชิญ พรมจันทร์ ปลัดอาวุโสเป็นผู้แทนจังหวัดนครพนม พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.นางาม,โพนทอง,หนองย่างชิ้น,เรณู,และเรณูใต้
นายวิชัยฯกล่าวว่า ในฐานะรับงานสำรวจและออกแบบรายละเอียดทางหลวง 4 ช่องจราจร เส้นทางเลี่ยงเมืองเรณูนคร เพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ การค้าชายแดน ระหว่างจังหวัดนครพนมเชื่อมโยงไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว พร้อมยังช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์การค้าชายแดน ลดต้นทุนการขนส่ง ตลอดจนเป็นเส้นทางที่มีความสะดวกปลอดภัย ระหว่างศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเส้นทางที่จะเกิดขึ้น จึงจัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นระยะๆ เพื่อนำข้อคิดเห็น ข้อห่วงใย และข้อเสนอแนะมาประกอบพิจารณาการออกแบบ ให้เหมาะสมมากที่สุด
นายรุ่งโรจน์ พงศาปาน ผู้จัดการโครงการฯ ออกแบบสำรวจทางเลี่ยงเมืองเผยว่า ตัวเขตเทศบาลตำบลเรณูนั้น เป็นถนนโบราณดั้งเดิม อดีตใช้เป็นเกวียนคมนาคมกันไปมา เมื่อบ้านเมืองพัฒนาขึ้น ภายในตัวอำเภอประสบปัญหาการจราจรติดขัด เนื่องจากมีสภาพถนนแคบไม่สามารถที่จะขยายเขตทางที่มีอยู่เดิมให้มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ เพราะมีบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก รวมถึงสถานที่ราชการ ศาสนสถาน และแหล่งโบราณคดี จึงมีแนวคิดในการออกแบบทางเลี่ยงเมืองเรณูนครเป็นถนน 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อกับทางหลวงเดิมเป็นรูปวงแหวน หากสร้างเสร็จจะเป็นทางหลวงสายหลักเส้นใหม่ที่จะอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง ช่วยลดระยะเวลาเดินทาง และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ตลอดจนรองรับปริมาณจราจรที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทางด้านนายปริญญา ประสงค์สุข กำนัน ต.นางาม เผยว่าหากโครงการดังกล่าวสำเร็จ จะเป็นผลดีต่อประชาชนใน 5 ตำบล เศรษฐกิจก็ดีขึ้นไปด้วย สำหรับตนสนับสนุนโครงการดังกล่าวเต็มที่ และจากการได้พูดคุยกับลูกบ้าน ทุกคนต่างดีใจที่จะได้ถนนสายหลัก ซึ่งสามารถเชื่อมไปถึงทางรถไฟที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย
อำเภอเรณูนคร เดิมมีชื่อเรียกว่าเมืองเว เป็นชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนครั้งแรกในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ส่วนใหญ่จะเป็นชาวผู้ไทที่อพยพมาจากเมืองวัง ประเทศลาว ราวปี พ.ศ. 2387 ขึ้นเป็นเมืองเรณูนครจนถึงปัจจุบัน
