X

“เหมือนถูกควักดวงตาทั้งสองข้าง” ผู้สูญเสียเมียและลูกคร่ำครวญ แก๊งค้ากัญชาข้ามชาติ พรากชีวิตคนที่รัก

นครพนม – “เหมือนถูกควักดวงตาทั้งสองข้าง” ผู้สูญเสียเมียและลูกคร่ำครวญ แก๊งค้ากัญชาข้ามชาติ พรากชีวิตคนที่รัก ผวจ.พร้อมช่วยเหลือเต็มที่

คืบหน้า กรณี นายทศพร รัตน์วงศ์ อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 19 หมู่ 4 บ้านนาสมบูรณ์ ต.ดงมอทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร อ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากนายพิน ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล เป็นเงิน 50,000 บาท(ห้ามหมื่นบาท) รับเป็นค่าเดินทางก่อน 5,000 บาท  โดยทำหน้าที่ขับรถยนต์โตโยต้า รุ่นเฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กย 4474 อุบลราชธานี ซึ่งภายในเก๋งทั้งที่นั่งด้านคนขับและเบาะด้านหลัง ยัดกัญชาพรีเมี่ยมโกลด์ เกรด A จนแน่นเอี๊ยด จำนวน 360 แท่ง/360 กิโลกรัม บรรทุกจากบ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ไปส่งยังจุดหมายปลายทางที่ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร แล้วให้จอดรถทิ้งไว้ก็จะมีคนมารับช่วงขับไปต่อ ถือว่าทำงานสำเร็จ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 4 ทราบจากแหล่งข่าวว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เตรียมจะลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน คาดจะขนขึ้นฝั่งบริเวณบ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท จึงวางกำลังซุ่มดูการเคลื่อนไหวของรถต้องสงสัยที่วิ่งออกมาจากหมู่บ้าน กระทั่งพบรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ จำนวน 2 คัน วิ่งนำหน้ารถเฟอร์จูนเนอร์ ลักษณะเป็นรถนำทาง ชุดปฏิบัติการณ์จึงขับรถยนต์ติดตามอย่างกระชั้นชิด ทำให้รถนำทางไหวตัวจึงเร่งเครื่องฉีกขับหลบหนี ปล่อยให้รถเฟอร์จูนเนอร์ใช้ความสามารถหลบหนีเอาเอง คนร้ายจึงขับหนีเข้ามายังตัวเมืองนครพนม โดยใช้เส้นทางริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม

ระหว่างนั้นเองมีนางสุรภา พิมพานนท์ หรือหญิง อายุ 46 ปี ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานธุรการ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครพนม  กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ รุ่น 125 ทะเบียน 1 ก ง 1454 มุกดาหาร มีเด็กชายธนภัทร์ พิมพานนท์ หรือน้องกัปตัน อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 /2 โรงเรียนเทศบาล 4 นั่งซ้อนท้าย เพื่อกลับบ้านที่ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม หลังนางสุรภาพาลูกชายตระเวนไปร้านตัดผมหลายแห่งแต่ปรากฏว่าร้านปิดจึงขับ จยย.กลับบ้าน ขณะขับมาถึงหน้าบ้านพัก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ที่อยู่ติดกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รถต้องสงสัยหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ก็วิ่งพุ่งชน จยย.อย่างจัง เป็นเหตุให้ร่างทั้งสองแม่ลูกปลิวไปคนละทิศละทาง โดยร่างของน้องกัปตันศีรษะกระแทกพื้นกะโหลกแตกเสียชีวิตคาที่ ส่วนนางสุรภาอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาลนครพนม แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดวันที่ 18 ธันวาคม 2562 เวลา 20.00 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 19 ธันวาคม 2562 ณ บ้านเลขที่ 28 หมู่ 6 ซอยเอกอาษา ต.อาจสามารถ เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพสองแม่ลูกผู้เคราะห์ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.1บก.สส.ภ 4 และนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองนครพนม เดินทางไปคารวะศพ พร้อมแสดงความเสียใจกับนายอัมพรชัย พิมพานนท์ หรือหนุ่ม อายุ 46 ปี ผู้เป็นสามีและพ่อของผู้เสียชีวิต ทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวประจำหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) แผนกพนักงานโยธา โดยตลอดเวลานายอัมพรชัยหลั่งน้ำตาในการจากไปของบุคคลที่รักทั้งสอง พร้อมบอกกับผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ว่า การสูญเสียครั้งนี้เหมือนถูกควักลูกตาทั้งสองข้าง ถึงขณะนี้ก็ยังคิดว่าเป็นความฝันมันไม่ใช่ความจริง ก่อนจะปล่อยโฮอย่างน่าเศร้าสลดแก่ผู้พบเห็น

ซึ่งนายสยามฯผวจ.นครพนม ได้มอบเงินเยียวยาจำนวนหนึ่ง พร้อมให้กำลังใจนายอัมพรชัยยืนหยัดสู้ต่อ นอกจากนี้ยังกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ด้านคดีให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ต่อมา นายอัมพรชัยหรือหนุ่ม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า น้องกัปตันเป็นเด็กเรียนดี มีความตั้งใจสูง ชอบเล่นกีฬาทุกชนิด เช่น ฟุตบอล ฟุตซอล ฯลฯ เคยได้เหรียญมาโชว์พ่อแม่ประจำ และยังเป็นนักพายเรือแข่งประจำชุมชน หากว่างจากกีฬาก็จะเล่นกีตาร์ที่ฝึกเรียนรู้จากยูทูป ก่อนจะเสียชีวิตเตรียมจะไปคัดตัวนักกีฬาที่จังหวัดนนทบุรี ส่วนนางสุรภาหรือหญิงก็มีความห่วงใยลูกชายมาก จะไม่ยอมให้ลูกขับ จยย.ไปไหนมาไหนไกลๆ เพราะมักจะพูดเสมอว่าลูกยังเล็กอยู่ จึงทำหน้าที่ขับ จยย.รับส่งลูกไปโรงเรียนทุกวัน แม้ในคืนเกิดเหตุก็พาลูกชายไปตัดผมแต่ร้านปิดจึงกลับบ้าน กระทั่งประสบอุติเหตุดังกล่าว

ด้าน นายธนศักดิ์ พิมพานนท์ หรือหม่ำ อายุ 16 ปี ลูกชายคนโต นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนนครพนมวิทยาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อไปนี้ต้องดูแลพ่อให้ดีที่สุดแทนแม่ จากที่เคยตั้งความฝันจะไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ คงต้องพับโครงการไว้ก่อน เพราะต้องอยู่เป็นเพื่อนพ่อที่ขณะนี้เหมือนคนไร้สติ ถ้าพูดถึงแม่และน้องทีไรจะร้องไห้ทุกที สุขภาพจิตของพ่อถือว่าตอนนี้ย่ำแย่มาก “พ่อเหมือนถูกคว้าระเบิดตูมเดียวสูญเสียสิ่งที่รักในคราวเดียวถึงสองคน” นายธนศักดิ์หรือหม่ำกล่าว

ส่วนการดำเนินคดี นายทศพร รัตน์วงศ์ ผู้ต้องหา ทางตำรวจจะได้มีการสอบสวน และดำเนินคดีแยกเป็นสองส่วน  โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง  ซึ่งจะมีการสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีความผิดเกี่ยวกับคดีเสพยาเสพติดหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลตรวจร่างกาย รวมถึงความผิดเกี่ยวกับการขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่  ในส่วนที่ 2  จะได้มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับความผิด ฐานขับรถประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  ทั้งนี้ทางตำรวจยืนยันว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนเกิดเหตุ ไม่ได้มีการไล่ล่ากระชั้นชิด แต่มีการตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัย หลังมีการลักลอบขนกัญชามาจากพื้นที่ อ.ท่าอุเทน  จนกระทั่งมีการติดตามรถยนต์ดังกล่าว ในระยะห่างพอสมควร แต่คนขับไหวตัวเกรงว่าจะถูกจับกุม จึงพยายามใช้ความเร็วหลบหนี แต่เป็นเส้นทางในเขตชุมชน เทศบาลเมืองนครพนม ทำให้มีรถจักรยานยนต์ขับสวนกันไปมาอย่างคับคั่ง การเกิดอุบัติเหตุมาจากความประมาทขับรถเร็วของผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจจะได้สอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอน และประสานการดูแลเยียวยาเบื้องต้นให้กับผู้เสียชีวิตทั้งสอง พร้อมสอบสวนขยายผลติดตามหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศพสองแม่ลูกผู้เคราะห์ร้ายทางญาติจะฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน