X

5 ส.ส.นครพนม ผนึกกำลังค้านผังเมือง ยื่นประธานสภาผู้แทนฯ สั่งยุติโครงการคุมกำเนิด

นครพนม – 5 ส.ส.นครพนม ผนึกกำลังค้านผังเมืองรวม ยื่นประธานสภาผู้แทนฯถึง รมว.มหาดไทย สั่งยุติโครงการคุมกำเนิด ระอุ!!ชาวบ้านชูป้ายไม่เอาผังเมือง

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จังหวัดนครพนม กลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับการออกสำรวจวางผังเมืองรวม เพื่อเตรียมออกเป็นกฎหมายผังเมืองรวม เกี่ยวกับการวางแผนพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนม ตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ชายแดน สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ  ซึ่งมีการมอบหมายให้บริษัทเอกชน ดำเนินการสำรวจความคิดเห็น  เกี่ยวกับการวางผังเมืองรวมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ

โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน  ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็น ร่วมกับภาคประชาชนองค์กรเอกชนเป็นครั้งที่ 2  ที่โรงแรมฟอร์จูนวิวโขง  มี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม  พร้อมด้วย นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย  นางนันทนา จดจำ ผู้อำนวยการส่วนผังเมืองรวมที่ 3 ผู้แทนสำนักผังเมืองรวม นายชิตชัย อินทรพาณิชย์ โยธาธิการและผังเมืองฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง บริษัทเอกชน ทำหน้าที่สำรวจวางผังเมืองรวม   เข้าร่วมประชุม ชี้แจง ทำความเข้าใจและรับทราบปัญหา  เพื่อที่จะสรุปนำเสนอออกกฎหมายตามขั้นตอน ซึ่งมีระยะเวลาสิ้นสุดการสำรวจ สรุปความคิดเห็นภายใน วันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 จึงมีภาคเอกชน ประชาชน ร่วมประชุมกว่า 500 คน

ขณะเดียวกัน ในการประชุมครั้งนี้ได้มีกลุ่มแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ อ.เมืองนครพนม,ท่าอุเทน และ อ.บ้านแพง ประกอบด้วย นายบัญญัติ ใจช่วง ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านแพง  พร้อมด้วย นายทัศนา บุพศิริ ตัวแทนชาว อ.บ้านแพง  นายวัชรินทร์ เจียวิรยบุญญา  ประธานสภาอุตสาหกรรมฯ นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าฯ นายสากล ภูลศิริกุล นายกสมาคมสโมสรไลออนส์ ตลอดจนตัวแทนภาคเอกชน ประชาชน  ต่างไม่พอใจการออกแบบโครงการผังเมืองนี้ พร้อมมีตัวแทนชาวบ้านจากอำเภอบ้านแพง กว่า 200 คน ได้รวมตัวถือป้ายประท้วง คัดค้าน ให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ยกเลิกโครงการสำรวจออกผังเมืองรวมดังกล่าว  เนื่องจากมีการทำข้อมูลเชิงลบ จัดโซนนิ่งพื้นที่ประกอบการไม่สอดคล้องกับหลักความเป็นจริง และไม่มีการลงพื้นที่สำรวจให้ถูกต้องชัดเจน  จึงกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวิถีชีวิตคนในพื้นที่ และจะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อการพัฒนาทุกด้าน

เนื่องจากมีการออกผังเมืองรวม เป็นการควบคุมพื้นที่ ทั้งการทำอาชีพการเกษตร ธุรกิจก่อสร้าง อาคาร บ้านเรือน ที่พัก รวมถึงธุรกิจที่พักโรงแรม ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมต่างๆ  ซึ่งจะถูกควบคุมด้วยผังเมืองรวม ที่มีการจำกัดสิทธิในการดำเนินการธุรกิจการค้าทุกประเภท ถือเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชน และภาคเอกชน ไม่มีความอิสระในการประกอบธุรกิจ การลงทุน ทั้งนี้ ตัวแทนชาวบ้าน ได้ยืนยันเรียกร้องให้ทางจังหวัดนครพนม รวมถึงกรมโยธาธิการและผังเมือง  ดำเนินการแก้ไข ยุติการออกกฎหมายผังเมืองรวมดังกล่าว  เบื้องต้นทางผู้แทนส่วนผังเมืองรวม ที่ 3 ผู้แทนสำนักผังเมืองรวม จะได้นำปัญหาเสนอต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือ วางแนวทางแก้ไขต่อไป

ซึ่งก่อนหน้าจะเปิดเวทีประชุมรอบที่สอง นายสากล ภูลศิริกุล นายมานพ เหมพลชม รองประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม และนายณพจน์สกร ทรัพยสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม กลุ่มมหานคร นครพนม ได้เดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านผังเมืองรวมฉบับนี้ต่อ น.พ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เพื่อนำไปตั้งกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ในวันประชุม  นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม  พร้อมตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นหนังสือสำทับอีกครั้งต่อ นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย เพื่อนำปัญหาไปเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงยื่นเสนอต่อกรมโยธาธิการและผังเมืองให้ ยุติการออกผังเมืองรวมดังกล่าว และให้มีการแก้ไขสอดคล้องตามข้อเท็จจริง และให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด และจะต้องไม่เอื้อประโยชน์ต่อทุนจากที่อื่น

นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าฯ เปิดเผยว่า เกี่ยวกับการวางและจัดทำผังเมืองรวมเขตพัฒนาเศรษฐกิจนครพนมดังกล่าว ถือเป็นปัญหาสำคัญของ ชาวนครพนม ที่จะร่วมกันต่อต้านยุติการดำเนินการ เนื่องจากตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่ามีการดำเนินการไม่คำนึงผลกระทบประชาชน ไม่เป็นไปตามหลักการ ผังเมือง รวมจึงไม่ยึดหลักพื้นฐานความเป็นจริง มีการสำรวจวางผังมั่ว การจัดโซนนิ่งในการส่งเสริมการค้า การลงทุน และการประกอบอาชีพต่างๆ ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว มีการควบคุมกำจัดสิทธิ ทั้งการควบคุมการก่อสร้างในพื้นที่ ไปจนถึงการส่งเสริมการทำการเกษตร ในพื้นที่ไม่ใช่ทำเลที่สามารถดำเนินการได้ สิ่งที่ตามมาคือ ประชาชนถูกคุมกำเนิดทุกด้านในการประกอบอาชีพ ไม่สามารถที่จะทำอาชีพตามโครงสร้างพื้นฐานของชาวนครพนมได้ จึงส่งผลร้ายในระยะยาว กระทบต่อการพัฒนา เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว สำหรับปัญหาเชื่อว่ามาจากขาดการมีส่วนร่วม ในการสำรวจความคิดเห็น   และยังเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนในอนาคต  ดังนั้น ทางภาคเอกชน ภาคประชาชน ขอให้มีการยุติการวางผังเมืองรวมดังกล่าว และให้มีการสำรวจดำเนินการใหม่ทั้งหมด ให้สอดคล้องตามหลักพื้นฐาน ไม่กระทบต่อความเป็นอยู่ชาวบ้าน  ซึ่งเบื้องต้นในการคัดค้าน ได้ส่งหนังสือให้ ส.ส.นครพนม ไปเสนอต่อรัฐบาล ไปจนถึง เสนอให้กรมโยธาและผังเมืองเร่งแก้ไข เพราะหากปล่อยให้เดินหน้า ออกเป็นกฎหมายตามขั้นตอน เชื่อว่านครพนมถึงจุดจบแน่นอน

ด้าน นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับเรื่องจากภาคเอกชน ประชาชน และได้มีโอกาสร่วมประชุมหารือรับฟังความคิดเห็น มองว่าการดำเนินการวางผังเมืองรวมครั้งนี้ ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้องตามหลักความเป็นจริง ซึ่งการวางผังเมือง ได้กำหนดโซนนิ่ง เพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจทุกด้าน ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การลงทุนต่างๆ ในพื้นที่ อ.เมืองฯ,ท่าอุเทน และ อ.บ้านแพง  แต่ไม่ตรงกับพื้นฐานความเป็นจริง ที่สำคัญยังขัดแย้งกับ ปัจจัยพื้นฐานในพื้นที่ รวมถึงมีการลิดรอนสิทธิประชาชน หากออกเป็นกฎหมาย ประชาชนจะเดือดร้อนแน่นอน ทั้งเรื่องการสร้าง อาคาร บ้านเรือน หรือแม้แต่การทำธุรกิจทุกด้าน จะถูกควบคุมทั้งหมด ด้วยผังเมืองรวมฉบับนี้ แม้แต่การสร้างบ้าน ยังไม่สามารถจะสร้างตามความชอบของชาวบ้านได้ จะถูกจำกัดด้วยการควบคุมพื้นที่ เช่นจำกัดขนาดความสูง ไปจนถึงพื้นที่การค้าการ ลงทุน จะต้องมีการขออนุญาตให้ตรงตามผังเมืองกำหนดเป็นกฎหมาย

ล่าสุด กลุ่ม ส.ส.จังหวัดนครพนม ประกอบด้วย น.พ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.ฯเขต 1พรรคภูมิใจไทย/รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นางมนพร เจริญศรี ส.ส.ฯเขต 2 นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.ฯเขต 3 และนายชวลิต วิชยสิทธิ์ ส.ส.ฯเขต 4 พรรคเพื่อไทย ได้ผนึกกำลังโดยไม่ได้แยกว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นความเดือดร้อนของประชาชนชาวนครพนมทั้งจังหวัด จึงได้ร่วมกันยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านไปยัง พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมโยธาและผังเมือง เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง สอดคล้องกับสภาพความจริงของประชาชน

ซึ่งประชาชนเชื่อว่าการวางผังเมือง เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนจากที่อื่น และเป็นการวางแผนที่แยบยลของผู้เก็งกำไรที่ดิน หากมีการปล่อยให้กฎหมายผังเมืองฉบับนี้คลอดออกมา ประชาชนตั้งแต่อำเภอบ้านแพง ท่าอุเทน และอำเภอเมืองฯ โดยเฉพาะผู้มีที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำโขง จะได้รับผลกระทบจากผังเมืองนี้ ตลอดจนพื้นที่สีเขียวที่ผังเมืองทาสีให้เป็นเขตการเกษตร จะทำอย่างหนึ่งอย่างใดนอกเหนือจากนี้ถือว่าผิดกฎหมาย ทั้งที่สภาพความเป็นจริงพื้นที่ดังกล่าว คือ การเจริญเติบโตของเมืองที่จะขยายไปแถบนั้น แต่กลับถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่การเกษตร หรือบางพื้นที่ที่ถูกกำหนดเป็นสีเหลือง ตามคำนิยามของผังเมือง คือพื้นที่ชุมชนหนาแน่นน้อย ก็ถูกจำกัดการสร้างบ้านเรือน ในอัตราส่วน 1ต่อ 1คือสร้างบ้านได้แค่ชั้นครึ่ง หากเกินจะผิดกฎหมายทันที  คล้ายผู้วางแปลนต้องการต้อนประชาชน ที่จะทำธุรกิจโรงแรม อาคาร สถานบันเทิง ฯลฯ ให้ไปเช่าอยู่ในเขตที่มีกลุ่มทุนรายหนึ่ง ที่ได้ลงนามทำสัญญาในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษไว้

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน