เพชรบุรี-รองผู้การฯเพชรบุรี แจงถูกกลั่นแกล้ง ร้องขอให้ ผบ.ตร.เป็นที่พึ่ง แต่ยังไร้คำตอบ
ความคืบหน้ากรณีรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ทำหนังสือร้องขอ ผบ.ตร.เป็นที่พึ่ง ให้ตรวจสอบหลังถูกกลั่นแกล้ง แต่กลับโยนให้ระดับล่างตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง อีกทั้งเมื่อผลสอบสวนของคณะกรรมการ ยืนยันว่าตนเป็นนายตำรวจน้ำดี แต่เรื่องกลับเงียบหาย ไปไม่ถึง ผบ.ตร.
พ.ต.อ.บรรจบ กล่าวว่า จากกรณีที่ตนได้ทราบว่ามีไลน์คำสั่งลับ จากผู้บังคับบัญชาระดับสูง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้จากทนายความ เรื่องการสั่งล๊อคเป้าหมาย 1 พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ซึ่งทำให้ตนรู้สึกว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น ในแวดวงข้าราชการตำรวจลักษณะนี้ เพราะไม่ใช่เป็นการตรวจสอบแบบปกติ และอาจจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อการปกครองได้ ซึ่งตนเองนั้น ถ้าเห็นสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับใครก็ตาม ก็จะช่วยตรวจสอบเพราะเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน
ซึ่งในรายของ พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี นั้น ตนเองก็ตามเหมือนรายอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ที่ตนสนใจเรื่องของ พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ เพราะได้ติดตามพบว่า พ.ต.อ.ไพรัตน์ ได้มีหนังสือร้องขอให้ ผบ.ตร.เป็นที่พึ่ง ในเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้ง ถูกยัดข้อหา
ตามหนังสือที่ทำถึงผบ.ตร. ได้มีการร้องขอให้ ผบ.ตร.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องที่ถูกกลั่นแกล้ง และให้ตรวจสอบความประพฤติปฎิบัติตนด้านอื่น ๆโดยทั่วไปอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า จากการที่ พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ทำหนังสือไปขอให้ ผบ.ตร. เป็นที่พึ่งนั้น นับได้ว่าเป็นผู้มีระเบียบวินัย อีกทั้งมีมารยาท ในการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี เพราะตามกฎ ก.ตร.นั้น บัญญัติให้ผู้บังคับบัญชา ต้องเป็นที่พึ่งพาของผู้ใต้บังคับบัญชา และต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
และจากการติดตามตรวจสอบหนังสือที่ร้องขอให้ ผบ.ตร.เป็นที่พึ่ง เป็นที่ยุติว่า ตร.ส่งไปให้ทาง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ดำเนินการ แต่ภาค 7 ส่งต่อไปให้ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ที่ปกครองอยู่ใกล้ชิด จะได้ทราบข้อเท็จจริงได้ถูกต้องว่า พ.ต.อ.ไพรัตน์ มีความประพฤติปฎิบัติตนเป็นตำรวจดีหรือไม่ดีกันแน่
สุดท้ายผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการที่ ผบก.ภ.จว.เพชรบุรีตั้งขึ้นมา ตรวจสอบลงความเห็นว่า พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ เป็นนายตำรวจที่ดี เป็นแบบอย่างของข้าราชการตำรวจมาโดยตลอด
อีกทั้งในวันที่ถูกล็อคเป้าหมายการตรวจทรงผม ก็มีการตัดผมเกรียนตามระเบียบทุกประการ ซึ่งในการสอบข้อเท็จจริงยังมีการสอบพยานหลายปาก ซึ่งพบว่า พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ มีคุณความดีเสียสละเพื่อหน่วยงานและบุคลากร อันเป็นการทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ซึ่งการรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวนี้ได้ดำเนินการเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องกลับเงียบหายไป
พ.ต.อ.บรรจบ กล่าวต่อว่า เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบความประพฤติของ พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ มีมติความเห็นแล้วก็ควรต้องส่งเรื่องเสนอให้ ผบ.ตร.ได้ทราบถึงความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ร้องขอให้ ผบ.ตร.เป็นที่พึ่ง ไม่ใช่ตรวจสอบแล้ว พอรู้ว่าเขาเป็นคนดีก็เก็บเรื่องเงียบไว้แบบนี้
และขอฝากไปถึงผู้บังคับบัญชาทุกๆ ท่าน ให้ยึดถือปฏิบัติกับผู้ใต้บังคับบัญชาให้เกิดแต่ความเป็นธรรม ดังคำที่ว่า”คนดีต้องปกป้อง อย่าให้คนดีถูกรังแก”
