X

เผยไลน์ลับเมื่อปี 61 นายสั่งล็อค รองผู้การฯเมืองเพชร เป็นเป้าหมาย1 ชงลงโทษหัวไม่เกรียน

เพชรบุรี- คืบหน้ากรณี ส.ต.ท.ชงเอง สั่งย้าย 3 รองผู้การเมืองเพชร ฐานไม่ตัดผมสั้น เมื่อปี 2561 จนเป็นเหตุให้ มีการฟ้องร้อง ของรองผู้การฯ กับ ผู้ตรวจ

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 22 พ.ค.62 ความคืบหน้ากรณีที่มีการฟ้องร้องดำเนินคดี ระหว่าง พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี กับ ส.ต.ต.กมลวิสิฐ ลิบลับ ผบ.หมู่งานสาย ตรวจ 1 บก.จร.ตั้งแต่ปี 2561 ที่อ้างคำสั่ง จเรตำรวจแห่งชาติ ให้เดินทางมาตรวจทรงผมนายตำรวจที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี

โดยหนึ่งในนั้นคือ พันตำรวจเอกไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ซึ่งได้มีการตัดผมตรงตามระเบียบ แต่กลับถูกกล่าวหาว่ากระทำการผิดระเบียบ เรื่องทรงผม เป็นเหตุให้มีคำสั่งลงโทษ เรียกเข้าศูนย์ฝึกเป็นเวลานานกว่า 15 วัน จนนำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดี

แม้เหตุการณ์นี้ได้ผ่านมา 1 ปีเต็ม แต่ผู้สื่อข่าวและประชาชน ยังคงติดตามและให้ความสนใจมาโดยตลอด

ล่าสุด พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ อดีตนายตำรวจชื่อดัง ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ปัจจุบันมีตำแหน่งประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง (ปปท.) มีความข้องใจและติดตามเหตุการณ์ดังกล่าวมาโดยตลอด

พร้อมเผยกับผู้สื่อข่าว ในจังหวัดเพชรบุรี ว่า ได้ทราบเรื่องจากทนายความของ พันตำรวจเอก ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งในวันที่ 20 มิถุนายน 2562 จะมีการสืบพยานโจทก์และจำเลย


โดยทางทนายความได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญคือไลน์สั่งการระหว่างจเรตำรวจและ ส.ต.ท.กมลวิสิฐ โดยในข้อความ มีการสั่งการให้ ส.ต.ท.กมลวิสิฐ ติดตาม พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ในทางลับ เป็นเป้าหมาย 1 ในเรื่องการตัดทรงผมตามระเบียบหรือไม่


ซึ่งต่อมา ส.ต.ท.กมลวิสิฐ มีการรายงานว่า พบตัว เป้าหมาย 1 แล้ว ตัดทรงผมเป็นตามระเบียบ แต่กลับมีคำสั่งจาก จเรตำรวจแห่งชาติ ให้ลงโทษ พ.ต.อ.ดร.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ และให้ย้ายไปประจำที่ ศปก.ในทันที


พ.ต.อ.บรรจบ สุดใจ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้จึงทำให้ตนคับข้องใจมาก ว่าข้าราชการตำรวจทำงานกันแบบไหน เป็นไปด้วยสุจริตหรือไม่ หรือว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน ซึ่งตนในฐานะเป็นอดีตนายตำรวจ และเป็นอาจารย์สอนนายตำรวจ มาแล้วหลายรุ่น จึงอยากให้เรื่องนี้กระจ่าง และเกิดความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาวงการตำรวจถูกจับตามองจากประชาชนอยู่ตลอด

จึงอยากขอให้ช่วยกัน ตรวจสอบข้อเท็จจริง ใครผิด ใครถูก ก็ว่ากันไปตามกฏหมาย และการกลั่นแกล้งกันในวงการสีกากี ไม่ควรมี และไม่ควรเกิดขึ้นในลักษณะนี้อีก ตนอยากให้เรื่องนี้กระจ่างตำรวจดีๆ จะได้มีกำลังใจ ในการทำหน้าที่ต่อไป.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน