ผู้เสพสารภาพ ซัดทอดถึงเอเย่นต์ ตำรวจใช้บัตร ปปส. ในเหตุเร่งด่วน เข้าตรวจค้น ได้ทั้งยาบ้าและลูกปืน

เพชรบุรี-ตำรวจชุดสืบสวน สภท่ายาง ใช้เหตุเร่งด่วน เข้าตรวจค้นจับกุมยาบ้าและกระสุนปืน ได้จากเอเย่นต์ ที่ถูกซัดทอดมาจากผู้เสพ

การปราบปรามแหล่งลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ในเขตจังหวัดเพชรบุรี ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้น ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที 17 พ.ค.62 ขณะ พ.ต.ต.ประไพ โต้ตอบ สว.สส.สภ.ท่ายาง และ ร.ต.อ.ชัยชนะ ครึกครื้น รอง สว.สส.สภ.ท่ายาง พร้อมกำลัง

ได้ควบคุมตัวนายสุวิทย์ ศรีเมือง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม8ต.วังจันต์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี  พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 208 เม็ด เครื่องกระสุนลูกซองจำนวน 25 นัด มาทำการสอบสวน

โดยพฤติการณ์ก่อนจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ออกสืบสวนหาข่าว ในพื้นที่รับผิดชอบ ตามคำสั่งการของ พ.ต.อ.อาชวิน บุญธรรมเจริญ ผกก.สภ.ท่ายาง และ พ.ต.ท. สมบูรณ์ ชูสกุล รอง ผกก สส.สภ.ท่ายาง เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและตรวจสอบแหล่งมั่วสุมตาม พรบ.ยาเสพติด แต่ขณะเดินทางออกตรวจสอบอยู่บนถนนสายเขื่อนเพชร-แก่งกระจาน

ได้พบกับนายแก้ว ขับขี่รถอยู่บนถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่จำได้ว่า ชายดังกล่าวมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ พร้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจค้น แต่นายแก้วสารภาพว่า ตนไม่เหลือสิ่งผิดกฏหมายไว้ในครอบครองแล้ว เพราะเพิ่งเสพยาบ้าไปหมดเมื่อสักครู่ ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ

จากนั้นได้บอกถึงแหล่งซื้อขายยาบ้าให้เจ้าหน้าที่ทราบ และยืนยันอีกว่ายาบ้าอีกจำนวนหลายเม็ด ยังอยู่ที่ผู้ลักลอบขายยาบ้า ซึ่งอาศัยอยู่เขตรอยต่อระหว่างอำเภอท่ายางกับอำเภอแก่งกระจาน

ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงใช้เหตุเร่งด่วนซึ่งเกรงว่ายาเสพติดจะถูกเคลื่อนย้าย จึงใช้บัตร ปปส.เพื่อเข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 120 ม8 ต.วังจันต์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กระทั่งพบของกลางเป็นยาบ้าและกระสุนปืนตามจำนวนดังกล่าว พร้อมควบคุมตัวนายสุวิทย์ ศรีเมือง เพื่อดำเนินคดี

โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ยาบ้าจำนวนดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยตนรับซื้อมาจากนายเอ๋ ชาวอำเภอแก่งกระจาน เพื่อนำมาแบ่งขายในราคาเม็ดละ 80 บาท โดยทำมาแล้วนานหลายเดือน จนมาถูกจับกุมในที่สุด ส่วนอาวุธปืนตนได้นำไปขายให้กับพรรคพวกรายหนึ่งซึ่งเหลือไว้เพียงกระสุนเท่านั้น

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา มียาเสพติดประเภทที่1ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป./