(มีคลิป) นักข่าวเจอทหารกร่าง เกือบถูกทำร้ายร่างกาย กลางดึกบนถนนเพชรเกษม

เพชรบุรี-เหตุระทึกกลางดึก บนถนนเพชรเกษมพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบุรี นักข่าวจังหวัดสมุทรปราการ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ให้ติดตามคู่กรณีที่แต่งตัวคล้ายทหารขับรถจี้ เมื่อนักข่าวจอดหวังสอบถาม แต่กลับถูกจะเข้ามาทำร้ายร่างกายอีกด้วย ล่าสุดมีทหารโทรมา ขอโอกาสให้ทหารกร่าง แต่นักข่าวยังคงเดินหน้าเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.ของคืน วันที่ 1 ก.พ.65 ภาพจากกล้องหน้ารถและท้ายรถของ นายพงศกร รอดภัย ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ชัดเจน ขณะขับขี่รถยนต์ส่วนตัวมาตามถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 157 หรือแยกขวาเข้าเมืองเพชรบุรี โดยภาพจากกล้องหน้ารถจะเห็นว่า นายพงศกรขับมาตามถนนในเลนกลาง ซึ่งเลนซ้ายมีรถบรรทุกส่วนเลนขวาว่าง ปรากฏว่า รถกระบะคู่กรณีได้ขับจี้ท้ายรถของคุณพงศกร แล้วเปิดไฟสูงไล่ ทั้งที่ในเลนขวาว่างแต่ไม่ยอมแซง ระหว่างที่ถูกเปิดไฟสูงไล่คุณพงศกรก็ขับตามเลนปกตกจนเข้าเลนซ้าย เพื่อให้รถคู่กรณีขับออกขวาไป แต่คู่กรณีกลับแซงขวาแล้วเข้าซ้ายในเลนของคุณพงศกร แล้วเบรกใส่หลายครั้ง คุณพงศกรจึงออกขวาเพื่อแซงคู่กรณีเพราะไม่อยากเกิดปัญหา

แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมจบ และขับจี้ท้ายอย่างกระชั้นเปิดไฟสูงกระพริบใส่หลายครั้งเพื่อให้จอด คุณพงศกรจึงตัดสินใจจอดชิดขอบทางในเลนขวาสุด แต่กลับถูกคู่กรณีเปิดกระจกและตะโกนด่า จากนั้นเรียกให้เข้าซ้ายเพื่อหยุดพูดคุย พอรถจอดซ้ายต่อท้ายรถคู่กรณีได้ ชายที่ขับรถกระบะแต่งกายคล้ายทหาร ได้เดินลงมาจากรถและต่อว่าพร้อมกับหาเรื่องคุณพงศกร

จนเจ้าตัวออกจากรถไปเจรจา ซึ่งมีกล้องวงจรปิดที่รถจับภาพได้ทั้งหมด แต่คู่กรณีกลับไม่ยอมและพยามหาเรื่องง้างมือจะทำร้ายร่างกายคุณพงศกร จนมีการสอบถามว่าเป็นทหารสังกัดใด และฝ่ายคุณพงศกรจึงแสดงตัวว่าเป็นนักข่าว จากนั้นจึงนำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกวีดีโอเพื่อเป็นหลักฐาน เป็นจังหวะนั้นชายที่แต่งตัวคล้ายทหารท่านนี้ เข้าล็อกที่ข้อมือคุณพงศกรอย่างรุนแรง จนเพื่อนของคุณพงศกรที่นั่งรถมาด้วยกันเข้าห้ามปราม ชายแต่งตัวคล้ายทหารจึงขึ้นรถขับออกไป

หลังเกิดเหตุนายพงศกร ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อขอให้ติดตามชายแต่งตัวคล้ายทหารคนดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และได้นำคลิปดังกล่าวลงเผยแพร่ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว โดยเจ้าตัวระบุว่าภายในรถมีเพื่อนนักข่าวด้วยกันหลายสังกัดนั่งมาด้วยรวม 4 คน จนมาเจอคู่กรณีขับมาหาเรื่อง ยืนยันไม่ได้ขับรถปาดหรือขับรถขวางทางคู่กรณีมาก่อนแต่อย่างใด ล่าสุดมีนายทหารยศพันเอกนายหนึ่งติดต่อคุณพงศกร เพื่อขอโอกาสให้นายทหารคู่กรณี แต่ทางด้านคุณพงศกรยังไม่ได้มีการเจรจาพูดคุยแต่อย่างใด คาดเตรียมจะเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป