เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันนี้ (10 ก.ค. 61) ร.ต.อ.สุขสันต์ ปัสสาวะกัง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุพบศพลอยอืดอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหลังวัดปลดสัตว์ หมู่ที่ 5 ต.บ้านแห อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลอ่างทอง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบริเวณริมตลิ่งพบศพหญิงสาวอายุประมาณ 30 ปี นอยลอยขึ้นอืดอยู่ในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อสีขาว ผมยาวกางเกงสเตย์สีดำขาสั้น ที่บริเวณลำคอสวมสร้อยสแตนเลสมีพระห้อยอยู่ 2 องค์ ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวชัญญากร สิงห์สาย หรือน้องปุ้ย อายุประมาณ 35 ปี เป็นข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการแรงงานปฏิบัติการ อยู่สำนักงานแรงงานจังหวัดอ่างทอง
จากการสอบถามนายสายัณห์ จันทร์แก้ว อายุ 78/1 ถนนเทศบาล 1 ต.บางแก้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ผู้พบศพกล่าวว่า ตนมีอาชีพหาปลา โดยวันนี้ก็ออกเรือหาปลาตามปกติ และระหว่างที่หาปลาอยู่นั้น ก็ได้สังเกตเห็นเหมือนมีอะไรลอยอยู่กลางแม่น้ำ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นหุ่น แต่มองไปมองมาเริ่มไม่แน่ใจจึงได้ตามเพื่ออีกคนมาดู พิจารณาดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นศพ จึงได้ช่วยกันใช้เรือลากศพเข้ามาที่ฝั่งก่อนที่จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ร.ต.อ.สุขสันต์ ร่วมกับแพทย์เวรทำการตรวจสอบและชันสูตรสภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือถูกข่มขืนแต่อย่างใด ในตัวผู้ตายไม่พบเอกสารระบุว่าเป็นใครมาจากไหน จึงได้ประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรต่าง ๆ ในจังหวัดว่าที่ไหนมีการแจ้งคนหายเป็นหญิงสาวรูปร่างการแต่งกายคล้ายผู้เสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งต่อมาทราบว่ามีคนแจ้งคนหายไว้ที่ สภ.เมืองอ่างทอง มีรูปร่างใกล้เคียง จึงได้ตามหาญาติมาดู ก็พบและยืนยันว่าเป็นศพดังกล่าว คือนางสาวชัญญากร สิงห์สาย หรือน้องปุ้ย อายุ 37 ปี ข้าราชการสำนักงานแรงงานจังหวัดอ่างทอง โดยจากการสอบถามญาติทราบว่านางสาวชัญญากร หรือน้องปุ้ย นั้นหายออกจากบ้านตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา โดยบอกกับที่บ้านว่าจะไปข้างนอก จากนั้นก็ไม่กลับเข้ามาบ้านอีกเลยจนกระทั่งมาพบเป็นศพลอยอยู่กลางแม่น้ำ โดยทางญาติได้กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้น้องปุ้ยได้บ่นให้ที่บ้านฟังว่าเครียดเรื่องงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับน้องปุ้ยนั้น ทราบจากแหล่งข่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยรับราชการอยู่กรุงเทพ และต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดอ่างทอง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5-6 ก.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้มาทำงาน ทางที่ทำงานได้โทรไปหาเมื่อวันที่ 5 ก.ค. น้องปุ้ยแจ้งว่าพ่อไม่สบาย มีอาการน็อคเบาหวานต้องไปดูไม่สามารถมาทำงานได้ และวันที่ 6 ก.ค. น้องปุ้ยโทรมาบอกว่าตัวเองไม่สบายขอลาหยุดอีกวัน จากนั้น ก็ไม่กลับเข้ามาทำงานอีกเลย ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาทางสำนักงานฯ ก็ไม่สามารถโทรติดต่อน้องปุ้ยได้ จนมาพบอีกทีว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าก่อนหน้านี้น้องปุ้ยนั้นก็ได้ใช้เวลาว่างไปถือศีลที่วัดต้นสนอยู่บ่อย ๆ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกตามหาจุดที่คาดว่าน้องปุ้ยจะโดดน้ำ และจะได้ทำการสอบสวนญาติ และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุที่คาดว่าน่าจะทำให้น้องปุ้ยคิดสั้น ก่อนนำศพส่งชันสูตรเพื่อสาเหตุการตายที่แน่ชัดต่อไป
