X

รองนายกฯ “อนุทิน” และ รมว.สธ ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส

นราธิวาส-รองนายกฯ “อนุทิน” และ รมว.สธ ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมเสริมพลังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19

วันนี้ (15 ตุลาคม 2564) เวลา 11.45 น.ที่โรงเรียนนราสิกขาลัย อ.เมือง จ.นราธิวาส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางพร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่หน่วยบริการฉีดวัคซีน โดยวันนี้จะเป็นการฉีดวัคซีน Pfizer ให้แก่กลุ่มนักเรียนที่มีอายุ 12 ปี รวมทั้งติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมมอบนโยบายในการควบคุม ป้องกันโรค ลดผู้ป่วย ลดผู้เสียชีวิตและเพิ่มความครอบคลุมการรับวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย


นายแพทย์ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวรายงานสถานการณ์ COVID-19 และมาตรการในการดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ข้อมูล ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2564 จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 494 ราย (สะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 จำนวน 31,398 ราย) เสียชีวิต จำนวน 4 ราย (สะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 จำนวน 351 ราย) หายป่วยกลับบ้านแล้ว สะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 จำนวน 27,005 ราย และอยู่ระหว่างรักษา จำนวน 3,908 ราย กระจายไปตามโรงพยาบาลชุมชน (โรงพยาบาลอำเภอ) 11 แห่ง โรงพยาบาลทั่วไป (นราธิวาสราชนครินทร์และสุไหงโก-ลก) 2 แห่ง HOSPITEL 1 แห่ง โรงพยาบาลสนาม 15 แห่ง รวมทั้ง CI 3 แห่ง และ HI 171 คน พื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง กระจายไปทั้ง 13 อำเภอ ภาพรวมในขณะนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น ปัจจัยหลักมาจากการติดเชื้อภายในครอบครัว ภายในสถานที่ทำงาน มีการสัมผัสภายในบ้าน ในชุมชนและจากการร่วมกิจกรรมเดียวกัน มาตรการในการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ภายใต้การดำเนินการของ ศบค.จ.นราธิวาส โดยมีนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธาน และมี นพ.ชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เป็นเลขานุการ จังหวัดนราธิวาสได้มีการกำหนดเป้าหมายในการควบคุม ป้องกัน COVID-19 จำนวน 4 เป้าหมายหลักได้แก่ 1.ป้องกันคลัสเตอร์ใหม่ 2.ใส่ใจป่วยหนัก 3.พิทักษ์ป่วยตาย และ 4.คลายล็อกดาวน์ โดยมาตรการที่สำคัญๆคือ การล็อกดาวน์เฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาด, การตรวจ ATK ในการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยง, การจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ให้ทันเวลาก่อนที่เชื้อจะลงปอด,การเร่งรัดฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมอย่างน้อย ร้อยละ 70 ทุกกลุ่มเป้าหมายภายในเดือนตุลาคม 2564 โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่มีอัตราป่วยตายสูง,เพิ่มเตียง CI, การประชาสัมพันธ์เชิงรุกตามมาตรการ UNIVERSAL PREVENTION, การจัดทำ COVID-19 Free ZONE, COVID-19 Free Setting เป็นต้น


นอกจากนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการปกป้องคนนราธิวาสให้ปลอดภัยจาก COVID-19 ภายในเดือนตุลาคม 2564 จะต้องเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ครอบคุลม 70% ของประชากรชาวจังหวัดนราธิวาส ภายใต้กิจกรรม “SAVE NARA NARA SAFE ปกป้องคนนราด้วยวัคซีน” เป้าหมาย 70 % ของประชากรชาวจังหวัดนราธิวาส จะต้องฉีด 563,100 คน จากฐานประชากร 804,429 คน ผลงานรวมการฉีดวัคซีน ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2564 จำนวน 305,362 คน คิดเป็นร้อยละ 37.96 จำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย พบว่า กลุ่ม 608 มีความครอบคลุม ร้อยละ 48.85 และกลุ่มนักเรียน ร้อยละ 41.26 อำเภอที่มีผลงานการฉีดวัคซีนสูงสุด คือ อ.เมืองนราธิวาส รองลงมาคือ อ.สุไหงโก-ลก ​อย่างไรก็ตามหลังเสร็จภารกิจที่โรงเรียนนราสิกขาลัย นายอนุทิน รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยตอบเพียงว่า จะต้องไปรีบไปประชุม


สำหรับภารกิจของนายอนุทินหลังจากนี้ จะเข้าประชุมร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุขที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลาง จ.นราธิวาส โดยจะมีการมอบนโยบายในการปฏิบัติงานในการควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสอีกด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน