นราธิวาส-มุสลิมแห่เททองเตรียมใช้เงินฉลองรายออีดิ้ลอัฏฮา หลังราคาขยับแตะเกือบ 3 หมื่น
สำหรับบรรยากาศตามห้างทองในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณถนนภูผาภักดี ต.บางนาค อ.เมืองจ.นราธิวาส จากการตระเวนสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่า ได้มีบรรดาลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิมที่เดินทางมาจากหลากหลายพื้นที่ใกล้เคียงของ จ.นราธิวาส เข้าไปใช้บริการตามห้างทองต่างๆ อย่างหนาตาตั้งแต่ช่วงเช้าจรดช่วงเย็นก่อนที่ห้างทองจะปิดให้บริการ โดยพบว่าการไปใช้บริการในห้างทองทุกๆ ห้างของ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นช่วงใกล้ถึงเทศกาลฮารีรายออีดิ้ลอัฏฮา ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1440 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 ก.ค.63 คือวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และถือเป็นวันหยุดราชการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถานประกอบการที่มีลูกจ้างและพนักงานที่นับถือศาสนาอิสลาม
ทั้งนี้จากการที่ราคาทองคำได้ขยับขึ้นเป็นระยะ จนเกือบแตะ 30,000 บาท โดยล่าสุด (30 กค.63) ราคาทองคำเปิดตลาดเพิ่มขึ้น 50 บาท ทำให้ราคาทองรูปพรรณแตะอยู่ที่บาทละ 29,600 บาท ใกล้แตะ 30,000 บาทแล้ว และจากผลพวงดังกล่าวนี้ ทำให้ส่งผลกระทบต่อชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อการจับจ่ายหาซื้อทองรูปพรรณมาสวมใส่ เนื่องจากตามหลักนิติศาสตร์อิสลามนั้นอนุญาตให้สุภาพสตรีสวมใส่เครื่องประดับที่ทำมาจากทองคำและเงินได้ตามประเพณีนิยม ส่วนสุภาพบุรุษไม่สามารถสวมใส่ทองคำได้ เนื่องจากเป็นสิ่งต้องห้าม และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาทองที่ขยับสูงขึ้น ทำให้ชาวไทยมุสลิมที่เป็นหญิงต่างพากันนำทองรูปพรรณมาเทขายที่ห้างทองต่างๆ เป็นจำนวนมากกว่าการไปซื้อทองใหม่มาสวมใส่
โดยที่ห้างทองฮ้างหว่าเต้ง 1 ถ.ภูผาภักดี ปรากฏว่าเนืองแน่นไปด้วยผู้มาใช้บริการ ขณะที่พนักงานของห้างทองแห่งนี้เปิดเผยว่า ในช่วงที่ราคาทองขยับสูงขึ้น โดยเป็นราคาสมาคม ทางร้านเปิดรับซื้อทองคำแท่ง 29,000 บาท ขายออกบาทละ 29,100 บาท และเปิดรับซื้อทองรูปพรรณอยู่ที่ 28,470.48 บาท ส่วนราคาขายออกอยู่ที่ 29,600 บาท อย่างไรก็ตามอีกทั้งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทางห้างทองทุกร้านเข้มงวดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด โดยมีการทำฉากกั้นระหว่างพนักงานและลูกค้า เน้นย้ำให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่ร้านเตรียมไว้ในจุดที่กำหนดอีกด้วย
