พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อัญเชิญพวงมาลาหลวงพระราชทานไปวางหน้าหีบศพ นายมนตรี บุ่คำ อายุ 63 ปี ประธานอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จังหวัดอุบลราชธานี ที่ศาลาวัดแจ้ง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองอุบลราชธานี
โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนร่วมเป็นเกียรติในพิธี ขณะที่ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา มอบผ้าไตรจำนวน 3 ชุดให้กับนางสมนิต บู่คำ ภรรยานายมนตรีและญาติ โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้กล่าวให้แง่คิดและกำลังใจกับครอยครัวบู่คำ
นายมนตรี เกิดเมื่อวันที่ 25 พ.ค.2499 ที่อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางน้ำและเรือ จนเข้ามาประกอบกิจการอู่เรือในตัวเมืองอุบลราชธานี และเข้ารับอบรวมเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฝ่ายพลเรือนในปี 2541
มีผลงานเป็นที่ประจักษ์งานกู้ภัยมากมายในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุคคลที่เสียสละทั้งกาย ใจ และ ทรัพย์ส่วนตัวในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่าง อีกทั้งยังเป็นวิทยากรในการอบรมกู้ภัย การใช้เรือยนต์ ท้องแบน เจ็ตสกี จนได้รับรางวัลเชิดชูทรงเกียรติตลอดมา ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้นายมนตรี ถูกยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ของคนอุบลที่ทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย
ข่าวน่าสนใจ:
นางสาวธัญญาพร บู่คำ อายุ 37 ปี หลานสาว เล่าว่าวันเกิดแหตุป๋าแสงได้รับมอบหมายให้เตรียมเรือท้องแบนเพื่อรับ คณะของรองผู้ว่าราชการจังหวัดออกแจกจ่ายถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยริมฝั่งแม่น้ำมูล ขณะที่ป๋าแสงกำลังยกถังน้ำมันขึ้นเรือ เกิดอาการวูบล้มลงเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงจึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทำ CPR ก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่ด้วยป๋าแสงตัวใหญ่ประกอบกับระดับน้ำห่างจากขอบผนังกั้นน้ำเกือบ 2 เมตรทำให้การ CPR หยุดไปประมาณ 5 นาที แต่แพทย์ได้ยื้อได้ไม่นานป๋าแสงก็จากไปอย่างสงบ (1 ต.ค.)นางสาวธัญญาพร ยังกล่าวอีกว่าครอบครัวรู้สึกเสียใจที่สูญเสียที่เสาหลักของครอบครัว แต่ก็ดีใจภูมิในเกียรติบารมีที่ ป๋าแสงไว้มานานกว่า 30 ปี
ด้านนางสมนิต บู่คำ อายุ 63 ปี ภรรยา กล่าวว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียใจที่ต้องสูญเสียสามีไป แต่ก็ภูมิใจที่สามีได้ปฏิบัติหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อีกทั้งเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเมตตารับสามีไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เมื่อเสียชีวิตพระงองค์ยังได้พระเมตตาพระราชทานพวงมาลาหลวง พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณรับศพรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ พระราชกระแสทรงชมเชย และให้ตั้งโรงครัวพระราชทาน
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: